คุ้มไหม? ตัดต้นไม้ 5 แสนต้น สร้างโรงงาน Tesla

Tesla เอาอีกแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพิ่งมีประเด็นปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มจากปีก่อนถึง 20% ล่าสุดตัดต้นไม้กว่า 500,000 ต้นเพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งและการประท้วงมากมาย

คุ้มไหม? ต้นไม้ 5 แสนต้นแลกกับพลังงานสะอาดอย่างรถ EV

จากภาพถ่ายดาวเทียมระหว่างเดือนมีนาคม 2020 - เดือนพฤษภาคม 2023 เผยให้เห็นว่า พื้นที่ป่าใกล้กรุงเบอร์ลินที่ใหญ่ประมาณ 329 เฮกตาร์ (813 เอเคอร์) ซึ่งมีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลกว่า 400 สนาม ได้ถูกทำลายเพราะการตั้งโรงงานของ Tesla และจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางดาวเทียมคาดว่ามีการตัดต้นไม้ประมาณ 500,000 ต้นระหว่างการก่อสร้างโรงนี้

การก่อสร้างโรงงาน Tesla ในครั้งนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งและส่งผลให้เกิดการประท้วงหลายครั้ง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ยังคงถกเถียงกันว่า มันจะคุ้มหรือไม่ที่จะต้องตัดต้นไม้จำนวนมาก เพื่อสร้างโรงงานที่สนับสนุนพลังงานสะอาดอย่างรถ EV

ทาง Antoine Halff หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Kayrros บริษัทข่าวกรองด้านสิ่งแวดล้อม อธิบายว่าการสร้างโรงงาน Tesla ในเยอรมนีส่งผลให้มีการตัดต้นไม้จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เขาแนะนำว่าเราควรพิจารณาเรื่องนี้ในบริบทเดียวกัน โดยเปรียบเทียบต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมจากการสูญเสียต้นไม้กับประโยชน์จากการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อทดแทนรถยนต์พลังงานน้ำมัน

โดย Halff ตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนต้นไม้ที่ถูกตัดไปจะดูดซับ CO2 ได้ประมาณ 13,000 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณเท่ากับ CO2 ที่รถยนต์ทั่วไป 2,800 คันในสหรัฐอเมริกาปล่อยออกมา ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบจำนวนการปล่อยคาร์บอนนี้กับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่ Tesla ผลิตได้ในทุกๆ 2-3 เดือน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการสูญเสียต้นไม้เหล่านี้ก็ถือว่าค่อนข้างน้อย

การขยายโรงงานในครั้งนี้  รัฐบาลเมือง Brandenburg ได้อนุมัติแผนให้ Tesla ขยายโรงงานเพื่อให้สามารถผลิตได้มากถึง 1 ล้านคันต่อปี ซึ่งมากกว่าเดิมเป็น 2 เท่าของปริมาณการผลิตในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามตั้งแต่เริ่มสร้างโรงงานนี้ก็มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย เช่น การรั่วไหลของน้ำมันดีเซล สี และอลูมิเนียม เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ด้าน Tesla ได้ตอบกลับถึงข้อกังวลเหล่านี้ว่า แม้ว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้งในระหว่างการก่อสร้าง แต่ตั้งแต่โรงงานเริ่มดำเนินการ ก็ยังไม่มีเหตุการณ์ใดเลยที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทาง Tesla ยังย้ำว่าหากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น บริษัทก็จะรีบดำเนินการแก้ไขอย่างแน่นอน

อ้างอิง: theguardian

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะลึกรายงาน World Energy Outlook เมื่อโลกเข้าสู่ ‘ยุคแห่งไฟฟ้า’ และสมรภูมิชิงทรัพยากรที่เปลี่ยนจากน้ำมันเป็นแร่ธาตุ

เจาะลึก World Energy Outlook 2025 โลกเข้าสู่ยุคแห่งไฟฟ้าและสงครามแร่ธาตุ AI และ EV ดันดีมานด์ไฟพุ่ง จีนครอง Supply Chain ขณะที่ก๊าซ LNG จ่อล้นตลาด...

Responsive image

MIT เปิดตัวอุปกรณ์ Ultrasonic ดึงน้ำจากอากาศเร็วขึ้น 45 เท่า ความหวังใหม่ในโลกที่กำลังแห้งลง

MIT พัฒนาอุปกรณ์อัลตราโซนิกที่สกัดน้ำจากอากาศได้เร็วขึ้น 45 เท่า ใช้พลังงานต่ำและทำงานได้หลายรอบต่อวัน เปิดทางสู่อนาคตการผลิตน้ำสะอาดในพื้นที่แห้งแล้งและชุมชนขาดแคลนน้ำ...

Responsive image

เจาะลึกอนาคตเศรษฐกิจสีเขียว ‘ฉลากสิ่งแวดล้อม’ ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นใบเบิกทางสู่ความยั่งยืน และความอยู่รอดทางธุรกิจ

สรุปเวทีเสวนา 'ทิศทางฉลากสิ่งแวดล้อม' จาก TEI, HomePro และ IFC เจาะลึกเทรนด์ EPD, เศรษฐกิจหมุนเวียน และอาคารเขียว ที่ไม่ใช่แค่ 'ทางเลือก' แต่เป็น 'ทางรอด' ของธุรกิจ...