นักวิจัยจาก OpenAI เคยออกมาคาดการณ์ว่า AGI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่เหมือนมนุษย์มากท่ีสุด หรือฉลาดเหนือมนุษย์หลายเท่า อาจมาให้เห็นภายในช่วง 3 ปีนับจากนี้ แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าเราอาจไม่ต้องรอนาน เพราะ AGI อาจมาให้เห็นภายในปีหน้า 2025 ก็เป็นได้

ผมคิดว่าเราจะไปถึงจุดนั้น (AGI) เร็วกว่าที่คนคาดคิด

Sam Alman ซีอีโอของ OpenAI ได้ออกมาแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ AGI ให้ทราบกัน โดยสิ่งที่ทำให้ Alman มั่นใจว่าเราจะเข้าสู่ยุค AGI เร็วกว่าที่คิด เร็วสุดอาจเป็นปี 2025 นี้ ซึ่งสาเหตุนอกจากจะเป็นผลมาจากการเร่งปฏิกิริยาของชิปเซ็ตที่เร็วขึ้น และ AI ที่พัฒนาตัวเองเร็วมากขึ้นแล้ว

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ OpenAI มีทรัพยากรภายในบริษัทน้อยกว่าคู่แข่งอย่าง DeepMind รวมถึงยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ จึงทำให้ทีม OpenAI จำเป็นต้องเลือกโฟกัสการพัฒนาเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ต่างจากเจ้าอื่นๆ ที่มีโอกาสในการทดลองทำหลายอย่างพร้อมกัน จึงทำให้ OpenAI พุ่งเป้าไปที่การพัฒนา AI เป็นหลัก

หนึ่งในการประชุมที่ดีที่สุดที่ฉันได้ไป คือ การประชุมวิจัยของเรา และมันจะทำให้คุณประหลาดใจเมื่อเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น…ฉันคิดว่าถ้า Sam นั่งอยู่ตรงนี้ เขาจะบอกคุณว่า AGI ใกล้กว่าที่คนส่วนใหญ่คิด

หนึ่งในคำพูดของ Sarah Friar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ OpenAI ที่ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ซึ่งเธอกล่าวถึงความสามารถของ o1 และโมเดล GPT ที่กำลังจะมาถึง 

ที่ Sara Friar บอกว่า AGI อาจมาเร็วกว่าที่คิด อาจไม่ใช่เรื่องเกินจริง ถ้าเราลองดูวิดีโอ OpenAI เมื่อ 5 ปีก่อน ที่ AI เล่นซ่อนหา จะเห็นว่า AI เรียนรู้และพัฒนากลยุทธ์เองผ่านการเล่น แถมยังปรับตัวกับสถานการณ์ซับซ้อนได้ดีกว่าระบบเรียนรู้แบบอื่น 

นั่นหมายความว่า OpenAI ไปถึงขั้นตอนที่สาม (Agents) ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ซึ่งขั้นตอนที่สาม หรือ Agents นี้ หมายถึง AI ที่ไม่ใช่แค่ตอบโต้หรือประมวลผลข้อมูลแบบแชทบอท (ขั้นตอนที่ 1) หรือนักให้เหตุผล (ขั้นตอนที่ 2) 

แต่ AI ระดับ Agent จะสามารถกระทำ และมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมเพื่อบรรลุเป้าหมายได้ อย่างในวิดีโอ AI วางแผน ใช้เครื่องมือ และร่วมมือหรือแข่งขันกันเอง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเรียนรู้ แก้ปัญหา และตัดสินใจในสถานการณ์ซับซ้อน คล้ายมนุษย์หรือสัตว์ 

นี่คือก้าวสำคัญสู่ AGI และการที่ OpenAI ทำได้ตั้งแต่ 5 ปีก่อน ยิ่งตอกย้ำศักยภาพของพวกเขา

Altman อธิบายว่า ถึงจะใช้เวลาในการพัฒนาจากขั้นตอนที่หนึ่ง (แชทบอท) ไปขั้นตอนที่สอง (นักให้เหตุผล) พอสมควร แต่การพัฒนาจากขั้นสองไปขั้นสาม (Agents) กลับเร็วกว่าที่คิด ความสามารถของ AI ในฐานะ Agent จะมีผลกระทบมหาศาลต่ออนาคตของ AGI และ ASI

ปัจจุบัน โมเดล o1 ของ OpenAI คือ ก้าวกระโดดสำคัญสู่ AGI ซึ่ง Altman มั่นใจว่า OpenAI บรรลุความสามารถในการให้เหตุผลเทียบเท่ามนุษย์ (ระดับ 2) แล้ว และกำลังก้าวไปสู่ระดับ 3 (Agents) ซึ่งก็คือการพัฒนา AI ให้เป็น Agent ที่สามารถปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในเซสชัน AMA (Ask me anything) ล่าสุดบน Reddit ทาง Altman กล่าวว่า AGI สามารถทำได้ด้วยฮาร์ดแวร์ปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ OpenAI ประกาศแผนที่จะเปิดตัวชิป AI ในบ้านตัวแรกภายในปี 2026 โดยร่วมมือกับ Broadcom และ TSMC ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อกระจายการพึ่งพา GPU ของ NVIDIA และเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้กับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงแค่ OpenAI ที่กำลังไล่ตามความฝันในการพาไปสู่ยุค AGI เพราะยังมี Google ที่กำลังวิ่งแข่งเหมือนกัน ทั้งการเปิดตัว Gemini 1.5, Gemma 3 ไปจนถึง DataGemma ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขอาการหลอนของ AI

อีกหนึ่งคู่แข่งที่น่าจับตามองก็คือ Meta ที่เร่งการพัฒนา AI ทุกฝีก้าว พร้อมแผนที่จะเปิดตัว Llama โมเดล AI ตัวใหม่ภายในต้นปี 2025 ซึ่งมาพร้อมกับความก้าวหน้าด้านหน่วยความจำ และการเข้าใจในบริบท ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญในการไปสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า Autonomous Machine Intelligence (AMI)

ใครจะพา AI ไปสู่ยุค AGI ได้สำเร็จก่อนกันนั้น คงต้องจับตาดูกันต่อไป

อ้างอิง : analyticsindiamag