ttb เดินหน้า 4 แผนกลยุทธ์ ปี 67 เคียงข้าง SME และธุรกิจไทย ยกระดับดิจิทัลโซลูชัน ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรม เปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว | Techsauce

ttb เดินหน้า 4 แผนกลยุทธ์ ปี 67 เคียงข้าง SME และธุรกิจไทย ยกระดับดิจิทัลโซลูชัน ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรม เปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เดินหน้าขับเคลื่อน 4 แผนกลยุทธ์สำหรับลูกค้าธุรกิจปี 2567 มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ทั้งโซลูชันที่ตอบโจทย์ในแต่ละอุตสาหกรรม สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว ยกระดับดิจิทัลโชลูชันในทุกธุรกรรมของธุรกิจ และมอบโซลูชันบริหารความเสี่ยงที่ครบครันสำหรับผู้นำเข้าส่งออก พร้อมเป็นพันธมิตรให้เอสเอ็มอีและลูกค้าธุรกิจ เติบโตอย่างยั่งยืน

นายศรัณย์ ภู่พัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ทีทีบีมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องแก่เอสเอ็มอีและลูกค้าธุรกิจให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในทุกด้าน ด้วยแนวคิดการมองลูกค้าเป็น 360 องศา โดยมี ttb business one ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเชื่อมต่อดิจิทัลโซลูชันทางธุรกิจ สำหรับในปี 2567 นี้ ทีทีบีเดินหน้า LEAD the CHANGE for Financial Well-being of SME and Corporate Customers เป็นผู้นำในการสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ซัพพลายเชนของแต่ละอุตสาหกรรมสำหรับธุรกิจทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ พร้อมสนับสนุนลูกค้าสู่การเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน ตลอดจนยกระดับการทำธุรกรรมทางธุรกิจสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ ด้วย 4 กลยุทธ์ ได้แก่ 

กลยุทธ์ที่ 1 ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรมด้วยโซลูชัน 360 องศาที่ออกแบบมาเพื่อแต่ละอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ (Industry Solutions)  

ทีทีบีมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและตอบโจทย์เฉพาะให้แต่ละอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งสินเชื่อ ธุรกรรมการเงินทั้งในและต่างประเทศ โดยดูแลตั้งแต่ธุรกิจ การเงินส่วนตัวสำหรับเจ้าของกิจการ รวมถึงพนักงานของบริษัท เพราะธนาคารตระหนักว่าธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรมมีความเฉพาะตัวและมีความต้องการทางธุรกิจที่แตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องตามแนวคิด Ecosystem Play และการมองลูกค้าเป็น 360 องศา อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ หรือ Automotive Industry ซึ่งมีซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทีทีบีก็ได้นำจุดแข็งในฐานะผู้นำด้านสินเชื่อรถยนต์ การบริหารรับ-จ่ายเงิน และบัตรเครดิตน้ำมันธุรกิจ พัฒนาโซลูชันที่เกี่ยวกับรถยนต์ได้อย่างครบวงจร ตอบโจทย์ในทุกความต้องการของทุกส่วนในซัพพลายเชน ตั้งแต่ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ Dealer รถยนต์ จนไปถึงผู้ซื้อและผู้ขายรถยนต์

ในส่วนของอุตสาหกรรมการศึกษา อย่างโรงเรียนนานาชาติ ที่มีทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง และครูต่างชาติ ทีทีบีได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถรับ-จ่ายเงินเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่ทำได้สะดวกผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มของธนาคาร แม้กระทั่งอุตสาหกรรมการเกษตร ธนาคารก็ได้เข้าไปช่วยพัฒนาโซลูชันตั้งแต่โรงงานจนถึงชาวไร่ จนเพิ่มประสิทธิภาพให้ทั้งระบบได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสนับสนุนลูกค้าเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างเป็นคู่ค้ากับภาครัฐ  ด้วยสินเชื่อที่เหมาะสมตามขั้นตอนและเพียงพอจนสามารถส่งมอบงานได้ พร้อมกับเพิ่มสภาพคล่องให้ เพียงนำใบแจ้งหนี้และใบตรวจรับงานมาขายลดหนี้รับเงินไปใช้ได้ก่อน

กลยุทธ์ที่ 2 สนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นธุรกิจที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Green Transition Solutions)

ทีทีบีตอกย้ำการเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน ตามแนวคิด B+ESG พร้อมสนับสนุนลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สามารถรับมือกับมาตรการทางการค้าที่หลายประเทศเริ่มนำมาใช้ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงกติกาใหม่ของประเทศไทยอย่าง Thailand Taxonomy และรวมถึง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้องค์กรใหญ่หลายแห่งก็ได้เริ่มกำหนดให้ซัพพลายเออร์และคู่ค้าต้องดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเช่นกัน หากไม่สามารถทำตามเกณฑ์ก็อาจสูญเสียโอกาสในการทำธุรกิจ หรือมีต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้นได้

นอกจากนี้เพื่อสร้างแรงจูงใจและสนับสนุนธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่รูปแบบใหม่ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  ธนาคารมีโซลูชันที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน หรือ Transition Finance อาทิ สินเชื่อสีเขียว (Green Loan) สินเชื่อสีฟ้า (Blue Loan) สินเชื่อเพื่อติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop Finance) สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (HP Program for EV) เป็นต้น รวมถึงการจัดสัมมนาและให้ความรู้เพื่อสร้างความตระหนักแก่ผู้ประกอบการ โดยทีทีบีตั้งเป้าสนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนสำหรับลูกค้าธุรกิจถึง 60,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี

กลยุทธ์ที่ 3 เพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจด้วยดิจิทัลโซลูชันในทุกขั้นตอนของธุรกิจ (Digital Solutions)

หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้มีการทำธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยในปี 2562 การเติบโตด้านธุรกรรมดิจิทัลของลูกค้าธุรกิจทีทีบี สูงขึ้นกว่า 20% และปัจจุบันลูกค้าธุรกิจโดยทั่วไปทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลแบงก์กิ้ง 95-98% แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินภายในประเทศ (Cash Management) ในขณะที่ผลิตภัณฑ์กลุ่มสินเชื่อธุรกิจและธุรกรรมระหว่างประเทศยังคงมีการทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลในสัดส่วนที่น้อยอยู่ เนื่องจากบางธุรกรรมยังต้องเดินทางไปทำที่สาขาหรือมีความต้องการเอกสารเป็นกระดาษ ซึ่งทีทีบีได้พัฒนาช่องทางดิจิทัลแบงก์กิ้งที่ดีที่สุด นั่นคือ ttb business one ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ที่ใช้ได้ทั้งอินเทอร์เน็ตและโมบายแบงก์กิ้ง ให้ลูกค้าธุรกิจทำธุรกรรมออนไลน์ได้สะดวกและง่าย ควบคุมธุรกิจได้ในที่เดียว

สำหรับในปีนี้ ทีทีบีได้วางเป้าหมายในการมุ่งมั่นพัฒนาทุกขั้นตอนของการทำธุรกรรมให้สามารถทำบนดิจิทัลได้ทั้งหมด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มสินเชื่อธุรกิจและธุรกรรมระหว่างประเทศ เช่น การเปิดบัญชีผ่านช่องทางดิจิทัล ถอนเงินทางออนไลน์โดยไม่ต้องไปสาขา การออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-LG) การขอสินเชื่อทางดิจิทัล และการให้บริการเชื่อมต่อระบบของลูกค้ากับธนาคารสำหรับธุรกรรมในประเทศและระหว่างประเทศ (Host to Host Service) เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 98% 

กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาโซลูชันบริหารความเสี่ยงที่ครบครันสำหรับผู้นำเข้าและส่งออก (Importer-Exporter Solutions) 

ทีทีบีมองเห็นความท้าทายของผู้นำเข้าส่งออกในยุคนี้คือ การที่ต้องเผชิญความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมาก ซึ่งเป็นผลทั้งจากเศรษฐกิจทั่วโลก สภาวะสงครามและการเมืองต่างประเทศ ส่งผลให้เกิดความผันผวนในสกุลเงินต่าง ๆ โดยเฉพาะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีความผันผวนสูงถึง 9% ผู้ส่งออกนำเข้าของไทยส่วนใหญ่ยังใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายสินค้า ซึ่งทำให้มีความท้าทายในการบริหารจัดการความเสี่ยง ธนาคารจึงได้แนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนมาซื้อขายเป็นสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่ามาก โดยทีทีบีถือเป็นธนาคารแนวหน้าในการพัฒนาเครื่องมือในการช่วยบริหารสกุลเงินท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น บัญชีสำหรับบริหารหลายสกุลเงิน (ttb multi-currency account) ที่ทำให้ลูกค้าสะดวก คล่องตัว ด้วยการใช้บัญชีเดียวในการบริหารได้ถึง 11 สกุลเงิน สามารถใช้ซื้อ ขาย รับ จ่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยทีทีบีเป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่เสนอบัญชีประเภทนี้    นอกจากนี้ยังเป็นธนาคารแรกที่เสนอเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงสกุลเงินหยวน ผ่านผลิตภัณฑ์ “Yuan Pro-rata Forward” ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ในปีนี้ ทีทีบียังคงเดินหน้าพัฒนาบริการและโซลูชันที่มุ่งตอบโจทย์ผู้นำเข้าส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยงในการทำการค้าระหว่างประเทศ

“ทีทีบีมั่นใจว่าจาก 4 กลยุทธ์ที่ธนาคารมีความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าธุรกิจ จะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีมากกว่าเดิม และจะส่งผลให้ในปี 2567 เป้าหมายของธนาคารในทุกด้านสามารถเติบโตได้ตามที่ตั้งไว้ โดยยังคงมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่เอสเอ็มอีและลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ พร้อมสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์ สามารถก้าวผ่านความท้าทายต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายศรัณย์ กล่าวปิดท้าย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AIS คว้ารางวัล Creative Equality Award ยกระดับชีวิต ส่งต่อพลังสร้างสรรค์เพื่อสังคม

AIS ตอกย้ำความเป็นเลิศทางความคิดสร้างสรรค์ คว้ารางวัล Creative Equality Award Creative ประเภท Social Impact Awards จากเวที Creative Excellence Awards 2024 ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จขอ...

Responsive image

กรุงศรีตั้ง ปาลิดา อธิศพงศ์ นั่งรักษาการกรรมการผู้จัดการของ Krungsri Finnovate เดินหน้าสตาร์ทอัปไทย

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศแต่งตั้ง นางสาวปาลิดา อธิศพงศ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการ Krungsri Finnovate...

Responsive image

ทีทีบี จับมือ databricks ผสานพลัง Data และ AI สร้างอนาคตการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย

ทีทีบี ตอกย้ำความมุ่งมั่นผลักดันดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการธนาคารไทย จับมือพันธมิตร databricks พร้อมเดินหน้าสร้าง Data-driven Culture ปักธงก้าวสู่ธนาคารที...