อนาคตยานยนต์ไฟฟ้าของไทย จะดีแค่ไหน ? ถ้าเมืองไทยมี EV Ecosystem ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้จริง | Techsauce

อนาคตยานยนต์ไฟฟ้าของไทย จะดีแค่ไหน ? ถ้าเมืองไทยมี EV Ecosystem ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้จริง

จากปัญหาความผันผวนของค่าน้ำมันและราคาพลังงาน ต้นทุนทั้งการบำรุงรักษาและมลพิษของรถยนต์สันดาบ ตลอดจนความตระหนักรู้ต่อความสำคัญของสิ่งแวดล้อม นำมาซึ่งนโยบายด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และความต้องการที่จะลดคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero)

ส่งผลให้ Electric Vehicle (EV) หรือ ยานยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นประเด็นที่ทั้งโลกจับตามองในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ด้วย ในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สำคัญที่มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ต่ำกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า ค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า และมีหน้าตาที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย 

จากปัญหาความผันผวนของค่าน้ำมันและราคาพลังงาน ต้นทุนทั้งการบำรุงรักษาและมลพิษของรถยนต์สันดาบ ตลอดจนความตระหนักรู้ต่อความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ Electric Vehicle (EV) หรือ ยานยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นประเด็นที่ทั้งโลกจับตามองในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ด้วย

เหล่ามหาเศรษฐีคนสำคัญระดับโลก ทั้ง Bill Gates, Jeff Bezos, Jack Ma และรายอื่น ๆ ล้วนได้ร่วมลงทุนในธุรกิจที่จะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ของรถ EV โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถ EV ที่ต้องอาศัยแร่หายากมาใช้ในการผลิต

และจากปัจจัยที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงที่ผ่านมานี้ พบว่ายอดขายของ EV จากค่ายต่าง ๆ นั้นเพิ่มขึ้น ด้วยความหวังของผู้ใช้งานที่ต้องการจะลดค่าใช้จ่ายลง และด้วยสภาพอากาศที่แย่ลงเรื่อย ๆ จากการปล่อยมลพิษ เป็นผลให้แนวโน้มการใช้งานรถ EV เพิ่มสูงขึ้น

ประเทศไทย อยู่จุดไหนของการมี EV Ecosystem?

ในช่วงที่ผ่านมา ความนิยมในการใช้รถ EV ของคนไทยเริ่มเพิ่มมากขึ้น จากที่เห็นในสื่อโฆษณาต่าง ๆ ที่เริ่มมีการโปรโมตยานยนต์ไฟฟ้า มีการตั้งสถานีชาร์จไฟในพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น จึงนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการก้าวเข้าสู่สังคมแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

เช่นเดียวกันกับองค์กรต่าง ๆ ของไทย โดยเฉพาะองค์กรด้านพลังงานรายใหญ่หลายรายของไทย ที่ได้ไปจับมือกับองค์กรต่างชาติเพื่อนำเข้าและผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการร่วมกันเปิดโรงงานเพื่อที่จะผลิตรถ EV เองในประเทศไทย มีการขยายพื้นที่ในการติดตั้ง EV Charging Station เพื่อรองรับการใช้งานรถ EV ที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

จากปัญหาความผันผวนของค่าน้ำมันและราคาพลังงาน ต้นทุนทั้งการบำรุงรักษาและมลพิษของรถยนต์สันดาบ ตลอดจนความตระหนักรู้ต่อความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ Electric Vehicle (EV) หรือ ยานยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นประเด็นที่ทั้งโลกจับตามองในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ด้วย

ในขณะที่ผู้ให้บริการอย่างเดลิเวอรีส่งอาหารและสินค้าบางราย ก็ได้มีการขยายบริการที่นำเอารถ EV มาใช้งานมากขึ้น อย่างเช่น การเปิดให้ไรเดอร์สามารถใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในการทำงาน พร้อมกับมอบสวัสดิการอย่างการเปิดสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับ EV Bike ในหลายพื้นที่ให้ครอบคลุมการบริการ เป็นต้น 

และในส่วนของรัฐบาลไทยเอง ก็ได้ให้การสนับสนุนในหลายด้าน โดยเมื่อช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการอนุมัติแพคเกจ EV โดยลดภาษีนำเข้าและสรรพสามิตสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า รัฐบาลไทยพยายามที่จะบรรลุเป้าลดการปล่อยคาร์บอน ทำให้มีการเร่งผลักดันให้มีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเร็วขึ้น โดยได้มีการเริ่มศึกษาทดลอง และวางแผนพัฒนารถ EV ตามนโยบาย 30/30 

จะดีกว่าไหม ? ถ้าประเทศไทยมี EV Ecosystem ที่แข็งแรง

จากรายงานของ Arcadis พบว่ามี 3 ปัจจัยที่เป็นตัวเร่งให้เกิด EV Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ได้แก่

  • การสนับสนุนและกระตุ้นจากรัฐบาล: กฎหมายและข้อบังคับของรัฐบาล เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศน์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยแรงกระตุ้นในด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้หลายประเทศเริ่มออกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ชัดเจนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การที่จะแบนการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ ICE Car ลงภายในปี 2030 ในขณะที่บางประเทศก็เริ่มนำเอารถ EV มาใช้งานแทนรถแบบเดิม  นอกจากนี้ ยังมีการกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้รถ EV ผ่านการลดภาษีต่าง ๆ รวมไปถึงการเพิ่มสวัสดิการพิเศษให้ผู้ใช้ EV

  • มีตลาดรถ EV ที่เติบโตและแข็งแรง: ในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตลาดรถ EV ในแต่ละประเทศจะมีการเติบโตมากขึ้น แต่หากเทียบกับตลาดของรถแบบ ICE ทั่วไป จะพบว่าตลาดรถ EV ยังเล็กมาก และไม่ได้มีตัวเลือกที่หลากหลายให้กับผู้ที่สนใจ ซึ่งส่งผลให้รถ EV มีราคาสูง และไม่รองรับกับการใช้งานที่หลากหลาย

  • มีสถานีชาร์จที่ครอบคลุม: การมีสถานีชาร์จสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คนตัดสินใจเลือกใช้งานรถ EV มากขึ้น เมื่อมีสถานีชาร์จไฟในหลากหลายพื้นที่ให้คนพร้อมใช้งาน ทั้งที่ใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน มีอยู่ในหลายสถานที่ตลอดการเดินทาง ทั้งใจกลางเมือง ชาญเมือง และในต่างจังหวัด เพื่อรองรับการใช้งานของผู้คนในทุกพื้นที่

จากปัญหาความผันผวนของค่าน้ำมันและราคาพลังงาน ต้นทุนทั้งการบำรุงรักษาและมลพิษของรถยนต์สันดาบ ตลอดจนความตระหนักรู้ต่อความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ Electric Vehicle (EV) หรือ ยานยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นประเด็นที่ทั้งโลกจับตามองในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ด้วย

ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์แล้ว ประเทศไทยยังตามหลังในด้านของการสนับสนุนข้องกฎหมายจากทางรัฐบาล และเรื่องของสถานีชาร์จที่ยังถือว่าน้อยกว่าจำนวนรถ EV โดย Arcadis ได้ศึกษาและพบว่า ในประเทศไทยมีอัตราส่วนรถ EV ต่อสถานีชาร์จอยู่ที่ 12.1:1 (หรือรถ EV 12.1 คันต่อสถานีชาร์จ 1 จุด) และภายในปี 2025 จะมีจำนวนผู้ใช้รถ EV อยู่ที่ 90 คนใน 1,000 คน (หรือประมาณ 9%)

แล้วจะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยได้อย่างไร?

อย่างที่ทราบกันดีว่าทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็ให้ความสำคัญกับการยกระดับ EV Ecosystem ของไทยเป็นอย่างมาก แต่ละฝ่ายต่างเร่งเดินหน้าวางแผนให้กับอนาคตของประเทศ รวมไปถึง MG ที่มีวิสัยทัศน์ในการยกระดับให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ EV Ecosystem ที่สมบูรณ์ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้บริโภคมากขึ้น ผ่านการเดินหน้าใน 4 ด้านหลัก ดังนี้

  • เพื่อให้ตอบรับกับรูปแบบการใช้งานความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของทุกคน MG มีแผนที่จะขยาย EV Portfolio ด้วยการพัฒนาและนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย โดยรถ EV ทุกรุ่นจะมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนเดิมให้ทุกคน 

  • การจัดการแบตเตอรี่ที่คิดอย่างครบวงจร ที่ MG ได้ลงทุนกว่า 2,500 ล้านบาท ในการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัยในเรื่องของการพัฒนาและการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของการจัดการแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว 

  • เมื่อผู้ซื้อหลายคนยังกังวลกับความจุแบตเตอรี่ เนื่องจากปัญหาที่สถานีชาร์จอาจจะไม่เพียงพอ และไม่ครอบคลุมในพื้นที่ต่าง ๆ MG จึงได้มีแผนที่จะขยายพื้นที่ให้บริการสถานีชาร์จออกไปให้ทั่วถึงกับผู้ใช้งานทั่วประเทศ

  • MG ยังได้เดินหน้าเร่งสร้างความรู้พื้นฐานและความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยมีแผนที่จะร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเตรียมความพร้อม ให้คนรุ่นใหม่เป็นกำลังสำคัญในการผลักดันให้เกิด EV Ecosystem ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังเร่งสร้างบุคลากรที่มีความชำนาญด้าน EV โดยเฉพาะ เพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคต

จากปัญหาความผันผวนของค่าน้ำมันและราคาพลังงาน ต้นทุนทั้งการบำรุงรักษาและมลพิษของรถยนต์สันดาบ ตลอดจนความตระหนักรู้ต่อความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ Electric Vehicle (EV) หรือ ยานยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นประเด็นที่ทั้งโลกจับตามองในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ด้วย

จากกรณีของ MG นี้ นับว่าเป็นตัวอย่าง และสัญญาณที่ดีของประเทศไทย ที่ชี้ให้เห็นว่า อนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยจะสามารถมี EV Ecosystem ที่แข็งแรงมากขึ้น มีการดึงเอามือของคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นผู้ร่วมขับเคลื่อนให้เกิดระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์มากขึ้น และจะดีขึ้นไปยิ่งกว่า หากคนไทยได้เห็นภาพและเข้าใจความสำคัญของรถ EV ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็น ยานยนต์แห่งอนาคต

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สิงคโปร์ ทำอย่างไรให้เป็นยักษ์ใหญ่ Fintech?เมื่อหัวใจของนวัตกรรมคือ ‘คน’

โลกยุคดิจิทัลพาให้หลายวงการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะ Fintech ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีสิงคโปร์เป็นผู้นำด้านการเงินแล้ว นับได้ว่าเป็นศูนย์กลาง Fintech ของภูมิภาค SEA ก็ว่าได...

Responsive image

สำรวจ 5 เทรนด์สำคัญจากงาน Accenture Life Trends 2025 ที่สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคไทย

สำรวจ 5 เทรนด์สำคัญจากงาน Accenture Life Trends 2025 ที่สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคไทยและทั่วโลก ตั้งแต่ความลังเลในโลกดิจิทัล, การเลี้ยงลูกยุคใหม่, เศรษฐศาสตร์แห่งความใจร้อน, ศักดิ์ศรี...

Responsive image

Qwen2.5-Max คืออะไร หมัดสองจาก AI จีนโดยยักษ์ใหญ่ Alibaba ที่เก่งกว่า Deepseek R1

Qwen2.5-Max โมเดล AI ใหม่จาก Alibaba ท้าชน DeepSeek R1 และ GPT-4o ด้วยประสิทธิภาพสูงกว่า ใช้พลังงานน้อยลง และอาจเปลี่ยนสมดุลอุตสาหกรรม AI ระดับโลก...