ที่ผ่านมาเราอาจจะมีภาพจำของธนาคารกับสถาบันการศึกษาในรูปแบบของการทำธุรกรรมทางการเงินร่วมกัน เช่น การผูกบัตรเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษา หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์
แต่ทุกวันนี้บริบทของธนาคารกับภาคการศึกษาได้เริ่มมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของนิสิตนักศึกษา และบุคลากรในหน่วยงานในยุคดิจิทัลมากขึ้น หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจก็คือแอปพลิเคชัน CU NEX ที่เกิดจากความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทยและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มให้สามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตนิสิตยุคดิจิทัล ซึ่งเริ่มมีการพัฒนาตั้งแต่ปี 2561 ในฐานะแพลตฟอร์มเพื่อความรู้และได้รับผลตอบรับที่ดีมาอย่างต่อเนื่องจนสามารถต่อยอดสู่แพลตฟอร์ม Digital Lifestyle ในปัจจุบัน
จากความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทยและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เริ่มต้นจากความมุ่งมั่นจะพัฒนาแอปพลิเคชันที่เป็นเสมือนจุดเชื่อมต่อ โลกแห่งการเรียนรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ให้กับนิสิตเพื่อเตรียมพร้อมความรู้สู่อนาคต ทำให้เกิดแอปพลิเคชัน CU NEX เครื่องมือสำคัญในการเข้ามาช่วยให้เกิดการพัฒนาการเรียนรู้ได้รวดเร็วได้มากขึ้นผ่านการใช้เทคโนโลยีเชื่อมโยงทั้งด้านการเรียนการสอน และการใช้ชีวิตของนิสิตสู่การเรียนรู้บนโลกยุคใหม่ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานมาโดยตลอด โดยล่าสุดแอปพลิเคชัน CU NEX ได้เข้าสู่การพัฒนาในระยะที่ 2 ซึ่งทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและธนาคารกสิกรไทย ได้วางแนวทางพัฒนาเพื่อทำให้ CU NEX เป็นแอปพลิเคชันที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากอำนวยความสะดวกด้านการเรียน การใช้ชีวิตในรั้วจุฬาฯ แล้ว ยังครอบคลุมการดูแลรักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ความรู้ด้านการเงินรูปแบบใหม่ๆ (Financial Literacy) ซึ่งล้วนเป็นความรู้และทักษะสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับนิสิตให้พร้อมในโลกการทำงานยุคดิจิทัล
ปัจจุบันแอปพลิเคชัน CU NEX ถือเป็นแอปพลิเคชันที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันเนื่องจากช่วยอำนวยความสะดวกในทุกด้านของชีวิตการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย นอกจากจะมีแอปพลิเคชันเพื่อนิสิตแล้ว ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน CU NEX STAFF ที่ช่วยให้บุคลากรของจุฬาฯ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
โดย 4 ปีที่ผ่านมา CU NEX ได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ด้านการศึกษา และ Digital Lifestyle ของนิสิตมาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
หลังจากกระแสตอบรับที่ดีมาตลอด 4 ปี CU NEX จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น รู้ใจมากขึ้น โดยนำเอา Deep technology เข้ามาร่วมใช้งานในแอปพลิเคชัน ภายใต้แนวคิดว่า CU NEX นั้นไม่ใช่ระบบปฏิบัติการมือถือ แต่คือชุมชนที่แข็งแรงและก้าวทันในทุกเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่มีความน่าสนใจ มีดังต่อไปนี้
อีกหนึ่งความท้าทายที่น่าจับตามองคือการที่ธนาคารกสิกรไทย (KBank) และบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) หน่วยงานที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ของธนาคารกสิกรไทย ได้เข้ามาร่วมกันผลักดันและสนับสนุนเทคโนโลยีในแวดวงการศึกษา โดยมีจุดประสงค์ที่จะผลักดันความรู้ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน และมีการนำเอาเทคโนโลยีรูปแบบ Biometrics Technology ที่มีคุณภาพการใช้งานในระดับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในแอปชั้นนำ รับรองด้วย iBeta global certification นำมาใช้ในการพัฒนาด้านการศึกษาและการใช้ชีวิต เพื่อให้ CU NEX เป็นแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ที่ทั้งนิสิตและบุคลากรจุฬาฯ สามารถเข้ามาเรียนรู้ร่วมกัน
เป้าหมายของ CU NEX ไม่ใช่เป็นแพลตฟอร์มเพื่อนิสิตและบุคลากรเท่านั้น แต่เป็นการสร้าง Community (ชุมชน) ที่มีการส่งเสริมพื้นที่ให้นิสิตมีส่วนร่วมในการพัฒนาแอปพลิเคชันในชื่อ CU NEX Club ซึ่งเป็นพื้นที่ในการระดมไอเดียของนิสิตเพื่อร่วมพัฒนาแอปพลิเคชันในทุกด้านตั้งแต่ ด้าน HR Multimedia IT User Experience ด้านการบริหารจัดการงานอีเว้นท์ ไปจนถึงด้านการตลาด มีการจัดกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยร่วมกัน อาทิ จัดกิจกรรม ออนไลน์ และออฟไลน์ รวมถึงดูแลบริหารจัดการคอนเทนต์และเนื้อหาการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ผ่านทางช่องทางออนไลน์ของ CU NEX เช่น Facebook IG Twitter และ CU NEX App ถือเป็นการฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม และภาวะความเป็นผู้นำของนิสิต พร้อมเป็นพื้นที่เพื่อแสดงศักยภาพของทุกคน ปัจจุบันจำนวนสมาชิก CU NEX Club มีจำนวน 60 คน จาก 17 คณะ อีกทั้งยังมีความร่วมมือกับพันธมิตรจากร้านค้ารอบๆ มหาวิทยาลัย ร่วมกับคณาจารย์ และทีมงานจากกสิกรไทยอีกด้วย
ปัจจุบันแอปพลิเคชัน CU NEX มียอดจำนวนผู้ดาวน์โหลดถึง 99.5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนนิสิตจุฬาฯ ทั้งหมด โดยมี Active user อยู่ที่ 73 เปอร์เซ็นต์ จากการสำรวจจากผู้ใช้ CU NEX พบว่าสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องพกบัตรนิสิตเพื่อยืนยันตัวตนเพื่อใช้บริการของมหาวิทยาลัย เช่น ห้องสมุด สนามกีฬา ตรวจสอบตารางเรียน หรือลงคะแนนเสียง รวมทั้งช่วยให้รู้ข่าวสารภายในมหาวิทยาลัย ได้รับโปรโมชั่นจากร้านค้า เป็นต้น
ในขณะที่แอปพลิเคชันอย่าง CU NEX STAFF ก็มียอดจำนวนผู้ดาวน์โหลดสูงถึง 74 เปอร์เซ็นต์ของบุคลากรทั้งหมด ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยให้บุคลากรของจุฬาฯ ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถลงเวลาทำงานผ่าน App ได้ อย่างการทำงานในช่วง COVID-19 ที่ต้องทำงาน Work from Home
ทั้งหมดนี้คืออีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จในการที่ธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สอดคล้อง กับชีวิตประจำวันของผู้คนในยุคดิจิทัล ทำให้เห็นถึงประโยชน์ของความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม โดยในอนาคตเราอาจจะได้เห็นการพัฒนาอีกมากมายเกิดขึ้นจากความร่วมมือนี้ มาติดตามก้าวต่อไปของ CU NEX กันต่อว่าจะเป็นอย่างไร
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด