"Aging Innovation Day นวัตกรรมเปลี่ยนโลกสูงวัย" จัดขึ้นจากความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่าง YoungHappy, YoungHappy Plus, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ SCBX Next Tech ตอกย้ำจุดยืนในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็น "สังคมสูงวัยคุณภาพ" ที่ผู้สูงอายุสามารถมีชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความสุขในทุกช่วงวัย

งานนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.สง่า ดามาพงษ์ กรรมการกำกับทิศทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุผู้แทนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
เข้าร่วมกิจกรรมและแถลงจุดยืนในการประสานความร่วมมือ ดร.สง่ากล่าวว่า "เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ หรือคุณภาพชีวิต จึงเป็นภารกิจสำคัญที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันขับเคลื่อน" โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของทุกคนในสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมด้าน กาย ใจ สังคม เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า มีพลัง และไม่โดดเดี่ยว โดยเน้นย้ำว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์แบบและ Super-Aged Society ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งผู้สูงอายุที่มีมากกว่า 13 ล้านคน ไม่ใช่ผู้รอการพึ่งพิง แต่เป็นพลังสำคัญที่มีศักยภาพในการสร้างคุณค่า. สสส. มุ่งมั่นทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการเตรียมความพร้อมสู่สังคมสูงวัย โดยมุ่งหวังให้ผู้สูงวัยไทยเป็น "ผู้สูงวัยที่มีคุณภาพ" ใน 4 มิติหลัก คือ สุขภาพดี เศรษฐกิจมั่นคง สังคมไม่ทิ้งกัน และสภาพแวดล้อมเหมาะสม. การจัดงานครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญในการร่วมกันคิด แลกเปลี่ยน และผลักดันนวัตกรรมที่จะ "เปลี่ยน" และ "พลิก" มุมมองของสังคมที่มีต่อผู้สูงอายุ ให้เห็นถึงคุณค่าและศักยภาพของพวกเขาอย่างแท้จริง
ดร.สง่า เสริมว่า "นวัตกรรมและเทคโนโลยีสามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ" งาน "Aging Innovation Day" จึงเป็นมากกว่าแค่การรวมตัวของนวัตกรรม แต่เป็นการ "จุดประกายความคิด เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ นักคิด นักพัฒนา รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจขับเคลื่อนสังคม"
มุ่งเน้นการนำเสนอแนวคิดและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ยังมีการหารือเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านข้อมูลสุขภาพ และการพัฒนาผู้สูงอายุให้เป็น "นักรับฟังในชุมชน" และแกนนำกิจกรรมด้านสุขภาพกาย ใจ สังคม
ตลอดทั้งวันของงาน Aging Innovation Day ได้มีการจัดเต็มด้วยช่วง Innovation Talk ที่เจาะลึกเทรนด์นวัตกรรมที่จะพลิกโฉมสังคมสูงวัยใน 3 มิติหลัก ได้แก่:
เวทีได้เปิดด้วยการพูดคุยถึงประเด็นสำคัญอย่าง "การเปิดโลกนวัตกรรมเพื่อการเดินทางที่รองรับสังคมสูงวัย โดย คุณธนัทเศรษฐ์ หอวัฒนพันธ์ จาก ViaBus ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะที่เท่าเทียมสำหรับทุกช่วงวัยในยุคที่สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วย "Innovation for Aging in Place: แนวทางใหม่ในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวม" โดย ผศ.พญ.อรพิชญา ศรีวรรโณภาส จากโรงพยาบาลพระรามเก้า ที่นำเสนอแนวคิดการดูแลแบบองค์รวมที่ช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในที่คุ้นเคย ไม่เพียงเท่านั้น ผู้เข้าร่วมงานยังได้ตื่นตาตื่นใจกับ "นวัตกรรมจากนักคิดรุ่นใหม่" อย่าง "Mr.Rehab" การทำกายภาพบำบัดที่บ้านด้วยเทคโนโลยี AI ซึ่งนำเสนอโดย คุณธนกฤษ สายพันธ์ ตอกย้ำถึงบทบาทของเทคโนโลยีในการดูแลสุขภาพเชิงรุกและเข้าถึงง่าย นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ FONIQ แอปฯ ฝึกพูดสำหรับผู้มีปัญหาการสื่อสารด้วย AI, ERTIGO แพลตฟอร์มช่วยนักกายภาพบำบัดฟื้นฟูร่างกาย ลดความเสี่ยงหกล้ม, Sentech plus ระบบตรวจคัดกรองโรคตา, IQMED (Braintrack) แพลตฟอร์มตรวจคัดกรองภาวะสมองเสื่อมด้วย AI, Arm Booster อุปกรณ์ฟื้นฟูสมรรถภาพท่อนแขน, และ VRX exercise การออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ที่เข้ามาช่วยเสริมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ที่สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีไม่ได้มีไว้เพียงสำหรับคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมต่อทุกช่วงวัยเข้าหากันอย่างกลมกลืน คุณวริศรา กลีบบัว ได้นำเสนอ "YoungHappy Plus: เมื่อวัยเก๋ากล้าก้าวสู่โลกดิจิทัล" ซึ่งเป็นพื้นที่เรียนรู้ออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงโลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ ถัดมาคือการนำเสนอ "นวัตกรรมจากนักคิดรุ่นใหม่" ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็น "JoyRide ลูกรับหลานจำเป็น" แพลตฟอร์มบริการช่วยเหลือผู้สูงอายุ โดย คุณณัฐกาญจน์ เด่นวณิชชากร ที่มอบความสะดวกสบายและความอบอุ่น และที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ "Scamtify" แพลตฟอร์มตรวจเช็คมิจฉาชีพออนไลน์ด้วย AI โดย คุณปวริศ เรืองจุติโพธิ์พาน ที่เข้ามาช่วยสร้างเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ให้กับผู้สูงอายุในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมอื่นๆ ที่โดดเด่น เช่น BlueOak ระบบตรวจจับการหกล้มอัตโนมัติ, พร้อมพา (Prompt PA) แพลตฟอร์มดูแลผู้สูงอายุถึงที่บ้านและ Living Wills แพลตฟอร์มสำหรับทำพินัยกรรมด้วยตนเอง
ที่นำเสนอแนวคิดและเทคโนโลยีสำหรับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนและเอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ โดย ดร. วิทยา สินทราพรรณทร จาก Magnolia Quality Development Corporation ได้นำเสนอเรื่อง "การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการดูแลสุขภาพองค์รวมของวัยเกษียณ" ที่ผสานการออกแบบเข้ากับการดูแลสุขภาพอย่างชาญฉลาด ตามมาด้วยการนำเสนอเรื่อง "สภาพแวดล้อมเพื่อสุขภาวะวัยเกษียณอย่างยั่งยืน" โดย คุณสุจิตรา จิระวาณิชย์กุล จาก Chula Universal Design Center ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการออกแบบที่รองรับการใช้ชีวิตในทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน.นอกจากเวที Innovation Talk ที่อัดแน่นด้วยองค์ความรู้และแรงบันดาลใจ ตลอดบ่ายยังมีช่วง "Pitch for Change" การประกวดไอเดียนวัตกรรมเพื่ออนาคตสูงวัยโดยนักคิดรุ่นใหม่ อายุ 15-25 ปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญในการแสดงพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทีมสตาร์ทอัพและนักนวัตกรรมได้นำเสนอโซลูชันที่น่าจับตา ได้แก่:
งาน "Aging Innovation Day" ไม่ใช่เพียงแค่การจัดแสดงนวัตกรรม แต่คือการสร้างสรรค์ระบบนิเวศน์ที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตของผู้สูงวัย การผนึกกำลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ผสมผสานกับพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรม คือกุญแจสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นสังคมสูงวัยคุณภาพอย่างแท้จริง พร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลง และสร้างสรรค์ชีวิตที่มีความหมายให้แก่ผู้สูงวัยทุกคนในสังคม
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด