Cisco เปิดตัวชิป 'P200' วางรากฐานใหม่ให้ AI เชื่อมต่อ Data Center ระยะไกลให้เป็นหนึ่งเดียว

ท่ามกลางกระแส AI ที่ทุกคนต่างพูดถึง ตั้งแต่เรื่องโมเดลภาษาไปจนถึงการสร้างภาพสุดล้ำ มีความจริงข้อหนึ่งที่ถูกซ่อนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ นั่นคือ "พลังงาน" ที่ AI กำลังสูบฉีดไปในระดับที่น่าตกใจ จนทำให้การสร้าง Data Center ขนาดมหึมาในที่เดียวกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป และนี่คือจุดที่ Cisco Systems มองเห็นโอกาสครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัว Silicon One P200 ชิปเน็ตเวิร์กรุ่นเปลี่ยนเกม ที่ไม่ได้มาเพื่อเพิ่มความเร็ว แต่มาเพื่อแก้โจทย์ที่ใหญ่กว่า นั่นคือการถักทอ Data Center ที่กระจายตัวอยู่คนละมุมโลกให้ทำงานร่วมกันเป็น "สมอง AI หนึ่งเดียว" 

ai chip

ปัญหาที่ไม่มีใครอยากพูดถึง เมื่อ AI กำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงาน

ลองจินตนาการถึงการเทรน AI ที่ต้องใช้ GPU นับแสนตัวทำงานพร้อมกัน พลังงานที่ต้องใช้มหาศาลจนโครงข่ายไฟฟ้าในเมืองใหญ่ๆ ไม่สามารถรองรับไหว นี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ Hyperscaler อย่าง Microsoft หรือ Meta กำลังเผชิญอยู่จริง

ทางออกของพวกเขาคือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "The Great Migration of Data Centers" หรือการ "อพยพ" ศูนย์ข้อมูลไปยังพื้นที่ห่างไกลที่ค่าไฟถูกและมีแหล่งพลังงานเหลือเฟือ แต่นั่นก็สร้างโจทย์ใหม่ที่ท้าทายขึ้นมาทันที คือจะทำอย่างไรให้ Data Center ที่อยู่ห่างกันเป็นพันๆ กิโลเมตร คุยกันได้แบบไร้รอยต่อ เพื่อทำงานฝึกสอน AI โปรเจกต์เดียวกันที่กินเวลานานนับเดือน?

คำตอบของ Cisco: เมื่อ Data Center ไม่ต้องอยู่ติดกันอีกต่อไปด้วย 'Scale-Across'

แทนที่จะพยายามอัดทุกอย่างไว้ในที่เดียว Cisco ได้นำเสนอแนวคิด "Scale-Across" ซึ่งเป็นการขยายขีดความสามารถข้ามพรมแดนทางภูมิศาสตร์ โดยมีพระเอกคือเราเตอร์ Cisco 8223 ที่ฝังชิป ‘P200’ ไว้ภายใน ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างระบบประสาทความเร็วสูงที่เชื่อมสมองส่วนต่างๆ (Data Center) เข้าไว้ด้วยกัน แล้วอะไรคือความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในชิปตัวนี้?

  • ประสิทธิภาพที่สวนทางกับขนาดและพลังงาน: สิ่งแรกที่น่าทึ่งคือ Cisco สามารถย่อส่วนการทำงานของชิปรุ่นเก่าถึง 92 ตัวลงมาเหลือใน P200 เพียงตัวเดียว ผลลัพธ์คือเราเตอร์รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นมหาศาลด้วยแบนด์วิดท์ถึง 51.2 Tbps แต่กลับ กินไฟน้อยลงถึง 65% เมื่อเทียบกับระบบในรุ่นก่อนหน้า ซึ่งนี่คือตัวเลขที่เหล่าผู้นำของบริษัทเทคฯ ทั่วโลกต้องหันมามอง เพราะมันหมายถึงต้นทุนที่ลดลงและเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่เข้าใกล้ความจริงมากขึ้น

  • "Deep Buffering" เกราะป้องกันที่ AI ขาดไม่ได้: ลองนึกภาพตามว่า การเทรน AI ที่รันมาแล้วหลายสัปดาห์ต้องล่มสลายลงเพราะข้อมูลตกหล่นไปแค่เล็กน้อย มันคงเป็นฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ โดยชิป P200 ถูกออกแบบมาพร้อม Deep Buffer ขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำคอยซับข้อมูลที่ทะลักเข้ามาอย่างฉับพลัน เพื่อการันตีว่าจะไม่มีข้อมูลสูญหายแม้แต่บิตเดียว ซึ่ง Dave Maltz ผู้บริหารจาก Microsoft Azure ก็ออกมายืนยันว่า "นี่คือนวัตกรรมที่จำเป็นสำหรับสเกลของคลาวด์และ AI ในปัจจุบัน"

  • สถาปัตยกรรมที่มองการณ์ไกล: ในโลกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน การซื้อฮาร์ดแวร์ที่ตกรุ่นเร็วคือหายนะ Cisco แก้ปัญหานี้ด้วยเอนจิ้นประมวลผลแบบ "Run-to-completion" ที่ยืดหยุ่นสูง ต่างจากสถาปัตยกรรมอื่นที่อาจต้อง "รีไซเคิล" แพ็กเก็ต (Packet) หรือต้องส่งข้อมูลนั้นกลับไปประมวลผลซ้ำอีกรอบ เพื่อจัดการกับโปรโตคอลใหม่ๆ (ซึ่งทำให้แบนด์วิดท์หายไปครึ่งหนึ่ง) แต่ P200 สามารถจัดการทุกอย่างได้ในรอบเดียว ทำให้มันพร้อมสำหรับมาตรฐานและเทคโนโลยีในอนาคตโดยไม่ต้องยกเครื่องใหม่

Cisco ระบุว่าชิป P200 รุ่นใหม่มีพลังประมวลผลเทียบเท่าชิปรุ่นก่อนถึง 92 ตัวรวมไว้ในชิปเดียว และช่วยลดการใช้พลังงานของระบบเราท์เตอร์รุ่น 8223 ได้มากถึง 65% - Credit: Cisco

ไม่ใช่แค่เรื่องของ Chip แต่คือการวางเดิมพันอนาคตของ AI

นอกเหนือจากความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี การเปิดตัวครั้งนี้ยังเป็นการประกาศศึกในตลาดชิปเน็ตเวิร์กระดับไฮเอนด์อย่างเต็มตัว โดยเป็นการท้าชนกับเจ้าตลาดเดิมอย่าง Broadcom โดยตรง ซึ่งครองส่วนแบ่งสำคัญในกลุ่มลูกค้า Hyperscaler มาอย่างยาวนาน 

และการที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Alibaba เลือกใช้โซลูชันนี้ของ Cisco ตั้งแต่วันแรก สะท้อนให้เห็นว่านี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรดตามรอบปกติ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ มันคือการยอมรับว่าอนาคตของ AI จะไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในศูนย์ข้อมูลแห่งใดแห่งหนึ่งอีกต่อไป

ความเคลื่อนไหวของ Cisco ครั้งนี้จึงเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่ในการเป็น "ผู้สร้างระบบประสาท" ให้กับโครงข่าย AI อัจฉริยะแบบกระจายศูนย์ (Distributed AI) ที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม

ที่มา: Reuters, Cisco Blogs


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำไมองค์กรทุ่มงบให้ AI แต่ยังไม่เห็นผลจริง ? เปิดมุมมองกับ ABeam Consulting ผู้คลุกคลีกับ Data & AI ขององค์กรไทย

ทำไมทุ่มงบ AI แต่ไม่เห็นผล? เจาะลึกมุมมองจาก ABeam Consulting ถึงสาเหตุที่แท้จริง ตั้งแต่ปัญหาข้อมูลใช้ไม่ได้ จนถึงวัฒนธรรมองค์กร พร้อมแนวทางปรับตัวให้ AI ใช้งานได้จริงในปี 2025...

Responsive image

ส่องเทรนด์ AI ปี 2026 เมื่อเทคโนโลยีเป็น 'คู่คิด' แต่ความเร็วอาจเป็น 'กับดัก'

ปี 2025 AI ได้กลายเป็นเครื่องมือของคนทำงานไปแล้ว และในปี 2026 กำลังจะเป็นอีกก้าวสำคัญ เพราะ AI จะไม่ได้แค่ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น แต่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจมากขึ้นเรื่อย ๆ...

Responsive image

Nvidia ทุ่ม 2 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าซื้อเทคและทีม Groq สตาร์ทอัพชิป LPU หวังตัดคู่แข่งและเดินเกมคุมโครงสร้างพื้นฐานโลก AI

Nvidia เดินหมากใหญ่ด้วยดีลมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ กับ Groq สตาร์ทอัพชิป LPU โดยไม่ซื้อกิจการ แต่เลือกถือสิทธิเทคโนโลยีและดึงทีมแกนหลักเข้าร่วมทัพ เพื่อเร่งครองเกม AI Inference แล...