Grab แอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนเป็น Super App และกำลังจะก้าวเข้าสู่ แอปฯ ในชีวิตประจำวันของคนเมือง ตั้งแต่เรียกรถ ส่งของ สั่งอาหาร ไปจนสู่บริการใหม่ๆ มากมาย ถึงแม้ว่า Grab จะเติบโตผ่านบริการ Ride-hailing แต่อีกหนึ่งบริการที่กำลังเป็นที่นิยมไม่แพ้กันก็คือบริการส่งอาหาร
อินโดนีเซียคือหนึ่งในตลาดที่น่าจับตามองที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนประชากรที่สูงมาก และสภาพปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้น แน่นอนว่า Grab ได้เข้าไปครองตลาดอินโดนีเซียเป็นที่เรียบร้อย จากความนิยมที่สูงขึ้นของผู้บริโภค Grab ได้เปิดบริการใหม่ ‘Grab Kitchen’ ในปีนี้ พร้อมนำแนวคิด Cloud Kitchen มาใช้เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น เริ่มประเดิมแห่งแรกในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
Sai Alluri หัวหน้าฝ่าย GrabKitchen เล่าว่า Grab Kitchen คือการนำเอาแนวคิดแบบ Cloud Kitchen มาใช้ หมายถึงการรวบรวมเอาร้านอาหารหลายร้านเข้ามาไว้ในพื้นที่เดียวกัน และกระจายสินค้าไปสู่ผู้สั่งออนไลน์ในระยะใกล้เคียง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ร้านอาหารท้องถิ่นสามารถเข้าถึงลูกค้าออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้น และฝั่งผู้บริโภคเองก็ยังเข้าถึงเมนูอาหารที่ต้องการได้ โดยกระบวนการต่างๆ นั้นล้วนพัฒนามาจากการนำ Data ที่มีมาวิเคราะห์และคัดสรรร้านอาหารที่น่าสนใจพร้อมกับตำแหน่งที่ตั้งของครัวและร้านอาหารที่เป็นที่นิยม โดย Grab Kitchen ในหนึ่งที่อาจมีร้านอาหารร่วมครัวสูงถึง 8-15 ราย
ปัจจุบัน Grab Kitchen ในอินโดนีเซียมีทั้งหมด 10 สาขา ในระยะเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น โดยคาดการณ์ว่าจะขยายขึ้นถึง 50 สาขาภายในปีนี้ พร้อมพัฒนาเมนูให้มีความพิเศษและหลากหลายยิ่งขึ้น อีกทั้งคาดว่าจะขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ ในเร็วๆ นี้ รวมถึงประเทศไทย
Grab Kitchen เรียกได้ว่าเป็นโมเดลใหม่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก และคาดว่าในอนาคตจะขยายไปสู่ในอีกหลายพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดนี้อาจจะพลิกโฉมวงการอาหารไปสู่รูปแบบใหม่ๆ พร้อมทำให้ Grab อาจมีข้อได้เปรียบในการวงการส่งอาหาร อีกทั้งยังช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็กให้เติบโตได้ไว และประหยัดเวลาคนสั่ง แถมเอาใจผู้บริโภคให้เลือกทานอาหารที่หลากหลายในเวลาที่รวดเร็วได้อีกด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด