ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงสดใสอยู่หรือไม่? คำถามนี้คงอยู่ในใจของคนไทยหลายคน และล่าสุด Techsauce ได้เข้าร่วมงาน Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ซึ่งมีการเสวนาหัวข้อ "Thailand Now—And Next" ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยมี Rana Wehbe Watson ผู้อำนวยการด้านบรรณาธิการและโครงการพิเศษจาก Forbes Asia เป็นผู้ดำเนินรายการ
และผู้ร่วมเสวนา อาทิ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการอาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น, คุณชาติศิริ โสภณพนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงเทพ, คุณปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท Frasers Property เกี่ยวกับอนาคตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยกำลังส่งสัญญาณฟื้นตัว
คุณศุภชัย เจียรวนนท์, คุณชาติศิริ โสภณพนิช, และ คุณปณต ศิริวัฒนภักดี เห็นพ้องกันว่ามีแนวโน้มที่ดี แม้จะยังมีความท้าทายหลังวิกฤตโควิด-19 ก็ตาม การฟื้นตัวนี้มีแรงสนับสนุนจากหลายปัจจัยที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
- การท่องเที่ยว: หลังจากสถานการณ์โควิด-19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยในปี 2022 จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภาคการบริการและชุมชนที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเริ่มเห็นการฟื้นตัว ซึ่งมีผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม
- การลงทุน: การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนและสิงคโปร์ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนใน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นจุดดึงดูดสำคัญ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงโอกาสในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ตอกย้ำความมั่นใจของนักลงทุนในศักยภาพเศรษฐกิจไทย
- การเงิน: ภาคการเงินยังคงเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยแสดงถึงความแข็งแกร่งและเสถียรภาพที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเติบโตในภาคนี้สะท้อนถึงศักยภาพในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว
- อสังหาริมทรัพย์: ภาคอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเมืองมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับ เทคโนโลยี ความยั่งยืน และนวัตกรรม เช่น การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารจัดการอาคารด้วยระบบอัจฉริยะ และการสร้างพื้นที่สีเขียว ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองยุคใหม่ แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม
- เทคโนโลยีและโทรคมนาคม: ภาคเทคโนโลยีและโทรคมนาคมถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การพัฒนานวัตกรรม และการเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลให้แก่แรงงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในระดับโลก
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ธุรกิจไทยกำลังเร่งปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับแนวคิดเรื่อง ความยั่งยืน การปรับตัวเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในปัจจุบัน แต่ยังวางรากฐานสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
การรักษาความเป็นกลางในทางการค้า ส่งผลอย่างไรต่อไทย
ประเทศไทยเลือกวางตัวเป็นกลางในด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในบริบทของเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน โดยผู้เชี่ยวชาญอย่าง คุณศุภชัย เจียรวนนท์, คุณชาติศิริ โสภณพนิช, และ คุณปณต ศิริวัฒนภักดี ต่างมองว่าแนวทางนี้ช่วยส่งเสริมผลประโยชน์ของไทย เนื่องจากทั้งจีนและสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
หากเกิดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อไทยในหลายมิติ เช่น:
- การส่งออกและการผลิต: หากสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากจีน ไทยอาจได้รับผลกระทบทางอ้อม หากสินค้าไทยที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ใช้ส่วนประกอบหรือวัตถุดิบจากจีน ในทางกลับกัน หากจีนลดการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ อาจกระทบโซ่คุณค่าการผลิต (supply chain) ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าไทย ซึ่งพึ่งพาตลาดจีน
- การลงทุน: ความขัดแย้งอาจทำให้นักลงทุนจากทั้งสองประเทศลดความสนใจหรือเลื่อนการลงทุนในไทย ส่งผลกระทบต่อโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ
นอกจากนี้คุณศุภชัยให้ความเห็นว่า ไทยควรแสดงบทบาทเป็นพื้นที่กลางที่เอื้อต่อการพูดคุยและการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ การวางตำแหน่งเช่นนี้ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากความขัดแย้ง แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ในด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือในระดับภูมิภาค
ภูมิภาคไหนที่มีแววจะเติบโต และน่าสนใจ
ในการเสวนานี้ชี้ว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ยังคงเป็นพื้นที่ที่น่าจับตามองสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนประชากรที่มาก ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่กำลังเโต การรวมตัวในกรอบเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เช่น อาเซียน ยิ่งช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนและขยายธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทีน่าสนใจในภูมิภาคอีก อาทิ
- จีน: ตลาดใหญ่ที่ยังคงมีศักยภาพจีนถูกมองว่าเป็น "พี่ใหญ่" ของไทยในภูมิภาค ผู้พูดเน้นถึงความสำคัญของการลงทุนในจีน ซึ่งมีทั้งขนาดตลาดที่ใหญ่และศักยภาพการเติบโตในหลายภาคส่วน
- สิงคโปร์: ศูนย์กลางการเงินและเทคโนโลยีสิงคโปร์ แม้จะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่เป็นฐานสำคัญสำหรับธุรกิจไทยในการขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ด้วยความเป็นศูนย์กลางทางการเงิน เทคโนโลยี และการค้า สิงคโปร์จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าสู่ตลาดอาเซียน
- อินโดนีเซีย: ทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลายด้วยประชากรจำนวนมากและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในด้านพลังงาน วัตถุดิบ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- เวียดนาม: ดาวรุ่งแห่งอุตสาหกรรมเวียดนามเป็นประเทศที่กำลังเติบโตในด้านการผลิตและอุตสาหกรรม ด้วยต้นทุนการผลิตที่แข่งขันได้ และการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาล นักลงทุนสามารถมองหาโอกาสในด้านอุตสาหกรรมการผลิตและเทคโนโลยี
- กัมพูชา: โอกาสในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานกัมพูชายังคงต้องการการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ระบบคมนาคม น้ำประปา และไฟฟ้า นักลงทุนที่มองหาโอกาสในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะพบว่ากัมพูชามีศักยภาพในระยะยาว
สุดท้ายแล้วในการเสวนานี้ชี้ว่าประเทศไทยควรใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์อันดีกับประเทศในภูมิภาค และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกรอบอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงและดึงดูดการลงทุนระหว่างประเทศ การพัฒนาความเชี่ยวชาญในด้านอุตสาหกรรมที่มีความได้เปรียบ เช่น การเกษตร เทคโนโลยี และบริการ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาค
ข้อมูลจากงาน Forbes Global CEO Conference