เชื่อว่านักลงทุนหลายคนมีกลยุทธ์หรือเคล็ดลับการลงทุนคริปโทฯ ที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเองอยู่แล้ว วันนี้เราขอรวบรวมกลยุทธ์ที่นักลงทุนนิยมใช้ในการซื้อขาย ไว้เป็นแนวทางให้กับนักลงทุนมือใหม่ในการเรียนรู้และศึกษาหาข้อมูล เพื่อหาความเหมาะสมในการเทรดให้กับตัวเอง ลองมาดูเลยว่ากลยุทธ์เหล่านี้ใช่สิ่งที่คุณกำลังใช้อยู่หรือเปล่า
เป็นการซื้อและขายทำกำไรเสร็จภายในวันเดียว โดยอาจจะเข้าซื้อและถือเป็นหลักนาทีหรือชั่วโมง แต่จะไม่ถือข้ามวัน โดยกลยุทธ์การเทรดแบบนี้จะรอขายทำกำไรในช่วงที่ตลาดคึกคักที่สุด สำหรับประเทศไทยก็คือช่วงตี 2–3 เนื่องจากเป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติฝั่งอเมริกาและยุโรป มีการซื้อขายหนาแน่น โดยส่วนใหญ่นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์นี้จะมีเวลาว่างให้กับการเทรดหลายชั่วโมงต่อวัน เพื่อเฝ้าดูทิศทางของราคาและสามารถวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานได้
ในวงการคริปโทเคอร์เรนซี มีคำว่า HODL ที่หลายคนบอกว่ามันย่อมาจากคำว่า “Hold on for Dear Life” หมายถึงการ “ถือเหรียญไว้ อย่าปล่อยให้หลุดมือ” ซึ่งเป็นการเข้าซื้อเหรียญแล้วถือไว้นาน ๆ อาจเป็นเดือนหรือเป็นปี นักเทรดประเภท Buy & HODL จะมีความเชื่อมั่นว่ามูลค่าของเหรียญจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคตเมื่อวิเคราะห์จากปัจจัยพื้นฐานหรือปัจจัยทางเทคนิค จึงมีแนวคิดในเชิง “ไม่ขาย ไม่ขาดทุน” นั่นเอง แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะตลาดหมี (Bear Market) อย่างช่วงนี้ก็ตาม
กลยุทธ์ Buy & HODL จะเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ได้มีเวลาว่างมากนักในการนั่งจ้องดูกราฟ แต่มีความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีเบื้องหลังหรือโอกาสเติบโตของเหรียญ โดยศึกษาข้อมูลมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และสามารถยอมรับความผันผวนของราคาได้ในระดับสูง
กลยุทธ์แบบ Technical Analysis เรียกได้ว่าเหมาะกับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในเชิงเทคนิคระดับเทพ สามารถวิเคราะห์ทิศทางราคาในอนาคตได้ โดยดูจากข้อมูลหรือรูปแบบที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หรือใช้เครื่องมือต่าง ๆ อาทิ เส้นแนวรับ-แนวต้าน เส้นเทรนด์ MACD RSI หรือเครื่องมืออื่น ๆ มาประกอบการวิเคราะห์ และสร้างกลยุทธ์ซื้อขายที่เหมาะสมได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว กลยุทธ์แบบนี้เหมาะกับผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยเทคนิค การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ มีความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ในการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลระดับหนึ่ง
กลยุทธ์แบบ Value Investor คือผู้ที่สามารถวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเหรียญที่สนใจได้อย่างทะลุปรุโปร่ง สามารถมองมูลค่าที่แท้จริงของเหรียญออก โดยพิจารณาจากปัจจัยอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ ปัญหาเข้ามาแก้ไข มูลค่าการซื้อขาย ปริมาณเหรียญ จำนวนเหรียญ ฯลฯ เพื่อที่จะวิเคราะห์ได้ว่ามูลค่าของเหรียญ ณ ปัจจุบัน ต่ำหรือสูงเกินไป จากนั้นจึงสร้างกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม จึงเหมาะกับผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐาน และมีประสบการณ์ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับเชี่ยวชาญ
จากความแตกต่างของราคาที่ต่างกันในแต่ละกระดานเทรด นักเทรดสายนี้เรื่องความว่องไวต้องยืนหนึ่ง เพราะเป็นการเทรดข้ามกระดาน โดยอาจซื้อเหรียญจากกระดานอื่นและโอนเข้ามาขายที่อีกกระดานหนึ่ง เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคาเหรียญก็ได้เช่นกัน แต่ต้องระวังเรื่องของค่าธรรมเนียมและระยะเวลาในการโอน
การทำ Arbitrage จึงเหมาะกับผู้ที่พอมีเวลาว่างให้กับการเทรดอย่างน้อย 2–3 ชั่วโมงต่อวันโดยเฉพาะช่วงที่ตลาดคึกคักที่สุด มีความเข้าใจการทำงานของ Wallet และค่าธรรมเนียมในการโอนเหรียญที่จะต้องเสียไป
DCA มาจากคำว่า Dollar Cost Averaging เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักลงทุนที่มีต้นทุนการซื้อเหรียญค่อนข้างสูง และไม่มีเวลาในการเฝ้าดูสถานการณ์และราคาเหรียญในแต่ละวัน กลยุทธ์ DCA จะเป็นการเข้าซื้อเหรียญด้วยเงินเท่า ๆ กันทุกเดือน โดยไม่สนราคาเหรียญ ณ ขณะนั้นมากนัก เช่น เมื่อเงินเดือนออกทุกสิ้นเดือน นักลงทุนอาจหักเงินเดือน 10% เพื่อซื้อเหรียญสะสมไปเรื่อย ๆ จึงเปรียบได้กับการออมเงินรูปแบบหนึ่ง โดยมีโอกาสที่มูลค่าของเหรียญที่สะสมจะเติบโตขึ้นในอนาคต
เพราะการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง การใช้กลยุทธ์เพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถการันตีผลตอบแทนและไม่สามารถทำให้ความเสี่ยงลดน้อยลงได้ สิ่งที่ควรคำนึงตลอดการลงทุนคือ การเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อ้างอิง : Bitkub
_____________________________________
ศึกษาความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ที่: Bitkub
คำเตือน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด