ฮ่องกงกับความพร้อมของเทคโนโลยี ที่ทำให้ ‘ไต้ฝุ่นมังคุด’ ไม่ใช่เรื่องหนัก | Techsauce

ฮ่องกงกับความพร้อมของเทคโนโลยี ที่ทำให้ ‘ไต้ฝุ่นมังคุด’ ไม่ใช่เรื่องหนัก

หากใครได้เห็นคลิปวีดีโอ หรือติดตามข่าวสถาณการณ์ ‘พายุไต้ฝุ่นมังคุด’ ที่เกิดขึ้นที่ฮ่องกงในสัปดาห์ก่อนนี้ ก็อาจจะรู้สึกถึงความน่ากลัวของภัยธรรมชาติ และมองว่าฮ่องกงไม่ปลอดภัยในเวลานั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในคืนวันเสาร์ก่อนเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่น ทั้งนักท่องเที่ยวและคนฮ่องกงยังคงทำงาน กิน เที่ยว ช้อปปิ้ง ใช้ชีวิตกันตามปกติ เหมือนไม่กลัวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังมีการเตรียมความพร้อม เช่นสำรองอาหารบางส่วนสำหรับการติดพายุ ติดเทปกาวบริเวณกระจก และเตรียมความพร้อมรับมืออื่นๆ แล้วอะไรทำให้คนที่ฮ่องกงไม่ตื่นตระหนก หรือมีความพร้อมอย่างที่เห็น? ในขณะเดียวกันมีเทคโนโลยีอะไรที่ภาครัฐนำเข้ามาช่วย? บทความนี้ผู้เขียนจะขอเล่าประสบการณ์ตรงจากเหตุการณ์นี้ และความประทับใจต่อเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์โดยภาครัฐของฮ่องกง

ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะ และมีสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้คนฮ่องกงใส่ใจกับสภาพอากาศค่อนข้างมาก การเจอมรสุมจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้พายุไต้ฝุ่นมังคุดจะเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงในรอบหลายปีของฮ่องกง แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนก อีกทั้งด้านหน่วยงานภาครัฐอย่างกรมอุตุนิยมวิทยาของฮ่องกง ก็สามารถช่วยเหลือและให้ข้อมูลกับประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยจะมีการรายงานสภาพอากาศที่ค่อนข้างแม่นยำ และสม่ำเสมอ ทำให้คนฮ่องกงคุ้นชินกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และมีความพร้อมเตรียมการรับมือ

หนึ่งในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันสำคัญที่ภาครัฐอำนวยความสะดวกให้กับคนฮ่องกงคือเว็บของกรมอุตุนิยมวิทยาฮ่องกง และแอปพลิเคชัน My Observatory โดยจะเป็นแอปฯที่รายงานสภาพอากาศและเหตุการณ์ต่างๆที่ค่อนข้างจะ realtime

สิ่งที่เราต้องรู้เป็นอันดับแรกคือ คนฮ่องกงจะมีตัวเลขและสัญลักษณะที่รับรู้โดยทั่วกันของระดับการเตือนมรสุมในฮ่องกง ซึ่งตัวเลขสัญลักษณ์ดังกล่าวทำให้คนฮ่องกงรู้กันดีว่า หากอยู่ในระดับนี้จะต้องเตรียมรับมืออย่างไร โดยมีรายละเอียดดังนี้ดังนี้

ระดับการเตือนมรสุมในฮ่องกง

  • ระดับ T1 Standby : ให้เตรียมรับมือ โดยมีสัญญาณการก่อตัวของพายุไต้ฝุ่น
  • ระดับ T3 Strong Wind : มีลมแรงและอาจมีฝนตกหนัก ระดับนี้ยังสามารถใช้รถสาธารณะหรือหรถไฟฟ้าได้ โดยต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเริ่มสำรองอาหารไว้
  • ระดับ T8 Gale or Storm : การคมนาคมทุกอย่างจะหยุด ร้านค้าหรือบริษัทต่างๆจะปิด ควรอยู่แต่ในที่พักอาศัยเท่านั้น
  • ระดับ T10 Hurricane : เป็นระดับที่จะเจอพายุไต้ฝุ่นหรือเฮอร์ริเคน

ระดับการเตือนเหล่านี้ จะถูกระบุไว้ในแอปฯเมื่อเกิดเหตุการณ์มรสุม โดยภายในแอปฯ ยังอุณหภูมิ กำลังลม ปริมาณน้ำฝน ภาพถ่ายจากดาวเทียม ระดับน้ำทะเล เวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกดิน การติดตามทิศทางของพายุ การพยากรณ์อากาศ จุดที่ฝนตก รูปภาพ และวีดีโอรายงานสภาพอากาศ รูปภาพในพื้นที่ต่างๆโดยจะถ่ายไว้เกือบจะ realtime นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอื่นๆที่เป็นประโยชน์ ซึ่งออกมาในรูปแบบที่ดูง่าย

ที่สำคัญมากๆก็คือแอปฯ จะมี notification แจ้งเตือนสถานการณ์ของพายุ รวมทั้งสภาพอากาศ ความเคลื่อนไหวอื่นๆที่เกิดขึ้น

จากที่ผู้เขียนได้รับคำแนะนำจากคนไทยในฮ่องกงให้ลองใช้แอป My Observatory และได้ประสบกับเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นมังคุดด้วยตนเอง ก็พบว่าแอปนี้มีประโยชน์อย่างมาก และทำให้เรารู้เวลาที่เกือบจะแน่นอนว่าพายุจะมาเมื่อไหร่ ซึ่งในเหตุการณ์วันนั้นมีการแจ้งเตือนระดับ T8 ในเวลากลางคืน เราทราบแล้วว่าการคมนาคมจะหยุดลง ซึ่งเมื่อเกิดพายุทุกคนล้วนแต่อาศัยอยู่ในตึก โรงแรม ทานอาหารที่สำรองไว้

ตลอดทั้งวันจะมี Notification แจ้งเตือนว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างภายนอก ทั้งเหตุการณ์ดินสไลด์ฝนตกหนัก หรือฝนหยุดตก อุณหภูมิเพิ่มขึ้น - ลดลง ซึ่งการให้ข้อมูลในรูปแบบนี้เข้าถึงผู้คนได้ง่าย และยังเป็นหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ฮ่องกงผ่านเหตุการณ์ที่รุนแรงครั้งนี้ไปได้ โดยในเช้าวันถัดมาเมื่อพายุสงบลง ผู้คนออกมาท่องเที่ยว ทำงาน ใช้ชีวิตตามปกติ เหมือนเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้น และมีการเก็บกวาดเมือง ให้ทุกอย่างคืนสู่สภาพปกติโดยเร้ว

วันถัดมาหลังเกิดเหตุการณ์พายุไต้ฝุ่นมังคุด 

สรุป

สิ่งหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเทคโนโลยีก็คือข้อมูลหรือ Data เมื่อภาครัฐมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ก็ต้องมองว่าจะใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร ผนวกกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ที่สุดแล้วฮ่องกงไม่ได้มีเทคโนโลยีมีดีเด่นไปกว่าที่ไหน แต่เพราะฮ่องกงเลือกนำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน My Observatory จึงเป็นตัวอย่างของแอปจากภาครัฐหรือกรณีศึกษาสำคัญที่ไม่ควรข้าม

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 ข้อแตกต่างที่ทำให้ Jensen Huang เป็นผู้นำใน 0.4% ด้วยพลัง Cognitive Hunger

บทความนี้จะพาทุกคนไปถอดรหัสความสำเร็จของ Jensen Huang ด้วยแนวคิด Cognitive Hunger ความตื่นกระหายการเรียนรู้ เคล็ดลับสำคัญที่สร้างความแตกต่างและนำพา NVIDIA ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับ...

Responsive image

เรื่องเล่าจาก Tim Cook “...ผมไม่เคยคิดเลยว่า Apple จะมีวันล้มละลาย”

Apple ก้าวเข้าสู่ยุค AI พร้อมรักษาจิตวิญญาณจาก Steve Jobs สู่อนาคตที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดย Tim Cook มุ่งเปลี่ยนโฉมเทคโนโลยีอีกครั้ง!...

Responsive image

วิจัยชี้ ‘Startup’ ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บทความนี้ Techsauce จะพาคุณไปสำรวจว่าอะไรที่ทำให้ วัย 40 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักธุรกิจและ Startup หลายคน...