รู้จัก Amaterasu Railway จากญี่ปุ่น รถไฟที่เติมราเมนแทนน้ำมัน | Techsauce

รู้จัก Amaterasu Railway จากญี่ปุ่น รถไฟที่เติมราเมนแทนน้ำมัน

รู้ไหมรถไฟญี่ปุ่นก็ชอบกินราเมน เพราะตอนนี้รถไฟท่องเที่ยวของญี่ปุ่น เลิกใช้เชื้อเพลิงอย่างน้ำมันดีเซล และเปลี่ยนมาใช้ราเมนเติมแทน !

Amaterasu Railway รถไฟที่กินราเมน

ที่จังหวัดมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น มีรถไฟชื่อว่า Amaterasu Railway เป็นรถไฟสายสั้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวใช้เดินทางเพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยว โดยใช้เวลาเดินทางเที่ยวละ 30 นาทีเท่านั้น

รูปจาก: amaterasu-railway

รถไฟ Amaterasu เป็นรถไฟที่ไม่มีหลังคาปิด ผู้คนที่นั่งรถไฟขบวนนี้จึงจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและธรรมชาติอย่างแท้จริง ซึ่งความพิเศษของรถไฟคันนี้คือ ไม่ใช้น้ำมันดีเซลทั่วไปในการเติม แต่ใช้ไบโอดีเซลมาเติมแทน ซึ่งไบโอดีเซลที่นำมาใช้ก็ได้มาจากซุปราเมนที่กินเหลือ หรือน้ำมันที่เหลือจากการประกอบอาหารนั่นเอง

การใช้ไบโอดีเซลนอกจากจะลดปริมาณมลพิษที่ปล่อยออกสู่อากาศแล้ว (เพราะกระบวนการเผาไหม้สะอาดกว่าดีเซลทั่วไป) ยังทำให้ควันที่ปล่อยออกมาจากการเผาไหม้ไม่มีกลิ่นเหม็น และสีดำมาบดบังความสวยงามของธรรมชาติตามเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน นักท่องเที่ยวจึงสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศและความสวยงามได้โดยไม่มีควันพิษมารบกวน

ทำไมต้องใช้ไบโอดีเซลจากอาหารเหลือ

ในบางพื้นที่อย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรปใช้ไบโอดีเซลจากน้ำมันพืช เช่น คาโนลา หรือถั่วเหลือง แต่ที่ญี่ปุ่นพวกเขาไม่ต้องการใช้น้ำมันพืชที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน เพราะมันสามารถนำไปประกอบอาหารได้และมองว่าเป็นการสิ้นเปลือง

ญี่ปุ่นจึงเลือกใช้ไบโอดีเซลจากน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว หรือแม้แต่ซุปเหลือ ๆ แทน ซึ่ง Amaterasu Railway ร่วมมือกับ Nishida Logistics บริษัทที่เชี่ยวชาญในการผลิตไบโอดีเซลมาช่วยในการจัดหาเชื้อเพลิงเหล่านี้ 

โดยไบโอดีเซลกว่า 90% ที่พวกเขาใช้มาจากน้ำมันเทมปุระ และน้ำมันจากการประกอบอาหารประเภทอื่น ๆ และอีก 10% มาจากซุปราเมนทงคตสึที่รับมาจากร้านอาหารท้องถิ่นในจังหวัดมิยาซากิ 

แต่การนำไบโอดีเซลเหล่านี้มาใช้ไม่ใช่การเทซุปราเมนลงไปตรง ๆ พวกเขาจำเป็นจะต้องแยกไขมันหมูออกจากน้ำซุป และนำไปกลั่นเพื่อไม่ให้น้ำมันแข็งตัว

เมื่อเดือนกรกฎาคม Amaterasu Railway ก็ได้ทดสอบการใช้งานไปโอดีเซล และผลลัพธ์ก็ออกมาดีมาก รถไฟสามารถวิ่งได้ปกติดี และกลิ่นควันของมันก็มีกลิ่นหอม จนบางครั้งนักท่องเที่ยวถามว่ามีร้านอาหารแถวนี้ด้วยเหรอ

ถึงแม้ว่ามันจะดีต่อสิ่งแวดล้อมกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่น้ำมันเหล่านี้ก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้นานเกินไป เพราะหลังจากผ่านไป 2-3 เดือน มันก็จะเริ่มเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้ประสิทธิภาพของน้ำมันแย่ลงและอาจไม่ต่อเครื่องยนต์ในการนำไปใช้งาน

อ้างอิง: mymodernmet

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

One Bangkok จับมือ 5 สถาบันการเงินชั้นนำ รับดีล Green Loan สูงสุดในประวัติการณ์เพื่อพัฒนาโครงการ

One Bangkok ประกาศลงนามสัญญาสินเชื่อสีเขียวระยะยาวเพื่อพัฒนาโครงการมูลค่า 5 หมื่นล้านบาทร่วมกับ 5 สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศ...

Responsive image

เจาะลึกวิกฤตน้ำกับ TCP เมื่อน้ำกำลังจะกลายเป็นของหายาก

วิกฤตน้ำทั่วโลกส่งผลกระทบหนักต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจ TCP เสนอแนวทางแก้ไขผ่าน Nature-based Solutions และกลยุทธ์บริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจไทยในยุคโลกร้อน...

Responsive image

David Capodilupo จาก MIT Sloan เปิดเหตุผลตั้งสำนักงานในไทย ต้นแบบสู้ Climate Change อาเซียน

David Capodilupo ผู้ช่วยคณบดีด้านโครงการระดับโลกของ MIT Sloan เผยเหตุผลที่สถาบันเข้ามาตั้งสำนักงานในไทย เพื่อให้ไทยเป็นฮับอาเซียน ในการส่งเสริมการเรียนการสอน การวิจัยพัฒนา การแก้ปั...