บัญชีและการเงิน คือ นาฬิกาวัดชีพจรของธุรกิจ เป็นกระจกที่สะท้อนความเป็นมาในอดีตและความน่าจะเป็นในอนาคตได้ดีที่สุด
“การเงินเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเราผ่านไปได้ เราจะโตขึ้น”
วอร์เรน บัฟเฟตต์ มีทรัพย์สินที่เติบโตจากการลงทุนในหุ้นได้ด้วยการอ่านงบการเงิน เพื่อประเมินแนวโน้มของธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน แม้ว่าการลงทุนใน Startup จะมีความแตกต่าง แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญ ดังนั้น มาให้ความสำคัญกับบัญชีและการเงินกันเถอะ!
คุณราชิด ไชยรัตน์ บริษัท AccRevo ได้พูดบรรยายในหัวข้อ Good Accounting for Strong Financial ในโครงการ The Future of Startup อนาคต Startup ไทย เอาไว้อย่างน่าสนใจ
- Founder หรือ Co-Founder ควรมีความรู้ความเข้าใจเรื่องบัญชีและการเงิน เนื่องจากนักบัญชีโดยทั่วไปมักจะคุ้นเคยตลาดซื้อมาขายไป ซึ่งอาจจะทำให้วางตำแหน่งทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัทผิดไป หาก Founder หรือ Co-Founder สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ จะช่วยให้นักลงทุนเห็น Value ที่แท้จริงขององค์กรมากยิ่งขึ้น
- Startup มักโฟกัสการทำธุรกิจให้เติบโต แต่หลายครั้งกลับพบว่า เงินหมดและหมุนเงินไม่ทัน ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการใส่ใจบัญชีและการเงิน สูตรสำเร็จของ Startup คือควรเว้นช่องว่างต่อการระดมทุน 18 เดือน โดยที่มีแผนการใช้งบประมาณอย่างมีเหตุและผล นักลงทุนถามส่วนไหนก็ตอบได้อย่างชัดเจน
- สรรพากร DBD ศุลกากร ปปช กลต และอื่น ๆ มีข้อมูลเชื่อมถึงกันแล้ว ดังนั้น หากต้องการให้ธุรกิจสามารถเดินต่อได้ ควรมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ นั่นคือ มีความชัดเจนในที่มาที่ไปของทั้งรายรับและรายจ่าย
- ในอนาคตอันใกล้ การเงินจะสามารถตรวจสอบบน Online ได้ทั้งหมด แม้ว่า Startup จะไม่ค่อยมีปัญหาการเลี่ยงภาษี มีแต่การหักภาษีผิด หักรายจ่ายไม่ถูกต้อง แต่การเลี่ยงภาษี ขอคืนภาษีเป็นเท็จ และฉ้อโกงภาษี ก็มีความผิดฐานฟอกเงิน ดังนั้น ควรทำบัญชีอย่างระมัดระวัง
- พฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการโดนสรรพากรเพ่งเล็ง เช่น จ่ายเงินเดือนพนักงานด้วยเงินสด ฐานข้อมูลไม่เชื่อมโยง หรือนำ VAT ที่ไม่เกี่ยวข้องมาหักภาษี เป็นต้น ซึ่งหากตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยง นอกจากจะโดนเพ่งเล็งแล้ว อาจจะได้ภาษีคืนช้า ถูกตรวจสอบเพิ่ม เจ้าหน้าที่ติดตาม หรือถูกประเมินย้อนหลังด้วย
- จ่ายยังไงให้สรรพากรยอมรับ ก็คือการทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้โปร่งใสและถูกต้อง เช่น โอนเงินเข้าบัญชี จ่ายเช็คให้ขีดคร่อม มีใบเสร็จหรือใบรับรองแทนใบเสร็จ หรือบิลเงินสด ที่ถูกต้อง และแนบสำเนาบัตรประชาชน
- ความคาดหวังต่อบริษัทที่เตรียมเข้า IPO คือ บริษัทที่มีโครงสร้างธุรกิจและผู้ถือหุ้นชัดเจน มีระบบควบคุมภายในที่ดี มีการเตรียมพร้อมด้านภาษี มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และมีการดำเนินงานที่โปร่งใส
ดังนั้น ถ้าอยากโตแบบไม่สะดุด อย่าลืมใส่ใจเรื่องบัญชีและการเงินด้วย เพราะธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องหน้าบ้าน หลังบ้านก็ต้องดีด้วย