Gabor George Burt ผู้ก่อตั้ง Slingshot Group และผู้เขียนหนังสือ ‘Slingshot: Re-Imagine Your Business, Re-Imagine Your Life’ กล่าวเตือนบริษัททั้งหลายไม่ให้หลงทางไปกับเทรนด์ที่มาเร็วไปเร็ว พร้อมแนะให้โฟกัสอยู่กับการพัฒนาตัวเองเพื่อตามให้ทันโลกปัจจุบัน
Read English Version : Beware of illusive trends, re-imagine boundaries, and be the disruptor
ในทุกๆ ปี จะมีคนกล่าวถึง ‘เทรนด์’ หรือ ‘buzzwords’ ที่กำลังร้อนแรง ไม่ว่าจะเป็นคำอย่าง ‘Blockchain’ หรือ ‘Machine Learning’ แน่นอนว่าบริษัทต่างๆ คงจะไม่พลาดอัพเดทในเรื่องเหล่านี้ แต่ถึงกระนั้น การที่บริษัทขวนขวายเพียงแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจทำให้ไม่สามารถพัฒนาได้เต็มขีดความสามารถ ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้ทุกคนให้ความสำคัญกับสภาพตลาดที่เป็นอยู่
แม้บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ต่างก็พัฒนาไปในทิศทางเดียวกันหมด เพราะทุกคนตามเทรนด์อันเดียวกันไป ซึ่ง Gabor George Burt ให้ความเห็นว่า สิ่งนี้แหละที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของบริษัทหลายแห่ง
เขากล่าวในงาน VMWare CIO Forum 2018 ที่สิงคโปร์ว่า หนทางเดียวที่จะปรับ mindset ให้เข้ากับยุคดิจิทัลได้ก็คือการโฟกัสที่ตัวลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องผลิตหรือสร้างอะไรขึ้นมาใหม่ แต่คือการสร้างนวัตกรรมหรือการพัฒนาตัวบริการที่ตอบโจทย์ต่อลูกค้า
เขายกตัวอย่างความสำเร็จของการจัดคอนเสิร์ตแห่งหนึ่งที่ใช้หมอนแทนที่นั่ง ซึ่งได้สร้างความทรงจำที่ประทับใจ โดยไม่ต้องประดิษฐ์อะไรขึ้นมาใหม่ คอนเสิร์ตสามารถตอบโจทย์ใน 3 เรื่อง คือ
วิธีการนี้พบเห็นได้จากบริษัทที่ประสบความสำเร็จหลายๆ แห่งทั่วโลก อย่างเช่น Skype, Google หรือ Airbnb
หลังจากที่เขาเคยสร้าง ‘Slingshot Framework’ เมื่อ 7 ปีก่อน Burt กล่าวว่าบริษัทต่างๆ ล้วนพยายามดิ้นรนเพื่อจะออกจาก comfort zone ของตน และพยายามจะสร้างอะไรใหม่ขึ้นมาทำลายตัวเองก่อนจะโดนคนอื่นมาทำลาย
เขาจำแนก 3 Concept หลักๆ ที่จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายของตนได้
Blue Lake : เป็นขั้นตอนแรกสำหรับบริษัทที่ต้องแสวงหาความแปลกใหม่จากสิ่งเดิมที่ทำอยู่ โดยการตอบให้ได้ว่าอะไรคือปัญหาที่ลูกค้าเจออยู่ และหาทางปรับเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเสน่ห์หรือจุดเด่นของบริษัทแทน
Blue Sea : ศึกษาว่าคุณจะสามารถขยายขอบเขตออกไปอย่างไร ด้วยการให้ความจำกัดความใหม่ของตัวคุณเพื่อเพิ่มคุณค่าต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
Blue Ocean : การสร้างบางสิ่งขึ้นมาใหม่อย่างสิ้นเชิง ขั้นตอนนี้คือส่วนที่ยากที่สุดสำหรับบริษัทที่อยากจะคงอยู่ใน comfort zone ของตน ซึ่งเรากำลังเห็นสิ่งนี้มากขึ้นในยุคดิจิทัล
ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว Burt กล่าวว่า มันมีอะไรที่มากกว่าแค่ Ocean / Sea หรือ Lake แต่สิ่งสำคัญคือการสร้าง ‘Blue water’ ที่ไม่ยึดติดกับแบบใดแบบหนึ่ง
Burt กล่าวอ้างคำพูดของ Dave Grossman นักเขียนชาวอเมริกันว่า
“สมการของมนุษย์คือการเพิ่มความสุขและแบ่งเบาความทุกข์ การแบ่งปันความทุกข์ซึ่งกันและกันจะช่วยลดความเจ็บปวดลงได้ ส่วนการแบ่งปันความสุขจะช่วยให้ความสุขเพิ่มขึ้น”
หากนึกถึงในแง่ของธุรกิจ กุญแจสำคัญคือการแบ่งปันความสัมพันธ์กับคนอื่นในตลาดและกับผู้บริโภค เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและหลีกเลี่ยง "ประสบการณ์ที่เจ็บปวด" ซึ่งมักมีราคาแพง
ผลการวิจัยหนึ่งเผยสถิติของลูกค้าที่ไม่พอใจกับการบริการของบริษัทต่างๆ ในอเมริกา รวมกันแล้วคิดเป็นค่าเสียหายกว่า 5.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1 ใน 3 ของ GDP ประเทศเลยทีเดียว
51% ของผู้บริโภคในอเมริกา เลิกใช้บริการของบริษัทหนึ่งๆ และหันไปใช้บริการของบริษัทคู่แข่ง ล้วนด้วยเหตุผลจากการได้รับบริการแย่ๆ อาทิ การต้องติดต่อบริษัทหลายต่อหลายครั้งเพื่อแจ้งปัญหาบางอย่าง หรือต้องรอเพื่อรับบริการนานเกินไป หรือ การบริการที่ไม่ต่อเนื่องกัน ซึ่ง Burt กล่าวว่า แม้แต่ปัญหานี้ก็ยังเกิดขึ้นกับบริษัทที่ประสบความสำเร็จแล้ว อย่างเช่น Starbucks ที่ไม่สามารถแก้ปัญหา ความยากในการสั่งเครื่องดื่มได้
เช่นเดียวกับการลดน้ำหนัก การทำให้บริษัทก้าวทันโลกนั้น ไม่ได้มีวิธีแก้ไขแค่เพียงหนทางเดียวที่ตายตัว แต่มันคือการพัฒนาตนแบบไม่หยุดยั้ง เพื่อ disrupt ตัวเองก่อนที่จะถูกคนอื่นมา disrupt
เขาย้ำในตอนจบว่าบริษัททั้งหลายควรจะ “ตั้งเป้าหมายให้ชัด ออกบิน และทำซ้ำ”
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด