ในยุคนี้ถ้าอยากได้มือถือสักเครื่อง โจทย์หลักที่หลายคนมักจะใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินก็คงหนีไม่พ้นเรื่องนำไปใช้ ถ่ายรูป เล่นเกม ขณะเดียวกันจอต้องสวย ใหญ่ เครื่องแรง แบตอึด แต่สเปคพวกนี้หากจะไปให้สุดจริงๆ คงต้องควักกระเป๋าหลัก 3 หมื่นบาท แต่หากเราไม่พร้อมจะควักเงินก้อนโตแต่อยากได้มือถือที่คุณภาพใกล้เคียงกัน งบกลางๆ ไม่เกิน 15,000 บาท ล่ะ ก็คงจะต้องศึกษาหาข้อมูลกันมากขึ้นว่ารุ่นไหนคุ้มค่ากับเงินที่จะต้องจ่ายออกไปมากที่สุด
วันนี้ Techsauce จะพามาดูมือถือ 4 รุ่น ที่เปิดตัวในปี 2023 ที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ในราคาจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็น Samsung Galaxy A34 5G และ Galaxy A54 5G, Oppo Reno 8T 5G และ vivo V27 5G ซึ่งทั้ง 4 รุ่น รองรับ 5G ในไทยได้ทั้งหมด
เชื่อว่ากล้องจะเป็นฟีเจอร์แรกที่คนมองหามือถือใหม่อยากรู้ว่ารุ่นไหนดีที่สุด
สำหรับ Samsung Galaxy A34 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว และไฟแฟลช LED ได้แก่ กล้องหลักขนาด 48MP f/1.8 มาพร้อม Auto Focus และระบบกันสั่น OIS เลนส์ Ultra Wide ขนาด 8MP f/2.2 และ เลนส์ Macro 5MP f/2.4 ส่วนกล้องหน้าขนาด 13MP f/2.2
ด้าน Samsung Galaxy A54 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว และไฟแฟลช LED เช่นกัน โดยกล้องหลักความละเอียด 50MP f/1.8 พร้อม Auto Focus และ OIS เลนส์ Ultra Wide 12MP f/2.2 และ เลนส์ Macro 5MP f/2.4 ส่วนกล้องหน้าให้มา 32MP f/2.2
มาดู Oppo Reno 8T กันบ้าง ให้กล้องหลังมา 3 ตัว เช่นกัน โดยกล้องหลักอยู่ที่ 108MP f/1.7 กล้องจับความลึก 2MP f/2.4 และ Microscope 2MP f/3.3 ซูมได่ 40x ส่วนกล้องหน้าให้มา 32MP f/2.4
ส่วน vivo V27 ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดก็มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมไฟแบบ Aura Light Portrait ได้แก่ เลนส์หลัก 50MP f/1.88 พร้อม OIS เลนส์ Wide-angle 8MP f/2.2 และ เลนส์ Macro 2MP f/2.4 ส่วนกล้องหน้า ความละเอียด 50MP f/2.45 มาพร้อม Auto Focus
หากเปรียบเทียบสเปคจะพบว่าทั้ง 4 รุ่นนั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น Oppo Reno 8T ให้กล้องหลักมาที่ 108MP แต่กลับไม่มีเลนส์ Ultra Wide มาให้ทำให้ถ่ายมุมกว้างมากๆ ไม่ได้ ส่วน vivo V27 หากเทียบสเปคกล้องหลังต้องบอกว่าสูสีกับทั้ง Samsung Galaxy A54 และ A34 เพราะมาพร้อมระบบกันสั่น OIS แต่ทาง Samsung จะเหนือกว่าตรงที่ให้พิกเซลของเลนส์ Ultra Wide และ Macro มากกว่าทาง vivo V27 รวมถึงกล้องหน้าที่ให้รูรับแสงมากว้างที่สุดที่ f/2.2
สำหรับด้านการถ่าย VDO Oppo Reno 8T นั้นด้อยกว่าเพื่อนเพราะสามารถถ่ายได้เพียง 1080p@60fps สำหรับกล้องหลัง และ 1080p@30fps สำหรับกล้องหน้า ด้าน vivo V27 นั้นถ่าย VDO ได้ 4K@30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy A54 และ A34 ที่ถ่าย VDO ได้ 4K@30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เช่นกัน แต่ที่พิเศษกว่าของทางค่าย Samsung คือการใช้เทคโนโลยีระดับโปรที่เรียกว่า “All-pixel Auto Focus” เข้ามาช่วยการถ่าย VDO ได้คมชัด โฟกัสไม่ผิดจุดมากยิ่งขึ้น
หลังจากเทียบสเปคกล้องไปแล้ว ลองมาดูจุดเด่นของตัวเครื่องและหน้าจอของแต่ละค่ายกันบ้างว่าใครมีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากกว่ากัน
เริ่มกันที่ Samsung Galaxy A34 มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว FHD+ (2412 x 1080) รีเฟรชเรท 120Hz สำหรับ Samsung Galaxy A54 นั้นเหมือนกับกับรุ่นน้องอย่าง A34 แทบทั้งหมด ต่างกันเพียงแค่มีหน้าจอ 6.4 นิ้ว และทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP67 ส่วน Oppo Reno 8T มาพร้อมหน้าจอ AMOLED 6.7 นิ้ว FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ด้าน vivo V27 ใช้จอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
หากเทียบสเปคหน้าจอจะเห็นว่าทั้ง 4 รุ่นนั้นมีขนาดต่างกันเพียงเล็กน้อย โดย vivo V27 มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุด ขณะที่ทั้ง 4 รุ่น มาพร้อมความละเอียด FHD+ (2412 x 1080) และ รีเฟรชเรท 120Hz เท่ากัน แต่ทางค่าย Samsung นั้นสเปคเหนือกว่าตรงที่ใช้หน้าจอ Super AMOLED ที่มีความคมชัดกว่า แถมยังได้มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP67 อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ CPU หรือ GPU นั้นมีความสำคัญเพราะคนในยุคนี้นั้นหากจะใช้งานอะไสักอย่างหนึ่งนั้นคงไม่อยากรอ อยากได้มือถือที่ทำงานได้เร็ว ตอบสนองได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เล่นโซเชียล หรือแม้แต่การใช้มือถือเป็นตัวช่วยทำงาน
มาดู Chipset ของตัวที่เพิ่งออกมาล่าสุดก่อน คือ vivo V27 นั้นเลือกใช้ MediaTek Dimensity 7200 ขณะที่ Samsung Galaxy A54 ใช้ Exynos 1380 ที่พัฒนาโดย Samsung เอง ขณะที่ Samsung Galaxy A34 เลือกใช้ MediaTek Dimensity 1080 และ Oppo Reno 8T เลือกใช้ Qualcomm Snapdragon 695 ทั้ง 4 รุ่นนี้เป็น CPU แบบ Octa Core หรือ 8 Core ทั้งหมด รุ่นเริ่มต้นให้ Ram มา 8GB เท่ากัน
หากเทียบความเร็วกันชัดๆ จากเว็บไซต์ nanoreview จะพบว่า Dimensity 7200 นั้นมีประสิทธิภาพอยู่อันดับที่ 30 ด้าน Exynos 1380 อยู่ในอันดับที่ 39 ส่วน Dimensity 1080 อยู่อันดับที่ 44 ขณะที่ Snapdragon 695 อยู่อันดับที่ 62
แน่นอนว่าใน 4 รุ่นนี้ vivo V27 มี CPU อยู่ในอันดับดีที่สุด แต่หากเทียบความคุ้มค่าต้องบอกว่า Samsung Galaxy A34 คุ้มค่า เร็วแรง สนุก ครบทุกความบันเทิงที่สุด เพราะค่าตัวถูกที่สุดใน 4 รุ่น ที่ 11,999 บาท ขณะที่ได้ความเร็ว CPU ติดอันดับ Top 50 ขณะที่ Oppo และ vivo นั้นราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,999 บาท แพงกว่าถึง 3,000 บาท ส่วน Samsung Galaxy A54 ราคา 13,999 บาท
สำหรับเรื่องแบตเตอรี่ต้องเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของทุกค่าย เพราะไม่เพียงจะต้องรองรับให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวันแล้ว ยังต้องชาร์จไฟกลับไปได้ไวอีกด้วย
สำหรับ Samsung Galaxy ทั้ง A54 และ A34 นั้นให้แบตเตอรี่มามากที่สุดที่ 5000 mAh พร้อมระบบ Fast Charge 25W ส่วน Oppo Reno 8T ให้มา 4800 mAh รองรับชาร์จไว 67W SuperVOOC และ vivo V27 ให้มาที่ 4600 mAh ชาร์จไว 66W
สำหรับด้านเทคโนโลยีต้องบอกว่า Samsung นั้นโดดเด่นมากกว่าคู่แข่งไม่ว่าจะเป็น Bixby เป็นระบบ Assistant ที่ช่วยให้ผู้ใช้มือถือได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ทั้งฟังก์ชันช่วยให้เปิดกล้องและถ่ายรูปให้ ช่วยส่งข้อความ หรือใช้เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Samsung นอกจากนี้ Samsung ยังเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของการใช้อุปกรณ์จึงเสนอการอัปเดตระบบ Android ยาว 4 ปี และอัปเดตความปลอดภัยสูงถึง 5 ปี ให้กับผู้ใช้ Samsung Galaxy A54 และ A34 อีกด้วย
ทั้งนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือราคาไม่เกิน 15,000 บาท คงต้องบอกว่า 4 รุ่นนี้ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับปี 2023 นี้
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด