ในสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะเป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับคนกรุงเทพ ด้วยพายุฝนที่โหมกระหน่ำในช่วงเวลาเร่งด่วน ระบบรถสาธารณะไทยคือทางเลือกที่ทุกคนพึ่งพาที่จะ ‘กลับบ้าน’ โดยทางเลือกหลักนั้นประกอบไปด้วย BTS , MRT , Airport Rail Link , รถโดยสารประจำทาง , ซึ่งแต่ละตัวเลือกนั้นก็ยังคงมี Pain Point หรือปัญหาด้านเทคโนโลยีที่ประเทศอื่นนั้นมีแล้ว แต่ประเทศไทยยังคงได้แต่ ‘รอ’ อยู่
ภาพฝันของคนไทยต่อระบบรถโดยสารสาธารณะ หากยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ก็เช่น ประเทศสิงคโปร์ ที่มีบัตร EZ Links ใบเดียว สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถได้ทุกระบบ ทั้งยังสามารถวางแผนการเดินทางผ่านแอปพลิเคชัน ดูเวลาที่รถจะมาถึง ดูเส้นทางการเดินทาง นี่คือภาพฝันง่ายๆ แต่ความจริงแล้วระบบรถโดยสารในไทยนั้นเป็นอย่างไร?
เส้นทางบนฟ้าที่สะดวกที่สุดสำหรับคนกรุง ก็คือ BTS หากเทียบกับเมื่อสิบปีที่แล้ว BTS คือทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว แต่เทคโนโลยีในเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จากวันนั้นถึงวันนี้มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?
สรุป Pain Point ของ BTS
MRT มีข้อได้เปรียบเรื่องเครื่องออกบัตรโดยสารมาตั้งแต่ต้น โดยสามารถรับได้ทั้งธนบัตรและเหรียญ โดยต่อมายังมีป้ายบอกเวลาของรถที่จะเดินทางมาถึง แต่ก็ยังมีอีกหลายเทคโนโลยีที่จะสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ใช้ได้อีก เช่น เครื่องเติมเงินบัตรโดยสาร
สรุป Pain Point ของ MRT
รถโดยสารประจำทาง (รถเมล์)
รถเมล์ไทย ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ร้อนหรือรถเมล์แอร์ อาจเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับคนกรุงเทพ เริ่มตั้งแต่การเก็บเงินค่าโดยสาร การดูเวลารถ การดูสถานีหรือเส้นทางที่จะลง และยังมีเรื่องของโครงการกล่อง Cash Box หรือกล่องสำหรับคิดค่าโดยสารผ่านการหยอดเหรียญ และ เครื่องสแกนบัตร E-Ticket เพื่อชำระค่าโดยสาร ที่โครงการล่มอย่างที่เราเห็นกันตามข่าวและไม่ถูกใช้งานจริง ซึ่งยังคงต้องรอต่อไป
สรุป Pain Point รถเมล์
บัตรที่ทางภาครัฐเคยพยายามดำเนินการ เพื่อเป็นบัตรที่จะสามารถชำระค่าบริการได้ทั้ง BTS MRT BRT หรืออื่น ๆ รวมไปถึงการชำระค่ารถเมล์ ขสมก. เหมือนที่ต่างประเทศมี เช่น Octopus ในฮ่องกง , EZ-Link ที่สิงคโปร์เป็นต้น แต่สุดท้ายแล้วบัตรแมงมุมยังคงแยกกับบัตรแรบบิทของ BTS ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยบัตรแมงมุมสามารถใช้จ่ายค่าโดยสารได้เฉพาะรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงและสายสีน้ำเงินเท่านั้น ซึ่งแผนที่จะใช้ร่วมกับรถโดยเมล์และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้ในอนาคตยังคงต้องรอกันต่อไป ภาพฝันบัตรเดียวทุกสรรพสิ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับประเทศไทยเสียแล้ว
สุดท้ายแล้วอะไรคือความล้มเหลวทั้งหมด? ทั้งๆที่เรามีประเทศตัวอย่างที่ใช้เทคโนโลยีอย่างที่เราฝันให้เห็นกันมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยระบบของประเทศไทย ที่มีผู้ให้บริการที่แตกต่างกัน และอาจยังไม่มีการร่วมมือกันอย่างแท้จริง ดังเช่นบัตรแมงมุมที่ไม่สามารถร่วมกับ BTS ได้ หากทุกภาคส่วนยังคงฝันให้ประเทศไทยมีระบบรถโดยสารเหมือนกับต่างประเทศ อาจต้องหันหน้าร่วมมือกัน ให้ความสำคัญกับประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นหลัก ในเวลานี้เราเลยยังคงได้แต่ 'รอเทคโนโลยี' กันต่อไป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด