สภาพอากาศแปรปรวนทำตลาดส้มอ่วม ผลผลิตส้มแย่ที่สุดในรอบสามสิบปี ราคาน้ำส้มพุ่งทะลุเพดานเป็นประวัติการณ์ ผู้ผลิตหลายเจ้าต้องหันมาพิจารณาผลไม้ทางเลือก
น้ำส้ม ถือเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเช้าหลักๆ ของชาวอเมริกัน ที่ตอนนี้ประสบปัญหาราคาสูงขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผลผลิตที่ลดลงในฟลอริดา ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำส้มรายใหญ่ในสหรัฐฯ และสภาพอากาศสุดขั้วในพื้นที่ผลิตส้มหลักของบราซิลผู้ผลิตและส่งออกน้ำส้มรายใหญ่ของโลก
ศูนย์วิจัย Fundecitrus คาดการณ์ว่าผลผลิตส้มของบราซิลจะลดลงอย่างมาก โดยคาดการณ์ว่าจะมีเพียง 232.4 ล้านกล่องในฤดูกาลปี 2024-2025 ซึ่งลดลง 24% จากฤดูกาลก่อน และถือว่าเป็นผลผลิตที่แย่ที่สุดในรอบสามทศวรรษ
โดยปกติแล้วบราซิลจะผลิตส้มได้ประมาณ 300 ล้านกล่องในแต่ละฤดูกาล แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก และยังก่อให้เกิดสภาพอากาศสุดขั้วบ่อยขึ้นและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ศูนย์วิจัย Fundecitrus กล่าวว่าคลื่นความร้อนที่รุนแรงต่อเนื่องกันในบราซิลระหว่างระยะออกดอกและการเกิดผลช่วงต้นของส้มในเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนปีที่แล้ว ส่งผลกระทบกับผลผลิตส้มในประเทศอย่างมาก นอกจากนี้ยังส่งผลให้ส้มเกิดโรคที่ชื่อ Greening ซึ่งส่งผลให้ผลไม้มีคุณภาพต่ำ ไม่มีทางรักษาให้หายขาดซึ่งส่งผลให้ส้มมีรสขมและแคระแกร็น นักวิเคราะห์เตือนว่าปัญหาดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสร้างความหายนะให้กับสวนส้มทั่วโลกไประยะหนึ่ง
ปัจจุบันราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำส้มแช่แข็งบน Intercontinental Exchange อยู่ที่ 4.77 ดอลลาร์หรือราว 175.6 บาทต่อปอนด์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อนหน้า
Harry Campbell นักวิเคราะห์จาก Mintec กล่าวว่า ปรากฏการณ์นี้บีบให้ผู้ผลิตปรับตัวด้วยการลดการพึ่งพาน้ำส้มและหันไปเพิ่มการผลิตน้ำผลไม้ทางเลือก เช่น ลูกแพร์ แอปเปิล และองุ่น ที่มีราคาถูกกว่าเป็นต้น
ด้วยปัจจุบันยังคงมีความต้องการน้ำส้มอยู่เนื่องจากเป็นหนึ่งในอาหารหลักยาวชาวของชาวอเมริกัน ราคาน้ำส้มในรอบถัดไปจึงคาดการณ์ไว้อยู่ที่ 5.16 ดอลลาร์หรือราว 190 บาทต่อปอนด์ และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าผู้ผลิตลดจะสามารถอุปทานจนทำให้ความต้องการน้ำส้มลดลงในที่สุด
อ้างอิง: cnbc
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด