Blockchain เทคโนโลยีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ทำให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆได้โดยไม่ต้องอาศัยคนกลาง เพราะนำมาซึ่งความปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือ แต่ด้วยความที่ Blockchain เป็นเทคโนโลยีใหม่ จึงมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ บทความนี้เราจึงได้มีการสรุปความเข้าใจผิดมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
ในความจริงแล้ว Bitcoin เป็นเพียงสกุลของ Cryptocurrency หนึ่งใน Blockchain เท่านั้น และเทคโนโลยี Blockchain ยังสามารถใช้งานด้านอื่นได้มากมาย ไม่ใช่เฉพาะ Cryptocurrency
Blockchain สามารถใช้งานได้ดีสำหรับระบบที่ต้องใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ และ เพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่หากต้องการระบบที่ต้องการการประมวลผลอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง Database ทั่วไปจะดีกว่า
Data Structure ของ Blockchain ทำให้ Data ไม่สามารถลบออกได้ แต่ Blockchain สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมากกว่า 50% ของ networkcomputing power ถูกควบคุมและ Transaction ก่อนหน้าทั้งหมดถูกเขียนใหม่
Blockchain ใช้โครงสร้างข้อมูล รูปแบบ immutable เช่น protected cryptography ความปลอดภัยของระบบ Blockchain นั้นจึงขึ้นอยู่กับ Block ที่อยู่ติดกัน ซึ่งทำให้การแก้ไขข้อมูลใน Block ใด ๆ จะส่งผลกระทบต่อข้อมูลของ Block ที่เชื่อมโยงในภายหลังตลอดทั้งชุดข้อมูล
Blockchain สามารถตรวจสอบธุรกรรมและข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งหมดและดั้งเดิมใน Blockchain ได้ แต่ไม่สามารถประเมินได้ว่า Input จากภายนอกนั้นถูกต้องหรือเป็นความจริง
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ที่ไม่ใช่แค่เพียงในอุตสาหกรรมการเงิน แต่สามารถใช้ประโยชน์ในด้านศุลกากร รวมถึงการบริหารจัดการ Supply Chain ได้อีกด้วย
สำหรับประโยชน์ด้านศุลกากร สามารถที่จะใช้เทคโนโลยี Blockchain ในกระบวนการกำกับดูแลของศุลกากรเพื่อปรับปรุงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ รวมถึงสามารถใช้ในการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการตรวจจับการฉ้อโกง ด้านกฎระเบียบในธุรกิจ E-commerce, การค้าที่ผิดกฎหมาย, การหลีกเลี่ยงภาษีอากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม, การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา, การฟอกเงิน และอาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ
ขณะที่ความสามารถในการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Supply Chain นั้น สามารถลดตัวกลางและเอกสาร รวมไปถึงช่วยปรับปรุงความสามารถในการคาดการณ์ ที่มาจากข้อมูลที่เก็บแบบ Real-time อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกใน Supply Chain มากขึ้น โดยเฉพาะการช่วยบริหารจัดการ Supply Chain ระหว่างประเทศ เช่น
อย่างไรก็ตามการใช้งาน Blockchain ในปัจจุบันก็ยังมีความท้าทายเนื่องจากความสามารถในด้าน Scalability ที่มีข้อจำกัด อีกทั้งเครือข่ายและแพลตฟอร์ม Blockchain แต่ละ Chain นั้นไม่เชื่อมต่อกันและมีปัญหาทางกฎหมายอยู่ เช่น สถานะทางกฎหมายของธุรกรรม Blockchain และความรับผิดชอบ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นในแง่ของการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย รวมถึงการยอมรับอย่างเป็นวงกว้างในทุกอุตสาหกรรมยังคงต้องใช้เวลาในการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
อ้างอิง World Customs Organization
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด