ความสามารถของเทคโนโลยี AI ในวันนี้ กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อความได้เปรียบทางธุรกิจ การเติบโต รวมถึงรายได้ของบริษัท และนับวัน AI ก็ยิ่งจำเป็นต่อการใช้ชีวิตและการทำงานมากขึ้น แต่ใช่ว่าทุกคน ทุกองค์กรจะปรับตัวได้ทันและพร้อมใช้ AI ที่บริษัทเทคยักษ์ใหญ่แข่งกันพัฒนาและอัปเดตความสามารถแบบไม่หยุดพัก เพราะการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หลังจากเทคซอสได้พูดคุยกับ คุณเบญจ เบญจรงคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (UIH) ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกับ คุณสันติ เมธาวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ผู้มากด้วยประสบการณ์ การบริหารองค์กร ทำให้เห็นว่า บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและโซลูชันสำหรับภาคธุรกิจ เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ ในประเทศไทยปรับตัวได้เร็วและไปต่อได้ง่ายขึ้น
(จากซ้าย) คุณสันติ เมธาวิกุล และคุณเบญจ เบญจรงคกุล สองประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม
บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (UIH)
คุณเบญจ เริ่มเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2025 เรื่องที่ UIH ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและโซลูชันชั้นนำของประเทศไทยสำหรับภาคธุรกิจ ควบรวม 4 บริษัทลูกที่ให้บริการด้าน Connectivity, Cloud, Cybersecurity และ Application มาอยู่ภายใต้ UIH เพียงแบรนด์เดียว ภายใต้กลยุทธ์ AI-Ready Provider for the Future of Business
“เดิมทีเราให้บริการลูกค้าองค์กรทั้งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คลาวด์ โลคอลคลาวด์ ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ และแอปพลิเคชัน ต่อมาความต้องการของตลาดและลูกค้าเปลี่ยน คือ ลูกค้าไม่ได้ต้องการบริการแยกส่วนอีกต่อไป แต่ต้องการโซลูชันที่ครบวงจร เราจึงควบรวม 4 บริษัทเพื่อให้บริการลูกค้าได้คล่องตัวยิ่งขึ้นในแบบ Total Solution”
คุณเบญจ เล่าต่อว่า UIH วาง Positioning เป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานของการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน’ ซึ่งมี 3 องค์ประกอบสำคัญที่องค์กรต้องการในยุค AI นั่นคือ
อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง - ในยุคที่ AI และการบริโภคข้อมูลเติบโตอย่างก้าวกระโดด อินเทอร์เน็ตที่เสถียรและรวดเร็วเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ - การใช้งาน AI และประมวลผลข้อมูลจำนวนมากต้องการ ‘สมอง’ หรือเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูง คลาวด์จึงเป็นทางออกที่คุ้มค่าและคล่องตัวกว่า
ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ - ยิ่งเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ความปลอดภัยของข้อมูลก็ยิ่งสำคัญ UIH จึงให้ความสำคัญกับ AI Security และ Quantum Security เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
“จุดแข็งคือ เรามีโครงสร้างพื้นฐานของตัวเอง เรามีระบบเชื่อมต่อ (Connectivity) ของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นผู้ให้บริการที่พร้อมจะตอบโจทย์ 3 แกนนี้อีกทีนึง”
คุณเบญจ อธิบายเพิ่มในด้านบริการคลาวด์ ว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วมาก การลงทุนซื้อเซิร์ฟเวอร์มาทำ Data Center ในยุคนี้ไม่คุ้มค่าสำหรับองค์กรส่วนใหญ่ บริการ Cloud ของ UIH จากที่เป็น Local Cloud (เพื่อให้ Data ที่ใช้งานอยู่ภายในประเทศ) ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยมา จึงพัฒนาเป็น Cloud as a Service ช่วยให้การปรับใช้คลาวด์ในองค์กรทำได้สะดวกและมีความยืดหยุ่นสูง
ต่อด้วยการอัปเดตบริการล่าสุด GPU as a Service ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการทดลองใช้ AI ในยุคปัจจุบัน
“เราต่อยอดนอกเหนือจาก Computing Power ในการเก็บข้อมูลโดยเพิ่ม ‘GPU as a Service’ เข้ามา ซึ่งหมายความว่า ลูกค้าของเราสามารถใช้บริการได้โดยไม่ต้องลงทุนด้านโครงสร้างเอง เพราะตอนนี้เป็นยุค AI ที่หลายคนยังอยู่ในโหมดลองผิดลองถูก ยังไม่รู้ว่าที่ทําไปมันจะเกิดผลหรือเปล่า จะคุ้มทุนหรือเปล่า และตอนนี้ AI อยู่จุด Mass Adoption มาก เราหยุด Adoption AI ไม่ได้ แล้วเราจะเซฟองค์กรยังไงเพื่อให้ข้อมูลความลับไม่รั่วไหลออกไป ตรงนี้เราเริ่มคุยกับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ถึงโจทย์ Quantum Security ในเมื่อยุคนี้ใกล้ถึงจุดที่เทคโนโลยีควอนตัมจะมาใน 3-5 ปี การทํา Security แบบเดิมจะไม่เวิร์กอีกต่อไป”
ในด้านฐานลูกค้า UIH ให้บริการภาคธุรกิจแบบ B2B และกลุ่มราชการ รวมแล้วมีมากกว่า 5,000 ราย และแน่นอนว่าต้องใช้ AI เป็นผู้ช่วย
“ที่ UIH เราใช้ AI มาช่วยรันโอเปอเรชันนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการแบนด์วิธ การสวิตช์เส้นทางเมื่อเกิดปัญหา หรือการตรวจสอบความปลอดภัย เพราะเรามีลูกค้ามากกว่า 5,000 ราย ใช้คนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้ AI ช่วยจัดการ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการบริการอย่างดีที่สุด”
และหากพิจารณาต่อด้าน Consumption กับการขยายฐานลูกค้า คุณเบญจ เปิดเผยว่า อัตราการใช้บริการของลูกค้า UIH เติบโตแบบก้าวกระโดด (Exponential) โดยเฉพาะบริการคลาวด์ที่โตขึ้น 2 เท่าทุกปี
เอกชนเริ่มถึงจุดที่มีการปรับใช้แบบ Mass Adoption แล้ว ทีนี้ตัวที่จะขับเคลื่อนให้เราโตต่อคือ เราเริ่มเห็นหน่วยงานภาครัฐเปิดใจรับสิ่งที่เรียกว่า คลาวด์ มากขึ้น ดังนั้น การปรับใช้เวฟต่อไปก็คือ ภาครัฐ
Co-CEO เผยวิสัยทัศน์ที่มีต่อการพัฒนาโซลูชันและการขยายฐานลูกค้า โดยในด้านงานบริการภาครัฐ คุณเบญจ ขยายความว่า เนื่องจากภาครัฐจัดทำโครงการ Cloud First ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐเข้าถึงเทคโนโลยีคลาวด์ได้ง่ายขึ้น จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจอีกด้านหนึ่ง
เมื่อสอบถามถึงเป้าหมายทางธุรกิจของ UIH ในปีนี้ คุณเบญจ กล่าวว่า “เราต้องการให้ธุรกิจในพอร์ตโฟลิโอของเราเติบโต” โดยบริษัทมุ่งเน้นไปที่การให้บริการที่ดีขึ้นบนฐานลูกค้าเดิมและการมัดรวมบริการต่างๆ ที่มีอยู่ให้ครบวงจรและพร้อมใช้มากที่สุด
ในฐานะ Co-CEO คุณเบญจ ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันและการรับฟังความคิดเห็นจากทุกคนในองค์กร “เราต้องการสร้างบ้านที่ทุกคนรู้สึกเป็นเจ้าของและมีเป้าหมายเดียวกัน” และพูดถึงในกลุ่มบริษัทมีวัฒนธรรมองค์กรความแตกต่างกัน จึงต้องปรับให้มีวัฒนธรรมให้เป็นหนึ่งเดียวกันต่อไป
“ในส่วนของ UIH เราแก้ตั้งแต่มายด์เซ็ต KPI และการวัดผล เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าความสำเร็จหรือความล้มเหลวเป็นของทีม ไม่ใช่ของแต่ละคน”
นอกจากนี้ คุณเบญจ ยังให้ความสำคัญกับการลองผิดลองถูกและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็น ความสามารถเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ หรือสร้าง New S-Curve ให้บริษัท
เราตั้งทีม ‘Avantgarde’ ขึ้นซึ่งประกอบด้วยเด็กๆ รุ่นใหม่จากบริษัทลูก แล้วให้พวกเขาร่วมกันคิดค้นกระบวนการทำงานและวัฒนธรรมองค์กรใหม่ๆ ซึ่งมาดิสรัปต์ธุรกิจเดิม
“สมมุติในแง่การขาย เราบอกว่า ‘ถ้าลูกค้าติดต่อเข้ามา ทํายังไงก็ได้ให้ Quotation ถึงมือลูกค้าภายใน 24 ชั่วโมง’ ซึ่งเดิมทีหลังบ้านมันมีกระบวนการเยอะมาก การทำงานโดยผสมผสานระหว่างคนที่รู้เรื่องขาย รู้เรื่องคลาวด์ รู้เรื่องซีเคียวริตี้ ก็ให้เขาไปช่วยกันคิดว่า จะทํายังไงเพื่อไปถึงเป้า แล้วให้กลับมาบอกว่า จะทําได้ยังไง”
“ลูกค้าองค์กรรายแรกๆ ของ UIH อยู่ในกลุ่มธุรกิจขนส่ง และลอจิสติก เป็นลูกค้าเรามานาน ตอนนี้เรากําลังเข้าไปช่วยการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคทรานสฟอร์เมชันแบบจริงจัง สิ่งหนึ่งที่เราทําแล้วก็ช่วย ซัพพอร์ตเขาคือ เรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เพราะลูกค้ามีสาขาทั่วประเทศ การที่เขาเชื่อมต่อข้อมูลกลับมาศูนย์กลาง คือบริการของเรา นึกภาพว่าเราไปสาขาแล้วส่งของ เราต้องคีย์ข้อมูล เรคคอร์ดเข้ามา ส่งรถไปรับของ เบื้องหลังมันคือบริการอินฟราสตรัคเจอร์ของ UIH หมดเลย แล้วเราก็ติดตั้งอุปกรณ์ซีเคียวริตี้ในทุกสาขาทั่วประเทศอีกด้วย”
และหนึ่งในประเด็นที่หลายคนค้างคาใจหลังจากใช้บริการขนส่งแล้ว ไม่รู้ว่าพัสดุอยู่ ณ จุดไหน เช็กจุดไม่ได้แบบเรียลไทม์ คุณเบญจ เปิดเผยว่า
“เรื่องติดตามพัสดุไม่ได้ มันเป็นเรื่องของระบบเก่าที่มันอาจจะยังไม่เชื่อมโยง ตอนนี้เรากําลังช่วยเขา Implement แพลตฟอร์มอยู่ นอกเหนือจากนั้น การเห็น Data มันก็จะเชื่อมไปว่า จะ Optimize การขนส่งยังไงให้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น และคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ซึ่งสิ่งที่ได้กลับมาอาจเป็นกำไร หรืออาจจะมีเซอร์วิสใหม่ๆ ที่เขาสามารถให้บริการและกลายเป็น New Revenue ได้”
นอกจากนี้ยังมีเคสลูกค้าในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้บริการ ‘GPU as a Service’ ของ UIH
“ในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์ จะมี Data เยอะมากๆ ลูกค้าอยากนำ AI มาใช้ในองค์กร เราจึงขึ้นบริการ ‘GPU as a Service’ ให้แก่ลูกค้า โดยเราลงทุนให้เขาและทำให้เขามั่นใจว่าระบบนี้มันรันตลอดเวลา เพื่อให้นำ Data ไปสร้าง Use case ต่อได้ เช่น มีทรัพย์สินตรงไหนที่มันเป็น Under Value, จะสร้างรายได้ใหม่จากตรงไหนได้บ้าง ในแง่ ROI (Return on Investment) มันชัดเจนมากว่าทำได้ เพราะเขาได้ Asset ที่หลุดมาแล้วนำไปขายต่อได้ แต่ช่องทางไหนทําราคาเท่าไหร่ ก็นำเทคโนโลยี AI มาใช้ แล้วมันก็จะรันบนสมอง GPU ที่ UIH ช่วยดูแลให้”
นอกเหนือจากนี้ คุณเบญจ ย้ำว่ากุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต และช่วยเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้แก่ลูกค้าจำนวนมากได้ คือ การทำงานบริการภายใต้วิสัยทัศน์องค์กร ‘The Most Trusted and Service – Oriented Technology Service Provider in Thailand’ ที่ให้ความสำคัญกับการปรับหรือออกแบบโซลูชันให้ตรงตามความต้องการลูกค้า นำมาสู่ความไว้วางใจสูงสุดจากทั้งภาครัฐและเอกชน
และเนื่องจาก UIH เป็นธุรกิจที่ก่อตั้งมายาวนานเกือบ 30 ปี บนพื้นฐานความแข็งแกร่งของ Know how และพัฒนาระบบความคิด ด้วยทีมผู้บริหาร ซึ่งเติบโตจากการบริหารงานในองค์กร ยังมีการเสริมทัพจากผู้บริหารที่นำประสบการณ์ใหม่ๆ มาผสานแนวคิดตามทิศทางขององค์กร รักษาความเป็นผู้นำในยุค AI Adoption ดังนั้นการทำทรานสฟอร์เมชัน ภายใต้การบริหารของ คุณสันติ และคุณเบญจ จึงเป็นความพร้อมที่ลงตัว สามารถนำ UIH เข้าไปช่วยลูกค้าขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Data Driven ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
คุณเบญจ เผยมุมคิดในตอนท้ายว่า ให้ความสำคัญในการส่งต่อความรู้และประสบการณ์จากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ร่วมด้วย เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
จากการพูดคุยทั้งหมดนี้ ทำให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารเจนใหม่และความมุ่งมั่นในการสนับสนุนลูกค้าที่เป็นหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนก้าวสู่ยุค AI Adoption ซึ่งภายใต้การบริหารของ ‘คุณเบญจ เบญจรงคกุล’ ไม่เพียงให้ความสำคัญต่อความต้องการของลูกค้า ความคุ้มค่าจากการลงทุนและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ แต่ยังมีมายด์เซ็ตที่เปิดกว้าง ให้พนักงานเข้าถึงได้ง่าย พร้อมรับฟังไอเดียและความคิดเห็นของทุกคน เพื่อทำให้ UIH ส่งต่อบริการที่มีคุณค่าต่อไป และยืนหยัดในตำแหน่งผู้นำในการทำทรานสฟอร์มองค์กร และพาประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด