วิชาเขียนโปรแกรมหรือการเขียนโค้ด (Coding) จะถูกบรรจุเป็นวิชาหลักขั้นพื้นฐานในทุกๆ โรงเรียน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาในประเทศญี่ปุ่น โดยจะเริ่มในเดือนเมษายน 2020 ที่จะถึงนี้ ตั้งเป้าติดสกิลเทคโนโลยีให้กับคนรุ่นใหม่ รองรับสายงานในอนาคต
วิชาเขียนโค้ดขั้นพื้นฐานจะถูกบรรจุตั้งแต่เกรด 5 โดยในหนังสือเรียนฉบับใหม่ที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม มีการสอนวิธีวาด Polygon บนดิจิทัล และการสร้างคำสั่งให้ไฟ LED กระพริบแบบง่ายๆ
ขณะที่วงการไอทีเริ่มพัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันระหว่างประเทศก็ยิ่งดุเดือดมากขึ้น สำหรับประเทศที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างญี่ปุ่น การบรรจุวิชาเขียนโปรแกรมในหลักสูตรถือว่าเริ่มได้ค่อนข้างช้า แต่ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังเร่งเดินหน้าสร้าง tech worker ที่มีศักยภาพ โดยให้เด็กๆ รุ่นใหม่สามารถเข้าถึงการเรียนการสอน และเพิ่มสกิลให้กลายเป็น specialist ในอนาคต
เป้าหมายของการปรับปรุงหนังสือเรียนในครั้งนี้ คือการปลูกฝังพื้นฐานการใช้โค้ดในการจัดการกับข้อมูล รวมถึงสร้างวิธีคิดอย่างเป็นระบบผ่านการทดลองและการลองผิดลองถูกด้วยตนเอง
Yuta Tonegawa ผู้บริหารของ Minna no Code (แปลเป็นไทยว่า โค้ดสำหรับทุกคน) องค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านการศึกษาของญี่ปุ่นกล่าวว่า "ขณะนี้ คุณครูในโรงเรียนต้องเผชิญกับความกดดันเป็นอย่างมาก สิ่งที่เราทำได้คือการช่วยให้เด็กๆ ได้เข้าใจพื้นฐานของการเขียนโปรแกรมก่อน โดยสิ่งสำคัญอันดับแรก คือการสร้างคลาสที่นักเรียนให้ความสนใจ"
กระทรวงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้คำนวนเอาไว้เมื่อปี 2016 ว่าญี่ปุ่นจะขาดแคลน tech worker สำหรับงานในอนาคตกว่า 290,000 ตำแหน่งภายในปี 2020 และจะเพิ่มขึ้นถึง 590,000 ตำแหน่งภายในปี 2030 หากงานด้านไอทีในตลาดเติบโตขึ้นต่อเนื่องในความเร็วเช่นนี้ ซึ่งทำให้รัฐบาลหันมาสนใจและประกาศเพิ่มหลักสูตรการเขียนโปรแกรมในโรงเรียน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นอกจากญี่ปุ่น ยังมีอีกหลายประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่องการสอน coding แก่เด็กๆ เช่น เกาหลีใต้ ที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังและสอนในชั้นประถมและมัธยมต้น ตั้งแต่ปี 2007 และประเทศอังกฤษที่บรรจุวิชาเขียนโปรแกรมในหลักสูตรสำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 5 - 16 ปี ตั้งแต่ปี 2014
อ้างอิงภาพและเนื้อหา Nikkei Asian Review
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด