อยากดื่มกาแฟดีๆ สักแก้วนึกถึงร้านอะไร เชื่อว่าชื่อของ Starbucks ต้องโผล่ขึ้นมาอยู่ในลิสต์แน่ๆ
บทความนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาเรียนรู้แนวทางการปั้นแบรนด์ของ Starbucks ที่เค้นออกมาจากประสบการณ์จริงตลอดระยะเวลามากกว่า 20 ปีที่แบรนด์ต่างชาติแบรนด์นี้เข้ามายังประเทศไทย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Techsauce ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Marketing Oops! Summit 2024 ในเวที Innovate Sustainability ที่ Starbucks ได้แชร์ประสบการณ์ในการปั้นร้านกาแฟยั่งยืนที่มีสาขามากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศไทยภายใน 26 ปี
Starbucks สาขาแรกของไทยเข้ามาในปี 1998 ปัจจุบันเป็นร้านกาแฟที่มีสาขามากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศไทย อาจดูเหมือนไม่เยอะจนน่าตกใจ แต่ร้านที่เริ่มต้นจากแค่ ‘กาแฟ’ ทำไมถึงครองใจคนไทยมายาวนานกว่า 26 ปี
ลองมาฟัง ‘เป้าหมายของ Starbucks’ จากคุณจุฑาทิพย์ เก่งมานะ ผู้จัดการฝ่ายผลกระทบทางสังคมและความยั่งยืน Starbuck ประเทศไทย ในเซสชั้น Sustainable Branding : Case Studies of Eco-Friendly Market Leaders
ไม่ว่าลูกค้าจะรับเครื่องดื่มจากบาริสต้าของสตาร์บัคส์กี่ล้านครั้งในแต่ละสัปดาห์ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้าก็ยังคงเอกลักษณ์ไว้เหมือนเดิม - ประโยคที่ Starbucks ใช้อธิบายความเป็นตัวเอง ถือเป็นจุดที่ชี้ให้เราเห็นว่าร้านกาแฟแห่งนี้ไม่ได้มุ่งเป็นเพียงแค่ร้านซื้อขายกาแฟ แต่วางตัวเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟจากทั่วทุกมุมโลกได้เข้ามาพบปะพูดคุย มีปฏิสัมพันธ์กัน
แต่นอกจาก ‘การใส่ใจลูกค้า’ ที่ผู้คนสัมผัสได้จาก Starbucks แล้ว ‘การใส่ใจโลกและสังคม’ ก็เป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้ผู้คนอยากสนับสนุนแบรนด์นี้ต่อไป ด้านคุณจุฑาทิพย์ ได้เล่าให้ฟังถึงโครงการ Starbucks C.A.F.E. Practices (Coffee and Farmer Equity) หรือการรับซื้อกาแฟอย่างมีจริยธรรม
“กาแฟรสชาติเยี่ยม และช่วยทำให้โลกของเราดีขึ้น” คือ เป้าหมายหลักที่ Starbucks มุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จตลอดมาตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1971 โดยโครงการ C.A.F.E. Practices (Coffee and Farmer Equity) หรือการรับซื้อกาแฟอย่างมีจริยธรรม เป็นสิ่งที่ร้านกาแฟแห่งนี้ทำมามากกว่า 10 ปีแล้ว
โดยทาง Starbucks จะช่วยสอนให้ชาวไร่กาแฟท้องถิ่นของไทยสามารถเพาะปลูกกาแฟได้ดีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น และซื้อกาแฟจากชาวไร่เหล่านี้เพื่อนำมาขายที่ร้าน เช่น การแฟม่วนใจ๋ กาแฟพันธุ์อาราบิก้าชั้นดีจากประเทศไทย
วิธีการที่ Starbucks จะใช้วัดผลว่าโครงการนี้สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกและสังคมได้อย่างไร ก็จะใช้ตัวชี้วัดทั้งหมด 4 ข้อนี้
Starbucks เชื่อว่านี่จะเป็นแนวทางที่ทำให้บรรลุเป้าหมาย “กาแฟรสชาติเยี่ยม และช่วยทำให้โลกของเราดีขึ้น” เพราะการซื้อกาแฟอย่างมีความรับผิดชอบจะช่วยสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับชาวไร่กาแฟ ช่วยรักษาสภาพภูมิอากาศของโลกให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น และช่วยให้มีการรับซื้อกาแฟคุณภาพสูงในระยะยาว
สุดท้ายแล้วการใส่ใจในทุกๆ ส่วนของธุรกิจก็จะนำมาซึ่ง ลูกค้าได้กาแฟที่คุณภาพดี ชาวไร่ขายของได้ในราคาที่ดี โลกได้รับการดูแลจากกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม แบรนด์ได้รับแรงสนับสนุนจากมวลชน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด