ทำความรู้จัก AI และ Machine Learning สองเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกธุรกิจสู่ความสำเร็จ | Techsauce

ทำความรู้จัก AI และ Machine Learning สองเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกธุรกิจสู่ความสำเร็จ

เมื่อทิศทางของตลาดต่างปรับตัวไปสู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น ทำให้เราได้เห็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นและเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางธุรกิจ ซึ่ง Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) ก็ถือเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำที่ใคร ๆ ก็ต่างพูดถึง เพราะเรียกได้ว่าช่วยแบ่งเบาภาระงานของมนุษย์ได้อย่างเต็มที่ ทั้งด้านความแม่นยำ ความรวดเร็ว และคุณภาพในการทำงาน ซึ่งหากนำมาปรับใช้ในธุรกิจก็จะยิ่งส่งผลให้มีโอกาสเติบโตสู่ความสำเร็จ

 ในบทความนี้ คุณไพฑูรย์ จันทร์สุข ผู้ให้คำปรึกษาสำหรับการใช้ Machine Learning, iCONEXT Co., Ltd. และ ICHI ผู้ให้ความรู้ด้าน Digital Solution จะนำความรู้เกี่ยวกับ AI และ ML สองเครื่องมือนำพาธุรกิจสู่ความสำเร็จมาให้ทุกคนได้รู้จักกันเพิ่มขึ้น 

จุดเริ่มต้นและการเข้ามาของ AI และ ML ในงานของมนุษย์

AI และ ML นั้นเกิดขึ้นมาจากการคิดค้นของมนุษย์ โดยเริ่มต้นหลังจากที่มีการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน ทำให้ผู้คนได้มีโอกาสศึกษาต่อยอดความรู้จนพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบางานจากมนุษย์ พูดได้ว่าเป็นมองกลที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบทั้งแบบ Virtual ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ หรือจะเป็นหุ่นยนต์ที่พบเห็นได้ในภาพยนต์ต่าง ๆ โดย AI เป็นเหมือนสมองที่ถูกสร้างขึ้นมาแต่ยังไม่มีการเรียนรู้ ดังนั้นจึงต้องมี ML เข้ามาทำหน้าที่เสริมประสิทธิภาพ และช่วยทำให้ AI สามารถเรียนรู้ได้นั่นเอง 

“AI จำเป็นต้องมีอัลกอริทึม (Algorithm) มาสร้างโมเดล เพราะ AI เปรียบเสมือนสมองกลเปล่า ๆ ที่เหมือนเด็กเกิดใหม่ยังไม่มีความรู้ใด ๆ ดังนั้น เราต้องฝึกอะไรซ้ำ ๆ อย่างเป็นรูปแบบ ซึ่งสิ่งที่สร้างการเรียนรู้ให้กับ AI ก็คือ ML”  คุณไพฑูรย์ กล่าว

สำหรับ AI และ ML นั้นมีการนำมาใช้งานจริงในช่วงประมาณ 10 ปีก่อน แต่ก็ยังไม่ได้ถูกพัฒนาจนมีประสิทธิภาพมากนักหากเทียบกับในปัจจุบัน ทำให้มีการพยายามพัฒนาต่อเนื่องให้มีความแม่นยำ และชำนาญมากขึ้นจนถึงขั้นที่สามารถเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้หลากหลายภาษา ซึ่งตัวอย่างที่สามารถเห็นได้คือ การพัฒนาของ iPhone ที่มีสามารถรับคำสั่งแบบเสียงได้ในหลากหลายภาษา โดยมีส่วนมาจากการที่ AI ได้เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณไพฑูรย์ กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของ AI คือการเขียนโปรแกรมเพื่อช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ง่ายขึ้น และเริ่มพัฒนาให้โปรแกรมต่าง ๆ ทำงานแทนคนได้มากขึ้น โดยมนุษย์ต้องการให้โปรแกรมเหล่านี้เรียนรู้เองได้ คิดเองได้ ไปจนถึงสามารถดำเนินการ หรือทำอะไรแทนมนุษย์ได้มากขึ้น”

การปรับใช้ AI และ ML ในธุรกิจ

ในปัจจุบัน AI และ ML สามารถปรับใช้ได้ในหลายธุรกิจและหลากหลายประเภทงาน เนื่องจากการถูกออกแบบมาเพื่อสามารถทำงานของมนุษย์ให้ได้ โดยเฉพาะในส่วนงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น การนำ AI มาใช้ในธุรกิจท่องเที่ยว อย่างการนำ AI มาคำนวณเที่ยวบินและระยะการเดินทาง หรือพยากรณ์สภาพอากาศ

สำหรับประเทศไทยนั้นกลุ่มธุรกิจที่นำ AI และ ML มาใช้ได้มากที่สุดก็คือกลุ่มธนาคาร โดยนำมาใช้กับการ Credit Scoring หรือการคัดกรองคนที่จะมากู้เงินกับธนาคาร ซึ่ง AI จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ผู้ขอกู้ยืม รวมถึงตรวจสอบด้านการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้น อ้างอิงจากการบันทึกข้อมูลหลายกรณีศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูล หากมีพฤติกรรมคล้ายคลึง AI ก็จะสามารถตรวจจับได้อย่างทันเวลา ซึ่งรวดเร็วกว่าการตรวจจับโดยมนุษย์

 อย่างไรก็ตาม คุณไพฑูรย์ มองว่าในประเทศไทยนั้นความแพร่หลายในการนำ AI และ ML มาใช้สำหรับธุรกิจถือว่าค่อนข้างตามหลังหลาย ๆ ประเทศ เนื่องจากโครงสร้างธุรกิจที่ไม่ค่อยลงทุนกับเรื่องของเทคโนโลยีมากนัก รวมทั้งสถานการณ์ COVID-19 ที่เข้ามาชะลอการลงทุนด้านเทคโนโลยีให้น้อยลงไปอีก บวกกับทรัพยากรบุคคลของไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ยังน้อย เพราะ ML จำเป็นต้องถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาเหมือนมนุษย์ที่ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา จึงควรมีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะคอยพัฒนา ML ให้เรียนรู้อยู่เสมอ โดยคาดว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะได้เห็นการใช้งาน AI และ ML กับหลาย ๆ หน่วยงานในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น 

แม้ปัจจุบันทางภาครัฐจะมีการนำ AI และ ML มาใช้บ้าง เช่น การพยากรณ์อากาศ แต่ยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่สามารถนำ AI หรือ ML มาใช้ได้ เนื่องจากปัญหาในเรื่องของการเก็บข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์ โดยข้อมูลไม่ละเอียดเพียงพอที่จะนำไปใช้ เพราะ ML จำเป็นต้องดูข้อมูลย้อนหลังจำนวนมากถึงจะวิเคราะห์ได้แม่นยำ ดังนั้นการเก็บข้อมูลอย่างต่ำจะอยู่ที่ 3 ถึง 5 ปี

“ML เกิดขึ้นหลังจากที่ Big Data เริ่มมีบทบาทในไทยช่วงตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว โดยถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล เพราะถ้าหากยังใช้คนในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากก็จะใช้เวลานาน และมีความแม่นยำน้อย ซึ่ง Big Data จะค่อนข้างประสบความสำเร็จ และเติบโตในปัจจุบันได้ แต่ ML เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วง COVID-19 จึงเติบโตช้า นอกจากนี้ ML ยังใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ปัจจุบันในประเทศไทยจึงได้เห็นธุรกิจที่ใช้ ML เป็นหลักคือองค์กรใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร” คุณไพฑูรย์ กล่าว 

แนะ 3 ขั้นตอนก่อนเริ่มใช้ AI และ ML ในธุรกิจ

1. เปิดใจยอมรับเทคโนโลยี AI และ ML เข้ามาใช้งานในองค์กรด้วยความเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาต่อยอดธุรกิจได้

2. เข้าใจพื้นฐานการทำงานของ AI และ ML เช่น การเก็บข้อมูลต้องการเก็บข้อมูลประเภทไหน จะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้งานอย่างไร และเพื่อเป้าหมายใด

3. มีความเข้าใจและความรู้เบื้องต้นในด้านเศรษฐศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพราะ AI และ ML เป็น Algorithm ของคณิตศาสตร์ ผู้ประกอบการจึงควรศึกษาข้อมูลทางเทคนิคในเบื้องต้น เพื่อให้เข้าใจหลักการทำงานของระบบ

ทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของทั้ง  AI และ ML ก่อนใช้งาน

 การมี AI และ ML ในองค์กรจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในทำงานให้มากยิ่งขึ้นเพราะ AI ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดอคติ (Bias) ของมนุษย์  อีกทั้งช่วยลดภาระงานของมนุษย์ในส่วนงานที่ต้องทำเหมือนเดิมซ้ำ ๆ ทำให้มนุษย์มีเวลาไปทำงานส่วนอื่น ๆ ได้อีก และยังลดค่าใช้จ่ายขององค์กรในระยะยาวเนื่องจาก AI และ ML สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ  แต่ก็ยังมีข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นก็คือการเข้ามาแทนที่ในงานบางตำแหน่ง ทำให้มนุษย์ต้องเร่งพัฒนาทักษะที่ AI ไม่มี เช่น ความคิดสร้างสรรค์ 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีอย่าง AI และ ML มาใช้ในองค์กร ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีเหล่านี้ก็จะยิ่งพัฒนาศักยภาพขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ เพื่อตอบรับกับความต้องการของมนุษย์และเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในอีกหลากหลายงาน 

“การป้อนข้อมูลและความรู้เหล่านี้ให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลหรือสนับสนุนในการเรียนรู้ด้าน AI และ ML ก็จะส่งผลดีต่อประเทศ” คุณไพฑูรย์ กล่าวในตอนท้าย 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมแบบเจาะลึกในด้านการใช้ AI และ ML ในธุรกิจ สามารถติดตามได้ที่ https://www.jrit-ichi.com/cutting/2022/06/22/1183 


บทความนี้เป็น Advertorial 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...