ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี นวัตกรรมต่าง ๆ ถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น เพื่อปรับตัวให้ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และยิ่งมีการระบาดของโควิด-19 ก็ยิ่งทำให้เทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการทำธุรกิจมากขึ้น
ในขณะที่เทคโนโลยีของธุรกิจมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของผู้บริโภคก็ถูกเร่งให้เปลี่ยนไปตามความก้าวหน้าดังกล่าวด้วยเช่นกัน จากผลการศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Facebook และ Bain Company พบว่า ในประเทศไทย มีผู้บริโภคมีการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลต่อคนเพิ่มขึ้นมากกว่า 60% และยังพบอีกว่า คนไทยเปิดใจซื้อสินค้าใหม่ ๆ บนโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้นกว่าร้อยละ 50 ทำให้เห็นได้ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจบนโลกออนไลน์กำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ธุรกิจก็ยิ่งจำเป็นต้องเร่งปรับตัวมาเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลให้การทำการตลาดเพื่อให้ดึงดูดลูกค้าในโลกออนไลน์มีความจำเป็นกับธุรกิจมากขึ้นด้วยเช่นกัน รูปแบบของการทำการตลาดมีความแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่นักการตลาดยุคใหม่ให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่ารูปแบบอื่น คือ การนำเอาข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ธุรกิจถืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ด้านการตลาด หรือการทำ Data Driven Marketing นั่นเอง
Data จึงกลายเป็นสิ่งที่หลายธุรกิจนำเอามาใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ และในช่วงวิกฤตที่หลายองค์กรต้องเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม MICE ที่ต้องส่งมอบการบริการที่ตอบสนองลูกค้าได้อย่างตรงจุด และต้องใส่ใจกับความต้องการของลูกค้า ดังนั้น Data จะเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้
และวันนี้ Techsauce จะพาไปทำความรู้จักกับ Data Driven Marketing สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม MICE ว่า ทำไมการตลาดแบบนี้ถึงมีความสำคัญ ? มีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจ ? และหากจะเริ่มต้นทำการตลาดแบบนี้จะเริ่มต้นอย่างไร ?
ธุรกิจมักจะมีข้อมูลจำนวนมากของลูกค้าอยู่เสมอ อาจจะเป็นรูปแบบของการเป็นสมาชิกแบรนด์ สินค้าที่ซื้อสม่ำเสมอ หรืออาจจะเป็นรูปแบบการใช้บริการที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทำการตลาดแบบ Data Driven Marketing
ข้อมูลเหล่านี้หากธุรกิจปล่อยทิ้งเอาไว้ก็จะถือเป็นการปล่อยสิ่งมีค่าให้เสียเปล่า นักการตลาดยุคใหม่จึงนำเอาสิ่งนี้มาเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยการนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจสามารถตอบรับกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้การทำการตลาดในรูปแบบนี้ สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับแบรนด์ได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถตามทันความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเทคโนโลยี และเทรนด์ในตลาดได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลต่าง ๆ ที่ทางธุรกิจจะนำเอามาใช้งานนั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากทางลูกค้า และอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act หรือ PDPA)
ทั้งนี้การทำการตลาดรูปแบบ Data Driven Marketing จะสามารถสร้างประโยชน์ได้มหาศาล เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลเช่นนี้ หากไม่เอาสิ่งที่มีในมือมาใช้ให้เกิดประโยชน์ นอกจากจะตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นจะต้องเสียเปล่าไปอย่างไร้ประโยชน์
หากจะพูดถึงประโยชน์ของการทำการตลาด ก็คงหนีไม่พ้นการดึงดูดลูกค้า แต่ตามที่กล่าวไปข้างต้น ด้วยความเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัล การตลาดที่สามารถดึงเอาข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า อย่าง Data Driven Marketing ก็นับว่าเป็นรูปแบบการทำตลาดที่เหมาะสมในเวลาเช่นนี้
สำหรับข้อดีของการทำการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้ วันนี้ Techsauce ได้ไปทำการศึกษา และจะยกตัวอย่างได้ ดังนี้
เข้าถึง Insight ของลูกค้า: Data คือ สิ่งมีค่าที่สามารถนำมาต่อยอดให้สามารถทำการตลาดที่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น การทำความเข้าใจกับความต้องการเชิงลึกของลูกค้า จะสามารถช่วยให้แบรนด์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้าได้ดีมากขึ้น และในส่วนนี้สามารถนำไปต่อยอดเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่มีความ Personalized ได้ด้วยเช่นกัน
พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างตรงจุด: Data Driven Marketing ยังช่วยให้ลูกค้าเกิด Customer Loyalty ต่อแบรนด์ได้ด้วยเช่นกัน เพราะข้อมูลที่มีจะช่วยให้แบรนด์สามารถปรับปรุงสินค้า รวมทั้งบริการให้มีความเหมาะสม และเมื่อลูกค้าได้รับประโยชน์ที่ตรงจุด ลูกค้าก็จะกลับมาใช้บริการของแบรนด์นั้น ๆ อีกครั้ง
ช่วยวางแผนด้านกลยุทธ์ได้ดียิ่งขึ้น: เมื่อมีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า มีความเข้าใจความต้องการที่ตลาดกำลังมองหา ก็จะสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาช่วยวางแผนในการตัดสินใจได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยที่ธุรกิจหรือแบรนด์ ไม่จำเป็นจะต้องไปเสียเวลากับการตามหา และทดลองผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของตลาดเลย
ผลักดันธุรกิจให้เติบโตในโลกออนไลน์ และออฟไลน์: การทำการตลาดแบบ Data Driven Marketing ไม่ได้มีประโยชน์ต่อธุรกิจในโลกออนไลน์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจในโลกออฟไลน์ อย่างเช่น ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว การจัดงานสัมนา ที่ต้องอาศัยลูกค้าแบบออฟไลน์ด้วย ซึ่งการหยิบเอา Data เข้ามาจะช่วยให้ตอบสนองต่อลูกค้าทั้งสองช่องทางได้อย่างครบวงจร สามารถรักษาลูกค้าได้ในระยะยาว ลูกค้ามีความสะดวกสบายมากขึ้นในการเข้าถึง เพราะสามารถเจอแบรนด์ได้ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เป็นต้น
เมื่อต้องการจะเริ่มต้นลงมือทำการตลาดแบบ Data Driven Marketing หลายคนคงมองหาคอร์สเรียน แต่ราคาแสนแพง และยิ่งธุรกิจกำลังตกอยู่ในช่วงวิกฤติที่ไม่สามารถขยับขยายได้สะดวก จะให้ส่งแผนกการตลาดทั้งทีมไปสร้างทักษะด้านนี้ก็คงไม่ไหว
Techsauce จึงได้ร่วมกับ TCEB โดย MICE Intelligence Center ส่งมอบงานดี ๆ สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม MICE (Meeting, Incentives Travel, Conferencing และ Exhibitions) โดยเฉพาะ เพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ ด้วยทักษะ และความรู้ด้านเทคโนโลยี และดิจิทัล
และหากท่านเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม MICE และกำลังมองหาโอกาสดี ๆ ในการเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจ ครั้งนี้งาน MICE Intelligence Talk 4 กลับมาอีกครั้ง กับหัวข้อ Data Driven Marketing for MICE ที่จะมาสร้างองค์ความรู้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกคนสามารถนำเอา Data ที่มีอยู่ในมือมาสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้มากที่สุด
โดยครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก Speaker คนพิเศษ อย่าง คุณลูกปลา ชลธิชา แสงพันธุ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Analytist ที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทางการตลาด ผู้สร้างแพลตฟอร์ม GrowTH ai และนักการตลาดสายวิเคราะห์ที่ช่วยแบรนด์ชื่อดัง อย่าง CP All, Tops, SC Asset ให้ประสบความสำเร็จผ่านการวิเคราะห์ และใช้ข้อมูลให้คุ้มค่า ซึ่งคุณลูกปลาจะมาช่วยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม MICE เรียนรู้ด้าน Data Analytic พร้อมกับประยุกต์ใช้ Data กับงานสายบริการ ที่จะทำให้ธุรกิจมีความง่ายดาย และมีศักยภาพมากขึ้น ผ่านการทำ Workshop ที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถนำความรู้ และ Tools ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Data Driven Marketing ที่ได้ไปใช้งานได้จริง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/gq4tRwTEKwQmKWgz8 ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2564
ด่วนรับจำนวนจำกัด เพียง 30 ท่านเท่านั้น (ทางทีมงานจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมตามลำดับการลงทะเบียน และจะแจ้งผลการเข้าร่วมให้ทราบผ่านอีเมลที่ได้ลงทะเบียนเข้ามา)
งานครั้งนี้จะจัดในรูปแบบ Onsite ณ Victor Club สามย่าน มิตรทาวน์ ชั้น 7 ตึก Mitrtown Office (ห้อง Victor 2) โดยทางทีมงานมีมาตราการคุมเข้มความปลอดภัยโดยการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานแบบ Onsite ไม่เกิน 50 คนตามมาตราการของรัฐ และเว้นระยะห่างทางสังคมตลอดทั้งงาน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด