The Puzzle Principle เคล็ดลับของไอน์สไตน์ที่จะทำให้คุณฉลาดขึ้น

เมื่อพูดถึงอัจฉริยะระดับโลกอย่างอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ หลายคนอาจนึกถึงสมการซับซ้อนหรือแนวคิดที่เข้าใจยาก แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ วิธีการคิดของไอน์สไตน์นั้นกลับเรียบง่ายและสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ หนึ่งในแนวคิดที่สำคัญที่สุดของเขาคือ The Puzzle Principle ซึ่งนักจิตวิทยาชื่อดังและผู้เขียนหนังสือ Think Again อย่าง Adam Grant และงานวิจัยสมัยใหม่ต่างยืนยันว่า แนวคิดนี้สามารถทำให้เราฉลาดขึ้นได้จริง !

The Puzzle Principle คืออะไร ?

หนึ่งในคำพูดที่โด่งดังของไอน์สไตน์คือ “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่ามันหมายถึงความคิดสร้างสรรค์นั่นมีความสำคัญเหนือกว่าความรู้ความเข้าใจ แต่ความจริงแล้วสิ่งที่ไอน์สไตน์ต้องการสื่อกว้างกว่านั้นมาก เขาไม่ได้มองว่าความรู้ไม่สำคัญ แต่เขามองว่าจินตนาการทำให้เรามีความยืดหยุ่นในการมองปัญหา มันคือการไม่ยึดติดกับคำตอบที่เราคิดว่าถูกต้องและพร้อมจะสำรวจความเป็นไปได้ใหม่ๆ เหมือนกับการเล่นพัซเซิลที่เราต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ

สิ่งที่ทำให้ไอน์สไตน์แตกต่างจากนักวิทยาศาสตร์หลายคนในยุคเดียวกัน คือเขาไม่มีปัญหากับการยอมรับว่าตัวเองอาจคิดผิด ขณะที่คนอื่นๆ มักจะติดอยู่ในกรอบความเชื่อเดิม ไอน์สไตน์กลับเปิดกว้างและพร้อมจะตั้งคำถามกับทุกสิ่ง แม้แต่ความเชื่อที่ทุกคนมองว่าถูกต้อง

ตัวอย่างเช่น การค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษที่เปลี่ยนแปลงโลกวิทยาศาสตร์ เกิดขึ้นเพราะไอน์สไตน์ไม่ได้ยึดติดกับแนวคิดเก่าของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคนั้น เขามองปัญหาเหมือนพัซเซิล และเล่นกับมันด้วยมุมมองใหม่ที่แตกต่าง จนค้นพบคำตอบที่ไม่มีใครคาดถึง

ดังนั้น The Puzzle Principle คือ คือการมองปัญหาเหมือนกับเกมปริศนา ที่ต้องใช้การลองผิดลองถูกและความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทุกคำตอบตั้งแต่แรก ขอเพียงเปิดใจกว้าง กล้าที่จะตั้งคำถามและยอมรับว่าเราอาจคิดผิดได้บ้าง หลักการนี้ไม่ใช่แค่ช่วยเพิ่มความเฉลียวฉลาด แต่ยังช่วยให้เรามองเห็นมุมมองใหม่ๆ ของปัญหาที่คนอื่นอาจมองข้าม

ความถ่อมตนทางปัญญา คือความฉลาดที่แท้จริง

นักจิตวิทยาชื่อดังอย่าง Adam Grant ยังยืนยันว่าการคิดแบบนี้ช่วยให้คนทั่วไปมีความคิดที่เฉียบคมขึ้น ในหนังสือ Think Again เขาได้ให้แนะนำที่สำคัญไว้ถึง 2 อันได้แก่ 

จงให้ความถ่อมตนสำคัญกว่าความทะนงตัว และความอยากรู้อยากเห็นสำคัญกว่าความมั่นใจ


จงค้นหาว่าคุณอาจผิดตรงไหน ไม่ใช่เพียงหาหลักฐานมายืนยันว่าคุณถูก

นอกจากนี้ตัวอย่างจากงานวิจัยยังพบว่า…

  • งานวิจัยในยุโรปพบว่าธุรกิจที่มองการทำงานเหมือนการแก้พัซเซิล สร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 500,000 ดอลลาร์ เทียบกับบริษัทที่ทำตามแผนเดิมอย่างเคร่งครัด
  • คนที่แก้ปัญหาด้วยความถ่อมตนทางปัญญามีแนวโน้มตัดสินคุณภาพของข้อมูลได้แม่นยำขึ้น เรียนรู้ได้เร็วขึ้น และเข้าใจปัญหาที่ซับซ้อนได้ดีกว่า

สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือทำงานอะไร หลักการพัซเซิลของไอน์สไตน์ช่วยให้คุณฉลาดขึ้นได้ เพียงมองปัญหาเหมือนพัซเซิลที่รอให้คุณแก้ไข เปิดใจกว้าง และอย่ากลัวที่จะคิดผิดบ้าง เพราะความคิดที่ยิ่งใหญ่ เริ่มต้นจากการยอมรับว่าตัวเองยังไม่รู้ทั้งนั้น

อ้างอิง: inc

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

3 สัญญาณ 'ผู้นำยอดแย่' ในที่ทำงาน

ในยุคนี้ การเป็นหัวหน้าไม่ใช่แค่ “สั่งให้ทำ” แต่ต้องเข้าใจคน เข้าใจอารมณ์และความคิด หากยังใช้วิธีบริหารแบบเดิม ๆ อยู่ นั่นอาจเป็นสิ่งที่กำลังฉุดรั้งทีมเอาไว้ได้ และต่อไปนี้คือ 3 สั...

Responsive image

ผ่านช่วง Mid-career กับ 6 คำถามที่ควรถามตัวเอง เมื่อชีวิตมาถึงครึ่งทางของการทำงาน

รู้สึกเหมือนหลงทางทั้งที่ทำงานมานาน? ลองถามตัวเองด้วย 6 คำถามนี้ ช่วยเคลียร์ใจช่วง Mid-career ให้ชัดขึ้น...

Responsive image

5 เคล็ดลับสื่อสารให้เก่งเหมือนบารัค โอบามา

ตอนที่โอบามาเป็นนักเคลื่อนไหวใหม่ ๆ เขาเคยประหม่าและพูดผิดพลาดต่อหน้าคนมากมาย แต่จากวันนั้น เขาค่อย ๆ พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นนักพูดที่ใคร ๆ ก็อยากฟัง และนี่คือ 5 เทคนิคที่โอบามาใช้ใน...