เจาะวิธีคิด การสร้างแบรนด์ผ่านแคมเปญในยุคดิจิทัลของ AIS | Techsauce

เจาะวิธีคิด การสร้างแบรนด์ผ่านแคมเปญในยุคดิจิทัลของ AIS

 
  • ถอดรหัสความสำเร็จในการสื่อสารแบรนด์ของ AIS ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลแบรนด์อันดับ 1 ในกลุ่ม Mobile Operator จาก Thailand’s Most Social Power Brand 2018
  • ยุคสมัยที่ผู้บริโภคพร้อมจะเปลี่ยนใจตลอดเวลา แบรนด์ต้องสื่อสารและส่งมอบประโยชน์แก่ผู้บริโภคอย่างจริงใจ
  • มากไปกว่าการใช้ Creative ในการสร้างแคมเปญต่างๆ แบรนด์ต้องคิดไปถึงว่าผู้รับสารจะรับสารได้มากน้อยแค่ไหน และจะตอบสนองอย่างที่แบรนด์ต้องการหรือไม่
  • การร่วมทำกับ Partner ที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้เร็วและไกลขึ้น
  • การสื่อสารสู่ 'ภายนอก' ที่มีประสบความสำเร็จ เริ่มต้นจากการสื่อสาร 'ภายใน' เพื่อสร้างทีมที่ดี

ทุกวันนี้มีความท้าทายมหาศาลต่อการสร้างแบรนด์ในยุคที่ผู้บริโภคสัญชาติดิจิทัลมีความพร้อมในการเปลี่ยนเจ้าย้ายค่ายอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ดิจิทัลแพลตฟอร์มมีอิทธิพลสูงขึ้นในการสื่อสารไปยังผู้คน โจทย์คือแบรนด์จะสื่อสารอย่างไร จะสร้างแคมเปญหรือคอนเทนต์แบบไหนที่จะทำให้แบรนด์สามารถดึงความสนใจลูกค้าได้โดยการไม่ยัดเยียด หากแต่ด้วยความจริงใจ เพราะนี่คือยุคสมัยที่แบรนด์ต้องสามารถสื่อสาร ส่งมอบคุณค่าบางอย่างที่สัมผัสจับต้องได้จริง เพื่อจะสามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคได้อย่างยาวนาน

Techsauce ขอพาผู้อ่านทุกท่านไปถอดรหัสความสำเร็จในการสื่อสารแบรนด์บนแพลตฟอร์มดิจิทัลจาก AIS ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลแบรนด์ทรงพลังบนโลกโซเชียลมีเดียอันดับ 1 ในกลุ่ม Mobile Operator จาก Thailand’s Most Social Power Brand 2018 โดย คุณศิวลี บูรณสงคราม Head of AIS Brand Management ซึ่งมาแชร์ประสบการณ์ในงาน Master Skill4.0#3 : การสร้างแบรนด์ในโลกยุคดิจิทัล มาดูกันว่าในรอบขวบปีที่ผ่านมา AIS มีกระบวนการคิด การทำงานอย่างไรบ้างที่อยู่เบื้องหลังผลลัพธ์ความสำเร็จจากแคมเปญต่างๆ

เริ่มต้นจาก Mindset ยุคสมัยนี้แบรนด์ต้องคำนึงถึงประโยชน์และความสุขของลูกค้าอย่างจริงจัง

วิสัยทัศน์ในการสื่อสารแบรนด์ของ AIS นั้นไม่ใช่เรื่องของการเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่เร็วที่สุด เพราะความเร็วคือพันธกิจพื้นฐานของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถืออยู่แล้ว ดังนั้นในการสื่อสารแบรนด์ต้องคิดมากไปกว่านั้น นั่นคือการสร้างความสุขและประโยชน์ให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง สิ่งนี้คือ Mindset ที่ตั้งไว้เป็นฐานในการทำทุกสิ่ง

Think beyond : เมื่อใครๆ ก็พูดถึง Creative ต้องคิดไปถึงว่าลูกค้าจะเข้าใจสารที่จะสื่อได้มากแค่ไหน จะตอบสนองอย่างที่แบรนด์ต้องการไหม

แคมเปญรณรงค์ลดอุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนจากการใช้มือถือ

สำหรับการสื่อสารแบรนด์แน่นอนว่า creativity is a must ซึ่งใครๆ ก็คิดถึงจุดนี้ แต่มากไปกว่านั้นต้องคิดไปให้ถึงด้วยว่าลูกค้าจะรับสารที่ต้องการจะสื่อได้ระดับไหน และจะตอบสนองกลับมาอย่างไร

ตัวอย่างแคมเปญ ‘สร้างสรรค์หรือทำลาย’ ซึ่งใช้ศิลปิน 3 คนซึ่งมีอิทธิพลในโลกโซเชียลมาเป็นตัวหลักในการรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการใช้มือถือ โดยที่การนำเสนอไม่ได้แค่ต้องการทำสื่อโฆษณารณรงค์ทั่วไป แต่ AIS ต้องการให้คนดู ‘รู้สึก’ จริงๆ เพื่อที่จะสามารถสื่อสารได้อย่างมีอิมแพ็ค โดยการให้ศิลปินทั้ง 3 คน ไลฟ์ถ่ายทอดสดพูดคุยกับแฟนคลับขณะที่กำลังเดินทางบนถนน และสร้างสถานการณ์ให้คนเข้าใจว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างการเดินทาง คนดูจะเข้าใจว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ถึงแม้จะมีการเฉลยในภายหลังว่าเป็นเหตุการณ์สมมติ แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ ‘รู้สึกจริง’ ไปแล้ว แคมเปญกลายเป็นไวรัลที่ได้รับฟีดแบ็กจากคนจำนวนไม่น้อยที่บอกว่าพวกเขากลัวการใช้มือถือขณะใช้รถใช้ถนน และยังมีการเตือนไปยังคนที่พวกเขาห่วงใยอีกด้วย

นี่คือตัวอย่างของการสื่อสารที่ก่อให้เกิด impact ในสังคมโซเชียล จากสารตั้งต้นที่จะให้เกิดประโยชน์และความสุขให้กับผู้รับชม ผ่านกระบวนการ creative คิดวิธีการนำเสนอที่จะทำใส่คนดูได้รับสารที่ต้องการจะสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไปจนถึงตอบสนองอย่างที่แบรนด์ต้องการ

Partners matter : ร่วมทำกับพาร์ทเนอร์ที่ถูกต้อง ในเวลาที่เหมาะสม ช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ง่าย และไปได้ไกลกว่าเดิม

แคมเปญที่ร่วมทำกับละครสุดฮิตแห่งปีอย่างบุพเพสันนิวาส

ตัวอย่างอีกแคมเปญหนึ่งที่ AIS ทำร่วมกับละครชื่อดังอย่าง บุพเพสันนิวาส ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างการใช้ creative ที่คิดมากไปกว่าการนำ เบลล่า นางเอกของละครมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์เท่านั้น แต่ร่วมกับทีมสร้างละครเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยการทำแคมเปญโฆษณาที่มีเนื้อหาล้อไปกับละครจริงๆ ที่ออกอากาศในวันนั้นๆ กลายเป็นอีกหนึ่งแคมเปญไวรัลที่มีกระแสดีในกลุ่มคนดูละคร เป็นการสื่อสารแบรนด์ที่คนดูรอคอยและแชร์ต่อๆ กันโดยที่ไม่ต้องยัดเยียดและทุ่มเงินโปรโมตโฆษณามากนัก

ปัจจัยสำคัญนอกเหนือจากความ creative กับการเลือก partner ที่ถูกต้องแล้ว เรื่องของความเร็วในการสื่อสารในเวลาที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ อย่างในกรณีของแคมเปญนี้ที่จะมีการปล่อยตัวโฆษณาหลังละครทันที เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ได้รับความสำเร็จ หลังจากนั้นเกิดเป็นเทรนด์ที่มีแบรนด์อื่นๆ ทำในลักษณะเดียวกัน แต่คนก็จะจำเจ้าแรกที่ทำได้ดีเสมอ

ปัจจัยสำคัญนอกเหนือจากความ creative กับการเลือก partner ที่ถูกต้องแล้ว เรื่องของความเร็วในการสื่อสารในเวลาที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้

Always engage : ต่อให้เป็นกระแสก็ถูกลืมได้ในสองวัน จึงต้องให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามา engage อย่างต่อเนื่อง

‘MISSION 7: AIS NEXT G X PECK BAMBAM’ จัดคอนเสิร์ตให้กลุ่มเป้าหมายได้เจอสองศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบอย่างใกล้ชิด

หลังจากประสบความสำเร็จในแคมเปญโฆษณา AIS NEXT G x PECKBAMBAM ที่นำสองศิลปินผู้เป็นที่นิยมในโลกโซเชียลอย่าง เป๊ก และ แบมแบม มาร่วมถ่ายทอดการสื่อสารรูปแบบใหม่จากแต่เดิมที่โฆษณาจากเครือข่ายมือถือมักจะพูดถึงเรื่องเชิงเทคนิคที่เข้าใจยาก มาเป็นการสื่อสารง่ายๆ เน้นอารมณ์ร่วมจากคนดู AIS ก็ได้หล่อเลี้ยงกระแสโดยการสร้างแคมเปญเป็น mission ต่างๆ ให้คนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องโดยที่มีปลายทาง mission สุดท้ายคือ ‘MISSION 7: AIS NEXT G X PECK BAMBAM’ ให้รางวัลกลุ่มเป้าหมายโดยการจัดคอนเสิร์ตให้พวกเขาได้เจอสองศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบอย่างใกล้ชิด

แคมเปญนี้คือการคิดตั้งต้นจากสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการจริงๆ และ ผลลัพธ์คือแคมเปญนี้ได้ 100% positive feedback นี่คือสิ่งที่ทำให้ผลสุดท้ายคนรู้สึกดีกับแบรนด์มากขึ้น ที่สำคัญคือเกิดมีกระแสย้ายค่ายมาอยู่ใน AIS จำนวนมากซึ่งมีผลสำคัญจากความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นจากแคมเปญนี้

Trust in team : การสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ไปยัง 'ภายนอก' ที่มีประสิทธิภาพ เริ่มจากการสื่อสาร 'ภายใน' ทีมที่ดี

แคมเปญที่ CEO ลงมาสร้างความใกล้ชิดกับพนักงาน สร้างภาพลักษณ์ความเป็นกันเอง และความเชื่อมั่นร่วมกับพนักงาน

การจะสื่อสารสิ่งที่แบรนด์เชื่อไปให้ถึงลูกค้าจะไม่สามารถมีประสิทธิภาพสูงสุดได้เลยหากไม่ได้เริ่มจากภายใน นั่นคือการสร้างทีมนั่นเอง คนในทีมแต่ละคนมีคาแรคเตอร์ที่ต่างกัน ทุกคนจะมาร่วมมือกันในการทำงานให้สอดคล้องได้อย่างไรถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง AIS ไม่ได้มองแค่ทีมในระดับพนักงาน แต่รวมถึงระดับผู้บริหารที่ต้องสร้างความเชื่อใจร่วมกับระดับพนักงานด้วย จึงเป็นที่มาของแคมเปญภายในองค์กรที่เชิญ เบลล่า นางเอกจากบุพเพสันนิวาสมาถ่ายวีดิโอแคมเปญสนุกๆ กับคุณสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ หรือ CEO ของ AIS ถ่ายทอดความรู้สึกที่ CEO ลงมาใกล้ชิดกับพนักงาน ลบล้างภาพลักษณ์ว่า CEO ต้องเป็นบุคคลที่เข้าถึงยากและอยู่ห่างไกลจากพนักงาน สร้างความเชื่อมั่นว่าแม้แต่ระดับผู้บริหารก็ร่วมกันกับพนักงานในการส่งมอบคุณค่าของแบรนด์ไปยังลูกค้า

ทุกคนจะมาร่วมมือกันในการทำงานให้สอดคล้องได้อย่างไรถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง AIS ไม่ได้มองแค่ทีมในระดับพนักงาน แต่รวมถึงระดับผู้บริหารที่ต้องสร้างความเชื่อใจร่วมกับระดับพนักงานด้วย

ท้ายที่สุด ปัจจัยที่สำคัญในการคิดแคมเปญสื่อสารแบรนด์ในยุคดิจิทัลคือต้อง No Fear ไม่กลัวการคิด และนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ในทางเดียวกันก็ไม่กลัวในการที่จะรับฟังสิ่งใหม่ๆ จากทีม Different or die ต้องพร้อมที่จะแตกต่าง ลูกค้ายุคนี้พร้อมจะเบื่อสิ่งเก่าๆ ตลอดเวลา จะต้องแตกต่างไม่งั้นก็ไม่ต้องทำสิ่งนั้นเสียเลย และ Be a Fighter คือต้องมีใจแบบนักสู้

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 ข้อแตกต่างที่ทำให้ Jensen Huang เป็นผู้นำใน 0.4% ด้วยพลัง Cognitive Hunger

บทความนี้จะพาทุกคนไปถอดรหัสความสำเร็จของ Jensen Huang ด้วยแนวคิด Cognitive Hunger ความตื่นกระหายการเรียนรู้ เคล็ดลับสำคัญที่สร้างความแตกต่างและนำพา NVIDIA ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับ...

Responsive image

เรื่องเล่าจาก Tim Cook “...ผมไม่เคยคิดเลยว่า Apple จะมีวันล้มละลาย”

Apple ก้าวเข้าสู่ยุค AI พร้อมรักษาจิตวิญญาณจาก Steve Jobs สู่อนาคตที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดย Tim Cook มุ่งเปลี่ยนโฉมเทคโนโลยีอีกครั้ง!...

Responsive image

วิจัยชี้ ‘Startup’ ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บทความนี้ Techsauce จะพาคุณไปสำรวจว่าอะไรที่ทำให้ วัย 40 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักธุรกิจและ Startup หลายคน...