เพราะการตั้งคำถาม สำคัญกว่าหาคำตอบ ทำอย่างไรถึงจะเลิกรู้แบบ ‘ผิวๆ’ และฝึก ‘ฟังให้เป็น’ | Techsauce

เพราะการตั้งคำถาม สำคัญกว่าหาคำตอบ ทำอย่างไรถึงจะเลิกรู้แบบ ‘ผิวๆ’ และฝึก ‘ฟังให้เป็น’

ปัจจุบัน โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอัปเดตตลอดเวลา ทำให้เราพยายามเรียนรู้ในประเด็นที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น จนเกิดความสนใจ และลองลงมือทำ แต่เพราะการที่พยายามเรียนรู้ในหลายประเด็นนั้นเองทำให้ส่วนมากแล้วเราจะรู้เกี่ยวกับแต่ละหัวข้อแบบผิวๆ ไม่ได้รู้ลึก รู้จริงเกี่ยวกับเรื่องนั้น ซึ่งการที่ลงมือทำไปก่อนโดยที่ไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ มักจะทำให้องค์กรหรือบุคคลเสียเวลาและทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่ได้เข้าใจว่าสิ่งนั้นเหมาะกับตัวเองจริงหรือไม่

การที่ลงมือทำไปก่อนโดยที่ไม่ได้เข้าใจจริงๆ มักทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ก่อนที่จะทำอะไรควรทำความเข้าใจว่าเหมาะกับเราจริงหรือไม่ มาดูสรุปเนื้อหาจากการสัมภาษณ์ คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม เรื่องทำอย่างไรถึงจะเลิกรู้แบบผิวๆ

ดังนั้น ก่อนที่จะทำอะไรควรจัดลำดับความสำคัญและทำความเข้าใจว่าเหมาะกับเราจริงหรือไม่ให้ดีเสียก่อน บทความนี้เราได้มีการสรุปเนื้อหาจากการสัมภาษณ์ คุณอภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer แห่ง SCG ในรายการ Techsauce Podcast ที่จะทำอย่างไรให้เราสามารถเป็นคนที่ตั้งคำถามที่ดี  เลิกรู้แบบผิว ๆและฝึกฟังให้เป็นได้ 

เลิกมีนิสัยแบบ “ผิวๆ” ด้วยแนวคิด “ไม่ใช่แค่ทำให้เสร็จ แต่ต้องทำให้สำเร็จ”  

ในการทำงาน การที่รู้จักและทำงานตัวเองแบบผิวๆ หรือ การทำงานให้เสร็จๆ ไปนั้น เป็นการทำทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ทั้งคนและองค์กรไม่เกิดการพัฒนา เพื่อที่จะแก้ไขในจุดนี้ต้องเริ่มจากการปรับ Mindset “ไม่ใช่แค่ทำให้เสร็จ แต่ต้องทำให้สำเร็จ”

  • เริ่มจากการตั้งคำถาม Why?
    • ค่านิยมและแนวคิดของสังคมในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตอย่างมาก ดังนั้น ก่อนจะเริ่มทำงาน เราต้องตั้งคำถามก่อนว่า การทำงานแบบเดิมนั้นมีประสิทธิภาพแล้วหรือไม่ แล้วจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
  • ตั้ง Concept ให้ชัด
    • ในการทำงาน ต้องเริ่มจากการตั้งคอนเซปต์ของงานให้ชัดเจน ว่างานนี้คืออะไร ทำทำไม ทำเพื่อใคร  
  • กำหนด Outcome ที่วัดผลได้จริง
    • โดยอาจใช้การวัดผลเป็นตัวเลช เช่น การยอดการสั่งซื้อที่มาจากกการทำโฆษณา เพื่อให้เห็นชัดเจนว่างานมีประสิทธิภาพ ตรงตามเป้าหมายหรือไม่ ก่อให้เกิดรายได้หรือไม่ ไม่ใช่แค่ว่าทำงานเสร็จแล้วจะถือว่า Outcome สำเร็จ

หลัก 3E ดึงสติ ช่วยให้ไม่ด่วนตัดสินใจ ทำอะไรผิดๆ

ทุกวันนี้เราสามารถรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านทางอินเทอร์เน็ต และสามารถส่งต่อได้ด้วยการคลิ๊กไม่กี่ครั้ง ด้วยเหตุนี้เองทำให้หลายๆ คนไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลก่อน และอ่านแค่ผิวๆ หรือเห็นแค่พาดหัวก็กดแชไปเสียแล้ว นำไปสู่การเผยแพร่ Fake News ที่มีอยู่มากมายบนอินเทอร์เน็ต

ดังนั้น เราควรที่จะมีการเช็คให้ ชัวร์ก่อนแชร์  ด้วยการใช้ หลัก 3E ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนไม่ด่วนตัดสินใจ ทำอะไรผิดๆ

    โดย หลัก 3E ประกอบด้วย

  • Emotional Maturity : การยอมรับความเห็นต่าง ยอมรับความจริงในทุกแง่มุมโดยปราศจากอคติ
  • Empathy : ความเข้าใจในตัวเองในเรื่องนั้นๆ ว่าทำไมจึงเห็นด้วย ทำไมจึงไม่เห็นด้วย
  • Emotion : การรับฟังโดยปราศจากอารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัว เพราะอารมณ์จะนำมาซึ่งอคติ ทำให้ไม่เปิดใจรับฟังข้อมูลนั้นๆ    

จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 หลักนี้ ทำให้เราเสพสื่อต่างๆ ในหลายแง่มุมมากขึ้น และทำความเข้าใจกับสิ่งๆนั้นได้มากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การแชร์ข้อมูลอย่างถูกต้อง จนะเกิดการถกถาม และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้โดยปราศจากอคติ อีกทั้งยังช่วยให้เราไตร่ตรองข้อมูลที่ได้รับมา นำไปสู่การค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ลดการรู้แบบผิวๆ

การตั้งคำถาม สำคัญกว่าการหาคำตอบ

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเพื่อให้เลิกรู้แบบผิวๆ คือ การถาม เพราะการตั้งคำถามนั้นจะนำไปสู่การหาคำตอบ และทำให้เรารู้เกี่ยวกับสิ่งๆนั้นมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าการตั้งคำถามของเราผิดตั้งแต่แรก คำตอบที่ออกมาคงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง 

เพื่อที่จะให้เราได้คำตอบที่มีประสิทธิภาพ แก้ปัญหาได้ตรงจุด ไม่ต้องเสียเวลาและทรัพยากรไปกับคำตอบที่ผิดพลาด ต้องเริ่มจากการ กล้าที่จะตั้งคำถาม และคำถามนั้นควรเป็น คำถามที่ทำให้เราสามารถรู้ความต้องการได้ดียิ่งขึ้น 

  • คำถามที่ทำให้เราสามารถรู้ความต้องการได้ดียิ่งขึ้น เป็นอย่างไร
    • คำถามที่ทำให้เรามองเห็นสิ่งที่อยู่ในใจได้ลึกขึ้น เช่น 
      • ทำไมถึงอยากได้สิ่งนี้ 
      • อยากนำไปแก้ปัญหาอะไร 

เพราะการตอบสนองความต้องการนั้นสามารถทำได้หลายทาง การตั้งคำถามที่ช่วยตีแผ่ความต้องการนั้น จะช่วยให้เราได้วิธีแก้ปัญหาที่หลากหลาย และตรงจุดมากยิ่งขึ้น

เลิกรู้แบบ “ผิวๆ” ด้วยการฟังให้เป็น

การฟัง เป็นทักษะที่มีความสำคัญอย่างมาก หากเราฟังไม่เป็น อาจนำมาสู่ความผิดพลาดในการสื่อสาร ไม่เกิดการเรียนรู้และทำให้งานที่ออกมานั้นผิดไป ดังนั้น เพื่อให้สามารถเรียนรู้และเข้าใจเรื่องต่างๆ ได้ลึกมากยิ่งขึ้น จะต้องมีทักษะในการ ฟังและจับประเด็น ว่าความสำคัญของเรื่องนั้นคืออะไร ประเด็นหลักคืออะไร

การสร้างทักษะการฟังและจับประเด็น : 

  • ผู้ฟังต้องตัดอารมณ์และอคติออกไปก่อนที่จะฟัง หรือก็คือยึดหลัก 3E ในส่วนของ Emotional เพื่อให้เราเปิดใจรับข้อมูล ทั้งหมด และนำมาไตร่ตรองโดยไม่ตัดส่วนใดส่วนหนึ่งออกไปด้วยอคติ
  • จับ Keyword ของเรื่องที่ฟังอยู่ และนำมาจัดหมวดหมู่เป็นหมวดย่อยๆ อาจทำเป็น Diagram หรือ Mind map เพื่อให้เราเห็นภาพรวมและประเด็นของเรื่องนั้นได้อย่างชัดเจน

รู้ลึกได้ด้วยการสร้าง Technic ในการจำ 

หากเรามีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้นแล้วแต่จำไม่ได้ การเรียนรู้ของเราคงไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นจึงต้องมี เทคนิคในการจำ :

  • จดจำด้วยภาพ เช่น การใช้ Mind map หรือ Diagram ทำให้เห็น Concept และภาพรวมของเรื่องนั้นชัดเจน 
  • จดจำ Concept เข้าใจ Key message สร้าง Long-term Memory
  • จัด Priority ว่าเรื่องนั้นสำคัญหรือจำเป็นต้องจำมาก-น้อยแค่ไหน 
  • จดในเรื่องสำคัญ ช่วย Remind เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง 
  • ใช้เครื่องมือช่วยจำที่เหมาะกับตัวเองจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

Check Feedback อย่างมีประสิทธิภาพ

การที่เราจะพัฒนาและแก้ไขขอผิดพลาดได้อย่างตรงจุด จะต้องหมั่น Check Feedback และคำติชมเพื่อให้รู้ว่ามีส่วนใดที่ควรปรับปรุงเพิ่มเติม แต่ Feedback แบบไหนที่ดีและจะทำให้พัฒนา

  • รับ Feedback อย่างมี Emotional Maturity : ผู้รับฟังตั้งเปิดใจยอมรับคำติชมของผู้อื่น ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง
  • หาคนที่กล้าให้ Feedback กับเราตรงๆ : Feedback แบบถนอมน้ำใจนั้น ทำให้เรามองไม่เห็นข้อผิดพลาด หรือคิดไปว่าสิ่งที่ทำนั้นดีอยู่แล้ว แต่ Feedback จากคนที่ที่พูดข้อผิดพลาดของเราออกมาตรงๆ นั้นจะทำให้มองเห็นข้อผิดพลาดได้ชัดเจนและนำไปปรับปรุงได้อย่างตรงจุดมากกว่า

สรุปประเด็นสำคัญ 

  • เลิกนิสัย รู้แบบผิวๆ ทำแบบผิวๆ ต้องทำให้สำเร็จ ไม่ใช่แค่ทำให้เสร็จ
  • ตั้งคำถามให้มาก 
  • ยอมรับความต่างทางความคิด
  • จับประเด็นสำคัญของเรื่องต่างๆให้ได้
  • เปิดใจยอมรับคำติชมของผู้อื่น


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ถอด 4 บทเรียนธุรกิจ Taylor Swift ชื่อศิลปินที่มีมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท

Taylor Swift ไม่ใช่แค่ของชื่อศิลปินอีกแล้ว กลายเป็น Branding ที่มีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ความสำเร็จของ Taylor Swift ก็มีส่วนที่หยิบมาใช้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจได้เช่นเดียวกัน...

Responsive image

“อยากได้อะไร ก็แค่พูดตรงๆ” เคล็ดลับความสำเร็จจาก Sam Altman

Sam Altman CEO ของ OpenAI บริษัทผู้สร้าง ChatGPT แนะนำ วิธีช่วยให้คุณได้ในสิ่งต้องการ และทำได้ง่ายๆ...

Responsive image

มรดกแนวคิด Steve Jobs ที่ส่งต่อถึง Tim Cook เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ Apple

Tim Cook ยกหนึ่งคำสอนล้ำค่าในการทำงานจาก Steve Job ที่ทำให้ Apple เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลก ในด้านการส่งเสริมนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ภายในองค์กร นั่นก็คือ ‘ทุกคนสามารถสร้าง...