20 บริษัทที่คนไทยอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในปี 2020 | Techsauce

20 บริษัทที่คนไทยอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในปี 2020

ผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ในปีที่ผ่านมา ทำให้หลายองค์กรต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน บริษัทหลายแห่งมีการปรับนโยบายการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยให้กับพนักงาน และด้วยประเด็นนี้ความสนใจในการหางานของคนยุคใหม่จึงเปลี่ยนไป ดังนั้น บริษัทที่กำลังมองหาพนักงานใหม่ หรือต้องการจะรักษาพนักงานไว้จึงต้องปรับตัวให้มีนโยบายที่ตอบสนองความต้องการ และสร้างความมั่นใจให้พวกเขา ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีหลายบริษัทที่เป็นบริษัทในอุดมคติที่ใครหลายคนอยากทำงานด้วย ในบทความนี้จึงมีการรวบรวมและจัดอันดับ 20 บริษัทที่คนไทยอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในปี 2020 จะมีบริษัทใดบ้าง และแต่ละที่จะมีนโยบายอย่างไรคนจึงสนใจไปดูกันเลย

อันดับที่ 1 Google

สำหรับอันดับ 1 ของบริษัทที่คนไทยอยากทำงานด้วยคงจะหนีไม่พ้นบริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อดังระดับโลกอย่าง Google ซึ่งในประเทศไทยออฟฟิศของ Google นั้นได้ออกแบบมาให้มีเอกลักษณ์แบบไทยๆ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่เปิดกว้างให้พนักงานได้ใช้ความคิด และแสดงความสามารถกันอย่างเต็มที่ ด้วยการมีพื้นที่พักผ่อน คาเฟ่ และโซนห้องประชุม ซึ่งมีการสร้างตามแนวคิดของความว่องไว และกระฉับกระเฉง ด้วยการวางรูปแบบสำนักงานที่เหมาะกับการทำงาน จึงทำให้ Google ขึ้นแท่นมาเป็นอันดับแรกของบริษัทที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุด

อันดับที่ 2 LINE

สำหรับ LINE แอปพลิเคชั่นสัญชาติญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมมากของคนไทย ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่คนไทยอยากร่วมงานมากที่สุด เพราะออฟฟิศของ LINE Thailand นั้นได้รวบรวมเอาฟีเจอร์ และบริการต่างๆ เข้ามาไว้ด้วยกันจนทำให้ออฟฟิศมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น โซนบอร์ดเกม โซนฟิตเนส โซนรีแลกซ์ที่มีทั้งบริการนวด และที่สำหรับนอนพักผ่อนอีกด้วย นอกจากนี้ตัวออฟฟิศเองยังออกแบบมาด้วยความครีเอทีฟ ซึ่งในห้องประชุมแต่ละห้องก็จะมีการออกแบบในธีมต่างๆ เช่น สนามมวย หรือยานอวกาศ ด้วยความน่ารักของเหล่าตัวการ์ตูนจาก LINE และบรรยากาศที่ดีเหมาะกับการทำงาน ก็ทำให้ LINE ติดอันดับที่สองกันเลยทีเดียว

อันดับที่ 3 Apple

อีกหนึ่งบริษัทที่เมื่อพูดถึงชื่อ Apple ก็ทำให้ใครหลายคนอยากจะก้าวเท้าเข้าไปร่วมงานกับบริษัทนี้ ด้วยชื่อเสียงด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลกแล้ว Apple ยังมีการออกแบบระบบที่น่าทึ่งในการทำงานให้พนักงานอีกด้วย ทั้งเรื่องการดูแลความสะดวกของพนักงาน ช่วยเหลือเรื่องการเดินทางในช่วงหยุดพักร้อน อาหารเครื่องดื่มฟรีในออฟฟิศ และยังให้อิสระในการทำงาน เพื่อให้พนักงานทุกคนได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ และด้วยความเอาใจใส่พนักงานทุกคนแบบนี้ จึงทำให้ Apple หนีไม่พ้นอันดับต้นๆ ของบริษัทที่คนอยากทำงานด้วย

อันดับที่ 4 PTT

เมื่อพูดถึงบริษัทชื่อดังด้านพลังงานและปิโตรเลียม ทุกคนต้องนึกถึง ปตท. ซึ่งก็จัดเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่คนไทยต้องการจะร่วมงานด้วย เพราะ ปตท. เป็นบริษัทของคนไทยที่ดูแลพนักงานดี จนทำให้มีคนทุกรุ่น ทุกช่วงอายุทำงานอยู่ร่วมกัน และด้วยชื่อเสียงของการมอบสวัสดิการที่ดีให้ทั้งพนักงาน และครอบครัวของพนักงานแล้ว ยังมีการมอบสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไปตามช่วงอายุให้กับพนักงานทุกคน นอกจากนี้ยังมีการเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ ปตท. เป็นอีกหนึ่งที่ที่น่าร่วมงานด้วย

อันดับที่ 5 Agoda

Agoda ถือเป็นแพลตฟอร์มสำหรับจองและเช่าที่พักเจ้าใหญ่ และอยู่อันดับต้นๆ ของประเทศไทยเช่นกัน สำหรับการทำงานใน Agoda นั้น ตัวออฟฟิศได้ออกแบบมาให้เหมาะกับการสื่อสาร โดยทุกที่สามารถใช้ในการทำงานได้อย่างดี และครบถ้วน รวมถึงการจัดระบบออฟฟิศให้มีความเป็นธรรมชาติด้วยการใช้ต้นไม้แทนกำแพง และม่านในบางพื้นที่ รวมถึงการให้มีแสงแดดส่องถึงในที่ทำงาน อีกทั้งยังมีสวัสดิการดีๆ ให้กับพนักงานทุกคน เช่น ส่วนลดในการจองโรงแรม และที่พัก จึงสร้างความน่าสนใจให้กับ Agoda เป็นอย่างมาก

อันดับที่ 6 Shopee

เมื่อพูดถึงแอปพลิเคชั่นสำหรับช้อปปิ้งออนไลน์ที่รวบรวมสินค้าไว้มากมายหลายประเภท ก็ทำให้นึกถึง Shopee บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี ecommerce สัญชาติสิงคโปร์ ที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นบริษัทที่มีการสนับสนุนการทำงานที่ดี รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับพนักงาน สำหรับออฟฟิศของ Shopee นั้น ได้มีการจัดสรรค์ให้มีความคล่องตัวในการทำงาน ด้วยการนำเอาอุปกรณ์ IT และเทคโนโลยีไฮเทคต่างๆ เข้ามาใช้ในที่ทำงาน และยังมีการเปิดกว้างให้พนักงานทุกคนทำงานได้ในหลายรูปแบบ และได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่อีกด้วย

อันดับที่ 7 Thai Beverage

ด้วยการเตรียมพร้อม และการปรับตัวที่ดีในทุกๆ สถานการณ์ทำให้บริษัทชื่อดังด้านอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของไทยอย่าง ThaiBev สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้พ้นวิกฤตได้ ซึ่งทาง ThaiBev มีการสร้างวัฒนธรรมองค์กร และระบบการทำงานที่น่าสนใจมาก ด้วยการเอาใจใส่ที่ดีกับพนักงานทุกคนในทุกสถานการณ์ เช่น มีการจัดตั้ง COVID-19 Relief Center เพื่อช่วยดูแลพนักงานทั้งเรื่องสุขภาพของพนักงานเองและครอบครัว รวมไปถึงความปลอดภัยต่างๆ ในช่วงการระบาดของ COVID-19 นอกจากนี้ในการทำงานก็ยังเปิดโอกาสให้พนักงานได้แบ่งปันประสบการณ์และชีวิตในการทำงาน และยังเปิดโอกาสเรื่องการฝึกงานให้นักศึกษาได้ลองทำงานจริงอีกด้วย ทำให้ ThaiBev เป็นอีกบริษัทในอุดมคติของคนไทยที่อยากร่วมงานด้วย

อันดับที่ 8 Facebook

Startup ชื่อดังระดับโลกด้วยการเป็นเว็ปไซต์ด้านสังคมอย่าง Facebook ก็เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่คนไทยอยากเข้าไปทำงานด้วยมากที่สุดเช่นกัน ด้วยการจัดการออกแบบออฟฟิศให้มีความเป็นไทย และสร้างบรรยากาศให้มีความผ่อนคลาย เพื่อลดความเครียดของพนักงาน มีทั้งมุมต่างๆ เพื่อให้นั่งผ่อนคลาย หรือใช้เพื่อถ่ายภาพสวยๆ และก็ยังมีมุมสำหรับเล่นสนุกต่างๆ อีกด้วย เพื่อให้พนักงานทำงานด้วยความสุข และสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกมา

อันดับที่ 9 Central Group

บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทอันดับต้นๆ ของไทยที่มีคนอยากทำงานด้วยมากที่สุด ด้วยการดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้า เครือโรงแรม เครือร้านอาหารชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นผู้นำเข้าแบรนด์ดังต่างๆ ระดับโลกมาให้คนไทย และยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีกอีก จึงทำให้เครือเซ็นทรัลกรุ๊ปเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นของบริษัทด้านการบริการที่ครบวงจรของไทยที่มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากอีกที่นึง

อันดับที่ 10 Sansiri

สำหรับบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ของคนไทยที่มีชื่อเสียงมานานอย่างแสนสิริ ตามแนวคิดการดำเนินการด้วยการสร้างชีวิตที่ดีให้กับทุกคน มอบการบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ การสร้างนวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ให้กับประชาชนโดยคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้การดูแลพนักงานของแสนสิริยังเป็นอีกส่วนที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งสวัสดีการบ้านพักช่วงวันหยุดที่จองได้แบบไม่จำกัดจำนวน การจัดทริปสำหรับครอบครัว การมอบส่วนลดพิเศษต่างๆ ให้กับพนักงาน นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการด้านการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นตรวจสุขภาพประจำปีฟรี และการเบิกค่ารักษาพยาบาลด้านสุขภาพทางจิตฟรี

อันดับที่ 11 Starbucks

สำหรับ Starbucks ที่ดำเนินธุรกิจร้านกาแฟมาเป็นเวลานาน และมีให้บริการกว่า 3 หมื่นสาขาทั่วโลก ทำให้หลายคนอยากทำงานกับ Starbucks เป็นอย่างมาก และเนื่องจากการมีวัฒนธรรมองค์กรที่น่าสนใจ เช่น การสร้างทัศนคติว่าทุกคนเป็นมากกว่า ‘พนักงาน’ ทุกคนไม่ใช่ลูกจ้าง แต่ทุกคนคือ Partner ที่จะทำงานร่วมกัน เหมือนกับเป็นเจ้าของร้านร่วมกันนั่นเอง อีกทั้งยังมีการมอบสวัสดิการต่างๆ ทั้งกาแฟ หรือชาฟรี รับสินค้าของ Starbucks ฟรี หรือจะเป็นการมอบค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ซึ่งทำให้หลายๆ คนสนใจที่จะเป็น Partner กับ Starbucks

อันดับที่ 12 dtac

ด้วยการสร้างบรรยากาศในออฟฟิศให้เป็นเหมือน ‘บ้าน’ สำหรับพนักงานทุกคน ทำให้ dtac บริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่คนให้ความสนใจจะร่วมงานด้วย โดยภายในออฟฟิศของ dtac มีการออกแบบมาให้มีทั้งมุมทำงาน มุมพักผ่อน และมุมส่วนตัว เพื่อให้พนักงานสามารถใช้ทุกสถานที่ได้อย่างเต็มที่ และสนุกกับการทำงาน นอกจากนี้ยังมีการสร้างบรรยากาศดีๆ ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อให้พนักงานทุกคนรู้สึกผ่อนคลายในระหว่างการทำงานอีกด้วย

อันดับที่ 13 Philip Morris

สำหรับบริษัทชื่อดังผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบจากต่างประเทศ และเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Marlboro และ L&M ก็ติดอันดับบริษัทที่คนอยากทำงานด้วย เพราะการออกแบบรูปแบบการทำงานของพนักงาน และออฟฟิศให้เป็นสถานที่แห่งความสุข เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และสนุกไปกับงาน และยังมีการสร้างวัฒนธรรมที่ให้คนทุกเพศทุกวัยสามารถทำงานด้วยกันอย่างสบายใจ ด้วยมุมกิจกรรมที่ช่วยสานสัมพันธ์ทุกคนในองค์กร เช่น ห้องประชุมที่มีที่นอน และชิงช้า ฟุตบอลโต๊ะ และห้องต่างๆ ที่มีการออกแบบในหลายๆ ธีมแตกต่างกันไป

อันดับที่ 14 SCG

หากพูดถึงบริษัทที่นำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้กับองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังให้ความสำคัญกับ Digital Transformation ก็ต้องนึกถึงบริษัทอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ และสิ่งก่อสร้างอย่าง SCG และในส่วนของการทำงาน พนักงานทุกคนจะได้ทำงานใน Digital Office ที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกับการทำงานต่างๆ นอกจากนี้พนักงานทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในการนำเสนอแนวความคิดสำหรับสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ อีกด้วย และ SCG ยังสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างเต็มที่ ทำให้หลายๆ คนสนใจร่วมงานกับบริษัทคุณภาพเช่นนี้เป็นอย่างมาก

อันดับที่ 15 Workpoint TV

สำหรับตอนนี้ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักช่องทีวีอย่าง Workpoint ด้วยการสรรค์สร้างเนื้อหาบันเทิงหลากหลายรูปแบบให้คนไทยรับชม และยังเป็นผู้ผลิตสื่อบันเทิงทั้งละคร ภาพยนตร์ คอนเสิร์ตการแสดง และรายการโทรทัศน์รายใหญ่ของประเทศไทย ทำให้บริษัท Workpoint ก้าวเข้ามาเป็นบริษัทตัว Top ที่คนไทยอยากร่วมงานด้วย เพราะมีการเปิดโอกาสให้ทำงานหลากหลายประเภท และยังมีการให้หุ้นบริษัทสำหรับผู้ที่ทำงานได้ดีอีกด้วย เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจ และเป็นการสร้างหุ้นส่วนในการทำงาน เพราะทาง Workpoint ต้องการให้ทุกคนเป็นมากกว่าพนักงานนั่นเอง

อันดับที่ 16 Grab

หนึ่งในธุรกิจ Startup ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากสิงคโปร์ ผู้ให้บริการทั้งรถยนต์ส่วนตัว คนขับรถ แท็กซี่ บริการส่งอาหารและเอกสาร ที่ตอนนี้มีให้บริการแล้วทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง Grab ที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตร ส่งเสริมการคิดแบบ Positive Thinking การให้ผลตอบแทนสูง และมีแนวคิดการทำงานร่วมกันแบบครอบครัว ทำให้หลายๆ คนให้ความสนใจในการร่วมงานกับ Grab เป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่การทำงานรับ-ส่งอาหาร และผู้โดยสาร แต่รวมไปถึงการทำงานในออฟฟิศของ Grab ด้วยเช่นกัน

อันดับที่ 17 Mitr Phol

ถ้าพูดถึงองค์กรชั้นนำที่ได้นำเอาหลักการ Employee Centric มาใช้ในการบริหารคน ทำให้หลายคนอยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร ต้องยกให้กับมิตรผล บริษัทอุตสาหกรรมน้ำตาลอ้อย และ Bio-based ที่ได้นำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในกระบวนการทำงาน และยังสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้พนักงานทุกคนมีความสุข ด้วยการสนับสนุนการเรียนภาษา การเรียนในคอร์สต่างๆ การสอบวัดความรู้ และการทำ Workshop อีกมากมาย นอกจากนี้มิตรผลยังส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีของพนักงานด้วยการตั้งฟิตเนสในออฟฟิศ และมีผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลด้านโภชนาการอีกด้วย จนทำให้ได้รับรางวัล "Best Employer Thailand" ถึง 3 ปีซ้อน (2016-2018)

อันดับที่ 18 Krungsri

สำหรับธนาคารกรุงศรีที่ยึดเอาหลักการ Customer Centric มาใช้ ทำให้การบริการลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ จึงเกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการทำงานเป็นทีม และมีการเปิดกว้างด้านความคิด เพื่อให้เกิดการบริการที่ดีต่อลูกค้า ซึ่งธนาคารกรุงศรียังให้ความสำคัญกับการยอมรับและเห็นคุณค่าของความแตกต่างของแต่ละบุคคล และไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้โอกาส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานทุกคน นอกจากนี้ยังมีการสร้างกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับบุคคลากรทุกคน เช่น การจัดสัมนา หรือ Workshop เพื่อพัฒนาฝีมือ และทักษะของพนักงานทุกคน

อันดับที่ 19 L’Oréal

L’Oréal ถือเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ไม่ได้ดูแลเพียงลูกค้า แต่ยังดูแลพนักงานดีอีกด้วย และด้วยการเป็นธุรกิจด้านเวชสำอางค์ชื่อดังระดับโลก จึงทำให้มีคนรุ่นใหม่หลายคนสนใจจะร่วมงานกับ L’Oréal ภายใต้แนวคิดที่ว่า “แบ่งปันความงามให้ทุกสรรพสิ่ง” ทั้งลูกค้าและพนักงานจึงได้รับการดูแลอย่างดีจากทางบริษัท เช่น การมีนโยบาย Share & Care ให้กับพนักงาน และพนักงานสามารถเลือกทำงานในสถานที่ได้ก็ได้ (Work Anywhere) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างความสุขให้พนักงานทุกคน

อันดับที่ 20 AIS

อีกหนึ่งบริษัทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศอย่าง AIS มีแนวทางในการดูแลพนักงานทุกคนเหมือนครอบครัว ดูแลทั้งด้านการทำงาน การใช้ชีวิต และสุขภาพ เช่น การมีกิจกรรมออกำลังกาย หรือการจัดนักโภชนาการมาดูแล การออกแบบออฟฟิศให้เป็น Smart Office ที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ การให้วันเกิดของพนักงานเป็นวันหยุด หรือจะเป็นการทำงานแบบ Flexible hour นอกจากนี้ทาง AIS ยังมีการจัดคอร์สเสริมทักษะ และเปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานช่วยเหลือสังคมอีกด้วย ทำให้ AIS เป็นหนึ่งในบริษัทที่คนอยากร่วมงานมากอีกบริษัทหนึ่ง


อ้างอิง: WorkVenture


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...