"Digital Refinement" ปัจจัยสำคัญที่พาองค์กรปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล | Techsauce

"Digital Refinement" ปัจจัยสำคัญที่พาองค์กรปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล

Red Hat ได้จัดทำแบบสำรวจเกี่ยวกับการคาดการณ์ด้านเทคโนโลยีจากลูกค้าของ Red Hat  ทั่วโลกประจำปี 2019 (Red Hat Global Customer Tech Outlook 2019) พบว่าประมาณ 9 ใน 10 ขององค์กรที่ตอบแบบสอบถามตระหนักถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล และองค์กรที่ยังไม่ได้เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลก็มีแผนที่จะดำเนินการดังกล่าวภายในสองปีข้างหน้า

ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เช่น โครงการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลของสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific) ของฮ่องกง มีการนำโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สระดับองค์กรไปใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์มคลาวด์ ซึ่งช่วยให้สายการบินสามารถกำหนดมาตรฐานและรวมศูนย์การจัดการ ควบคู่กับการปรับใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยรวมได้ดียิ่งขึ้น และสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า

อย่างไรก็ดี โครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่ดำเนินการเพียงครั้งเดียวไม่อาจช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จได้ในยุคดิจิทัล เพราะสภาพแวดล้อมทางธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นองค์กรต่างๆ จึงจำเป็นที่จะต้องปรับใช้แนวทาง Digital Refinement ซึ่งคือการยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยเทคโนโลยี โดยจะต้องประเมินกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์เหล่านั้นมีความเหมาะสมท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจากไอดีซี (IDC) ระบุว่า กระบวนการ Digital Refinement นี้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรอย่างน้อย 55 เปอร์เซ็นต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้อย่างชัดเจนภายในปี 2020 โดยองค์กรเหล่านี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อตลาด ด้วยการนำเสนอโมเดลธุรกิจที่แปลกใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับการปรับปรุงโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

องค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สามารถนำ Digital Refinement ไปใช้เพื่อคาดการณ์เชิงรุกเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และนำเสนอบริการที่ตอบสนองความเปลี่ยนแปลงนั้นได้อย่างทันท่วงที ด้วยการดำเนินการสามด้านดังนี้

1. การวิเคราะห์ห่วงโซ่ที่แสดงการเชื่อมโยงขั้นตอนในการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการตั้งแต่ต้นจนถึงมือผู้บริโภค (Value Chain)

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเปรียบเสมือนดาบสองคม กล่าวคือ เทคโนโลยีช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้บริโภค แต่ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้ลูกค้ามีความต้องการและพฤติกรรมใหม่ๆ ส่งผลให้องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินงานและการให้บริการเพื่อรองรับความต้องการและพฤติกรรมดังกล่าว

ด้วยเหตุนี้ บริษัทต่างๆ จึงต้องวิเคราะห์ Value Chain โดยการศึกษาสถานะของตนเองในตลาด หาจุดอ่อนในการแข่งขันให้พบ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการที่นำเสนอแก่ลูกค้า ตัวอย่างเช่นธนาคารแอมแบงค์ (AmBank Group) ของมาเลเซีย เมื่อได้ใช้กระบวนการวิเคราะห์ Value Chain ดังกล่าวแล้ว สามารถค้นหาวิธีการที่จะนำเสนอบริการโมบายแบงค์กิ้งที่ราบรื่นสะดวกสบายมากขึ้น และเป็นการสร้างช่องทางรายได้ใหม่ๆ ให้แก่ธนาคาร

2. ให้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหัวใจในการทำงานขององค์กร

แม้ว่าเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล แต่การมีวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลก็อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล บริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัลจะสามารถปรับเปลี่ยนบุคลากร กระบวนการ และโครงสร้างให้ใช้เทคโนโลยีอย่างสอดคล้องกัน เพื่อเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บริษัทจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ การพัฒนาทักษะของบุคลากรให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิด (Mindset) ควบคู่กันไป นอกจากนี้ จะต้องค้นหาปัญหาช่องว่างทางด้านทักษะให้พบ และจัดการฝึกอบรมที่จำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนสามารถที่จะก้าวตามได้ทันและมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

ตัวอย่างเช่น สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) ได้ดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยทำการปรับปรุงระบบต่างๆ ให้ทันสมัย ควบคู่กับการยกระดับทักษะและความเชี่ยวชาญของทีมงานฝ่ายแอปพลิเคชั่นและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานบนแพลตฟอร์มใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สายการบินสามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้อย่างเหมาะสม ด้วยการอัพเดตโปรแกรมทางธุรกิจบ่อยครั้งมากขึ้น

3. เลือกพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม

เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมีความซับซ้อนมาก ดังนั้นบริษัทต่างๆ จึงต้องเลือกสรรพันธมิตรที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายในโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีบริษัทใดเพียงบริษัทเดียวที่มีทรัพยากรทั้งหมดที่จำเป็นในการพัฒนาระบบทางด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง และการพยายามทำเช่นนั้นโดยลำพังก็เป็นเรื่องยากและต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ดังนั้นขั้นตอนถัดไปที่บริษัทจะต้องดำเนินการก็คือ การตัดสินใจว่าจะสร้างหรือซื้อเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญที่จำเป็น

ตัวอย่างเช่น ธนาคารบีอาร์ไอ (Bank BRI) ของอินโดนีเซียร่วมมือกับเร้ดแฮท คอนซัลติ้ง (Red Hat Consulting) ในการพัฒนาแพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์ และหลีกเลี่ยงความซับซ้อนในการโยกย้ายระบบไปยังคลาวด์ นอกจากนี้ การโยกย้ายดังกล่าวยังช่วยให้ทีมงานฝ่ายไอทีของธนาคารมีความรู้และประสบการณ์ในการใช้โซลูชั่นของเร้ดแฮทเพื่อจัดการระบบไฮบริดคลาวด์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งสร้างและติดตั้งแอปพลิเคชั่นอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ในเรื่องของการเลือกพันธมิตรที่เหมาะสม องค์กรต่างๆ ควรมองหาพันธมิตรที่มีประวัติการทำงานที่ดีในด้านสำคัญๆ เช่น การบริหารโครงการ และการจัดการความร่วมมือ และมีความคาดหวังในลักษณะเดียวกันกับองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของคุณภาพและการนำโซลูชั่นต่างๆ มาใช้ การมีพันธมิตรที่ดีและมีแนวทางที่สอดคล้องกันในเรื่องของการดำเนินธุรกิจจะช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ให้แก่องค์กรในระยะยาว และเมื่อความร่วมมือขยายขอบเขตกว้างขวางมากขึ้น พันธมิตรก็จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจขององค์กรเพิ่มมากขึ้น และจะมีบทบาทสำคัญในด้านต่างๆ มากขึ้น เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น หรือการให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ

ปรับปรุงธุรกิจเพื่อรองรับอนาคตด้วย Digital Refinement

ความสำเร็จในยุคดิจิทัลจำเป็นต้องอาศัยการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน แทนที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ ในลักษณะเฉพาะกิจเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เนื่องจากแนวทาง Digital Refinement จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมในลักษณะเชิงรุกได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นองค์กรที่ปรับใช้แนวทางนี้จะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาธุรกิจหยุดชะงัก ทั้งยังเสริมสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน และไขว่คว้าโอกาสใหม่ๆ ได้ก่อนคู่แข่ง

 

โดย เดเมียน หว่อง รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายตลาดใหม่และตลาดที่เติบโตในเอเชียของ Red Hat

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...