ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนก็เริ่มตระหนักถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงผู้คนในสังคมเท่านั้น ในฝั่งของธุรกิจเองก็มีการปรับตัวในการช่วยแก้ปัญหาที่เหล่านี้ เริ่มมีนโยบายดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน โดยใส่ใจประเด็นสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มจากการคัดเลือกวัตถุดิบ ตลอดจนพัฒนาสร้างนวัตกรรมในการผลิตสินค้าและบริการ
ไอ.พี.วัน. (I.P. One) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค บริษัทของคนไทยที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าคุณภาพชั้นนำอย่าง แบรนด์ไฮยีน, วิกซอล, วิซ, แดนซ์, โฟกัส, และนมเปรี้ยวไอวี่ ถือเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่น่าจับตามอง กับบทบาทขององค์กรของคนไทย ที่ดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดแห่งความยั่งยืน
ไอ.พี.วัน มีจุดเริ่มต้นเล็กๆ คือ อยากเห็นคนไทย ใช้ของดี กินของดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้ให้ความสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ผ่านการแก้ไขปัญหาที่ผู้บริโภคต้องเจอในการใช้ชีวิตมาโดยตลอด นอกจากการใส่ใจผู้บริโภคแล้ว โรงงานของ ไอ.พี.วัน. ยังเป็นโรงงานที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคมตั้งแต่ต้นน้ำ จนปลายน้ำ ลงทุนกับการเลือกใช้วัตถุดิบที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ (Biodegradable ingredients) มากว่า 32 ปี นับเป็นรายแรกๆในเอเชียที่ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม เรียกว่าเป็นผู้มาก่อนกาลก็ว่าได้
ในปี 2021 ไอ.พี. วัน ยกระดับ การลงมือทำเพื่อโลกไปอีกขึ้น โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการ เปิดตัว “I.P. Life Lab” (ไอ.พี. ไลฟ์ แล็บ) ชวนคนไทยมาร่วมแชร์ทุกปัญหา ดึงแนวคิด ปัญหาจริง-คิดจริง-ทำจริง” เพื่อพัฒนาสังคมไทย
จากการตั้งเป้าที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยให้ดีขึ้น และผลิตสินค้าที่ดีให้ผู้บริโภคได้ใช้ คุณอุทัย ธเนศวรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอ.พี.วัน จำกัด กล่าวว่า “สำหรับการก้าวสู่ปีที่ 50 ไอ.พี.วัน เราจะยกระดับนวัตกรรม เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ผ่านการแก้ไขปัญหาที่สร้างผลกระทบในวงกว้างระดับประเทศ หรือระดับโลก หากทุกคนร่วมมือกัน เราจึงริเริ่มโครงการ I.P. Life Lab ซึ่งถือเป็นครั้งแรกขององค์กรเอกชน ที่ทำหน้าที่เสมือนตัวกลางในการรับฟังปัญหาต่างๆ
หลังจากที่มีการเปิดตัว ไปแล้วหนึ่งเดือน ปัญหาขยะ ขึ้นแท่นปัญหาที่ต้องการการแก้ไขเป็นอันดับต้นๆ ทำให้เกิดไอเดีย Waste to Wonderful โครงการที่ชวนให้คนไทยในยุค Covid-19 เริ่มหันมาใส่ใจปัญหาขยะ โดยเริ่มจากการจัดการขยะในที่อยู่ จนขยายออกไปสู่สังคม เมือง และประเทศ
Reduce : ชวนเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการใช้ขยะพลาสติก
• Hygiene Refill Station รณรงค์ให้คนไทยลดการใช้พลาสติก ด้วยการเปิดตัว refill station ให้ผู้บริโภคสามารถนำบรรจุภัณฑ์เดิมมาเติมหรือสามารถซื้อขวดเพื่อเติมน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ที่ Big C สาขาเมกา บางนา
Recycle : ปลุกชีวิตของที่ใช้แล้วให้กลับมาใช้ใหม่
• เปลี่ยนกล่องโยเกิร์ตพร้อมดื่ม IVY เป็น Plant Pot กระถางต้นไม้อัจฉริยะ กระถางรดน้ำได้เอง ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าว สามารถแปลงกล่องเหลือทิ้งกว่า 40,000 กล่อง เป็นกระถางกว่า 2,000 ใบ หรือคิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 9,123 Kg CO2e หรือเทียบเท่าการปลูกต้นสักในพื้นที่เหมาะสมถึง 168,944 ต้น ต่อปี
• เปลี่ยนขยะพลาสติกเหลือทิ้งจากการผลิตกว่า 18 ตันต่อปี หรือเฉลี่ยเดือนละไม่ต่ากว่า 1.5 ตัน นำมาผ่านกระบวนการไพโรไลซิส (Pyrolysis Technologies) เพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกมาเป็นน้ำมันชีวภาพขั้นสูง (Advanced Bio-oil) ซึ่งสามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงทางเลือกได้ต่อไป โดยเป้าหมายสำคัญของไอ.พี.วัน คือการมุ่งสู่โรงงานที่ไม่ทิ้งขยะกลับสู่พื้นดิน (No Landfill)
Upcycle : ชุบชีวิตขยะด้วยดีไซน์และนวัตกรรม
• Hygiene Upcycling bag กระเป๋าสุดเก๋ที่ สร้างสรรค์จากเศษบรรจุภัณฑ์ Hygiene
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของโครงการเท่านั้น ไอ.พี.วันจะยังคงเปิด แพล็ตฟอร์ม I.P. Life Lab เพื่อรับฟังปัญหาของทุกคนและหานวัตกรรมมาช่วยแก้ไขต่อไป มาร่วมแชร์ทุกปัญหาผ่านช่องทางออนไลน์ https://ip-one.com/iplifelab/ นักพัฒนานวัตกรรมของเราจะไม่หยุดคิด เพื่อช่วยให้คนในสังคมไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
ทั้งหมดนี้คือกิจกรรมเพื่อโลกที่ดีขึ้น ที่ทางบริษัทไอ.พี.วัน. ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสังคม สำหรับใครที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม สามารถร่วมสนุกได้ที่เพจ https://www.facebook.com/IPLifeLab ผู้ร่วมกิจกรรมมีสิทธิ์ลุ้นรับ IVY Plant Pot กระถางต้นไม้รีไซเคิลจากกล่องยูเอชทีไอวี่ ที่ไม่ได้เป็นกระถางต้นไม้รักษ์โลกธรรมดา แต่มีฟังก์ชันสุดล้ำ เพราะเป็นกระถางที่ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้บ่อย ๆ มูลค่ากว่า 300 บาท สามารถเข้าไปร่วมสนุกในได้ที่หน้าเพจ I.P. Life Lab
บทความนี้เป็น advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด