Xiaomi กำไรพุ่ง 126.3% ปี 2023 รับกลยุทธ์ครอบคลุม ‘คน-รถยนต์-บ้าน’ | Techsauce

Xiaomi กำไรพุ่ง 126.3% ปี 2023 รับกลยุทธ์ครอบคลุม ‘คน-รถยนต์-บ้าน’

Xiaomi เผย ในปี 2566 รายรับรวมของกลุ่มธุรกิจอยู่ที่ 271.0 พันล้านหยวน ในขณะที่กำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 126.3% เป็น 19.3 พันล้านหยวน นับเป็นยอดกำไรที่สูงสุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

Xiaomi กำไรพุ่ง 126.3% ปี 2023

ในไตรมาส 4 ปี 2566 รายรับรวมของเสียวหมี่เพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน โดยแตะ 73.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) และกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 236.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) เป็น 4.9 พันล้านหยวน

กลยุทธ์ ‘คน × รถยนต์ × บ้าน’ ได้ผล

ตลอดปี 2566 เสียวหมี่ได้ใช้กลยุทธ์การดำเนินงานหลักที่ “มุ่งเน้นทั้งในด้านขนาดและความสามารถในการทำกำไรควบคู่กัน” นอกจากนี้ ปี 2566 ยังถือเป็นปีแรกที่เสียวหมี่ได้อัปเกรดกลยุทธ์องค์กรในรูปแบบระบบนิเวศอัจฉริยะแบบ “คน × รถยนต์ × บ้าน” (“Human × Car × Home”) สำหรับผลการดำเนินงาน

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เสียวหมี่มีกำไรเติบโตพุ่งสูงขึ้น และในช่วงครึ่งหลังของปี มีรายรับรายไตรมาสที่ฟื้นตัวขึ้น ผลการดำเนินงานที่เป็นตัวชี้วัดทั้งสองนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวและประสิทธิภาพในการเติบโตที่โดดเด่นของกลุ่มธุรกิจ

ในส่วนของการพัฒนาระบบนิเวศ เสียวหมี่ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ “Xiaomi HyperOS” และจัดงานเปิดตัวเทคโนโลยี Xiaomi EV นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Xiaomi SU7 ในวันที่ 28 มีนาคม 2567 เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับพอร์ตโฟลิโอระบบนิเวศของกลุ่มธุรกิจ

กลยุทธ์สินค้าและบริการในกลุ่มพรีเมียม (premiumization) ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความต้องการสูงขึ้นในสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง (flagship)

ในส่วนของสมาร์ทโฟน ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกของเสียวหมี่สูงถึงประมาณ 145.6 ล้านเครื่องในปี 2566 โดยมีรายรับจากสมาร์ทโฟนต่อปีอยู่ที่ 157.5 พันล้านหยวน และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 14.6%

จากข้อมูลของ Canalys เสียวหมี่ยังคงรักษายอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกเป็นอันดับ 3 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ในไตรมาส 4 ปี 2566 ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกของกลุ่มธุรกิจมีจำนวน 40.5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 23.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY)

ในปี 2566 ราคาขายเฉลี่ย (“ASP”) ของสมาร์ทโฟนของกลุ่มธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นกว่า 19% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY)

นอกจากนี้ ในปี 2566 ส่วนแบ่งการตลาดของเสียวหมี่ในการขายสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคา 4,000-6,000 หยวนในจีนแผ่นดินใหญ่ยังสูงถึง 16.9% เพิ่มขึ้น 9.2 จุดเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) อันดับยอดขายในกลุ่มราคาเดียวกันเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 ในไตรมาส 4 นอกจากนี้ สัดส่วนยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมของเสียวหมี่ในประเทศจีน (รุ่นที่มีราคาขายปลีกอยู่ที่ 3,000 หยวนขึ้นไป) ยังมียอดกว่า 20% ของยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั้งหมดของกลุ่มธุรกิจในปีนี้

จากข้อมูลของ Canalys ในปี 2566 ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ติดอันดับหนึ่งในสามอันดับแรกใน 51 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และติดอันดับหนึ่งในห้าอันดับแรกใน 65 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่อยู่ในอันดับที่ 2 ในตะวันออกกลาง และอันดับที่ 3 ในละตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีส่วนแบ่งการที่ตลาดเติบโตในภูมิภาคเหล่านี้ทั้งหมด

กลยุทธ์การดำเนินงานค้าปลีกใหม่ของเสียวหมี่ “การบูรณาการหน้าร้าน” ประสบผลสำเร็จด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพของร้านค้าปลีกออฟไลน์อย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2566 ส่วนแบ่งการตลาดของเสียวหมี่ในยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนผ่านช่องทางออฟไลน์ในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเป็น 8.4%

จำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อบนแพลตฟอร์ม AIoT สูงเป็นประวัติการณ์ 

ในปี 2566 รายรับจากผลิตภัณฑ์ IoT และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ของเสียวหมี่อยู่ที่ 80.1 พันล้านหยวน และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.3% ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 จำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อ (ไม่รวมสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และ แล็ปท็อป) บนแพลตฟอร์ม AIoT ของเสียวหมี่สูงถึง 739.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 25.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) 

จำนวนผู้ใช้ที่มีอุปกรณ์ห้าเครื่องขึ้นไปเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม AIoT (ไม่รวมสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป) สูงถึง 14.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) และจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของแอป Mi Home ของกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็น 85.8 ล้านในเดือนธันวาคม 2566

เสียวหมี่ยังคงขยายขอบเขตการใช้ชีวิตอัจฉริยะและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน Xiaomi TV ได้พัฒนากลยุทธ์ premiumization 

จากข้อมูลของ All View Cloud ในปี 2566 ยอดการจัดส่งทีวีของเสียวหมี่ติดอันดับหนึ่งในห้าอันดับแรกของโลก ในปี 2566 เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอัจฉริยะขนาดใหญ่ของเสียวหมี่ยังคงรักษาระดับการเติบโตในด้านยอดขาย โดยมีรายรับเพิ่มขึ้นเกือบ 40% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ยอดการจัดส่งแท็บเล็ตทั่วโลกของ Xiaomi เกิน 5 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดการจัดส่งแท็บเล็ตประจำปีของเสียวหมี่ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นสองเท่าจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) สำหรับธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สวมใส่ เสียวหมี่ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรมด้วยคุณสมบัติที่ครอบคลุมและกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จากข้อมูลของ Canalys ในปี 2566 ยอดการจัดส่งสายรัดข้อมือแบบสวมใส่ของเสียวหมี่อยู่ในอันดับที่ 2 ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และในตลาดโลก และยอดการจัดส่งหูฟังไร้สาย TWS อยู่ในอันดับที่ 2 ในประเทศจีน

มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันเพื่อกระตุ้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ต

ในปี 2566 บริการอินเทอร์เน็ตของกลุ่มธุรกิจทำสถิติสูงสุดทั้งในด้านรายรับและอัตรากำไรขั้นต้น โดยมีรายรับจากบริการอินเทอร์เน็ตสูงถึง 30.1 พันล้านหยวน และอัตรากำไรขั้นต้นของบริการอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 74.2% ด้วยการดำเนินงานทั่วโลก จำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของเสียวหมี่ทั่วโลกและในจีนแผ่นดินใหญ่ (รวมถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต) มีจำนวนถึง 641.2 ล้านราย และ 155.6 ล้านราย ตามลำดับ

ในด้านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในระดับโลก เสียวหมี่ใช้แนวทางที่เปิดกว้าง เพื่อปลดปล่อยศักยภาพในการสร้างรายได้จากธุรกิจ ในปี 2566 รายรับจากบริการอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศของเสียวหมี่เพิ่มขึ้น 24.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) เป็น 8.4 พันล้านหยวน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์และคิดเป็น 28.0% ของรายรับจากบริการอินเทอร์เน็ตทั้งหมดของกลุ่มธุรกิจ

ในขณะที่เสียวหมี่ยังคงเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทั่วทั้งแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง รายรับจากการโฆษณาของกลุ่มธุรกิจสูงถึง 20.5 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 11.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) นอกเหนือจากความก้าวหน้าของกลยุทธ์สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมแล้ว จำนวนผู้ใช้งานและผู้ใช้งานที่ชำระเงินของธุรกิจเกมของกลุ่มธุรกิจยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายรับจากการเกมแตะ 4.4 พันล้านหยวนในปี 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY)

เสียวหมี่ตั้งเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2563-2573 โดยมุ่งลงทุนในเทคโนโลยีหลักที่เป็นรากฐานเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับโลก

ในปี 2566 เสียวหมี่ได้ประกาศเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2563-2573 กลุ่มธุรกิจมุ่งมั่นที่จะลงทุนอย่างยั่งยืนในเทคโนโลยีหลักพื้นฐาน และมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับโลก ในปี 2566 เงินด้านการวิจัยและพัฒนา (“R&D”) ของเสียวหมี่อยู่ที่ 19.1 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 19.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 กลุ่มธุรกิจมีบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา 17,800 คน คิดเป็น 53% ของพนักงานทั้งหมด

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 เสียวหมี่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ EV ตัวแรกในซีรีส์ Xiaomi SU7 ในงานเปิดตัวเทคโนโลยี Xiaomi EV งานดังกล่าวจัดแสดงเทคโนโลยีหลักทั้งห้าของ Xiaomi EV ซึ่งนับเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในธุรกิจใหม่ของเสียวหมี่

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทรู ไอดีซี ดาต้าเซ็นเตอร์ คว้ารางวัลนานาชาติ ด้านออกแบบและพลังงาน พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI

ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ ทรู ไอดีซี ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกาศความสำเร็จของโครงการ ทรู ไอดีซี อีสต์ บางนา แคมปัส ที่สร้างปรา...

Responsive image

ซีพี แอ็กซ์ตร้า จับมือพันธมิตร พัฒนาโซลูชัน "Smart Restaurant" พลิกโฉมร้านอาหารยุคใหม่ สู่ความสำเร็จยุคดิจิทัล

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ร่วมกับพันธมิตรในเครือ ได้แก่ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด และ บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัดจัดงานสัมมนา ‘Smart Restaurant ถอดรหัสความสำเร็...

Responsive image

noBitter ผนึกกำลัง 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำ พัฒนา “ฟาร์มนวัตกรรม” ยกระดับเกษตรไทยสู่เวทีโลก

noBitter ผนึกกำลัง 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำ จุฬาฯ ลาดกระบัง และปัญญาภิวัฒน์ ผนึกความร่วมมือ เดินหน้าพัฒนางานวิจัยเกษตรนวัตกรรมเพื่อยกระดับเกษตรไทยสู่เวทีโลกโดยมุ่งเน้นผลผลิตจากเทคโนโลย...