InventWood เตรียมผลิต “Superwood” ไม้สุดล้ำ แข็งแรงกว่าเหล็ก 10 เท่า

InventWood บริษัทสตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริกา เตรียมเริ่มการผลิต “Superwood” ไม้แข็งแรงกว่าเหล็กและน้ำหนักเบากว่า ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดสายการผลิตเชิงพาณิชย์ในช่วงกลางปี 2025 นี้

จุดเริ่มต้นของ Superwood เกิดจากการวิจัยของ ศาสตราจารย์เหลียงปิง หู (Liangbing Hu) นักวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ในปี 2018 ที่คิดค้นเทคโนโลยีแปรรูปไม้ธรรมดาให้กลายเป็นไม้แข็งแรงกว่าเหล็ก ไม้แข็งแรงกว่าเหล็ก

SuperWood คืออะไร?

SuperWood คือวัสดุไม้ที่ได้รับการดัดแปลงให้มีคุณสมบัติเป็นไม้แข็งแรงกว่าเหล็กถึง 50% และน้ำหนักเบากว่าเหล็กถึง 10 เท่า ทำให้สามารถใช้แทนเหล็กในบางการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

กระบวนการผลิต SuperWood

การผลิต SuperWood เริ่มจากไม้ธรรมดาที่มีเซลลูโลส (Cellulose) และ ลิกนิน (Lignin) เป็นส่วนประกอบหลัก โดยใช้เทคโนโลยีการปรับโครงสร้างโมเลกุลของไม้ด้วยสารเคมีจากอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อเพิ่มพันธะไฮโดรเจนในเนื้อไม้ 

จากนั้นก็จะนำมาผ่านกระบวนการอัดและทำให้ไม้หนาแน่นขึ้น ซึ่งจุดนี้จะทำให้ได้วัสดุที่มีความแข็งแรงขึ้นมากถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับไม้ธรรมดา ซึ่งทำให้กลายเป็นไม้แข็งแรงกว่าเหล็ก ที่สามารถทดแทนเหล็กในหลายงานก่อสร้าง

คุณสมบัติเด่นของ Superwood

  • แข็งแรงกว่าเหล็ก: แรงดึงสูงกว่าเหล็กถึง 50%
  • น้ำหนักเบา: ความแข็งแรงต่อน้ำหนักดีกว่าเหล็กถึง 10 เท่า
  • ทนไฟระดับ Class A: ป้องกันการติดไฟและทนต่อแมลง
  • ใช้งานกลางแจ้งได้: เหมาะสำหรับผนัง พื้น หรือหลังคา โดยเฉพาะเมื่อเคลือบโพลิเมอร์
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ผลิตจากไม้ยั่งยืน ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน
  • สวยงามเหมือนไม้ธรรมชาติ: เหมาะสำหรับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอก
  • ทนทานยาวนาน: แข็งแกร่งและยืดอายุการใช้งาน
  • ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน: ไม้ที่ไม่มีกลิ่นและไม่ปล่อยสารพิษ
  • ต้นทุนการผลิตต่ำ: ใช้เทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานและวัสดุจากแหล่งธรรมชาติ
  • ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ: ลดผลกระทบจากการตัดไม้และการใช้วัสดุก่อสร้างที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การลงทุนและแผนการขยายตัว

InventWood ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจำนวน 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการระดมทุนรอบ Series A ซึ่งจะนำไปใช้ในการสร้างโรงงานผลิต SuperWood และขยายการผลิตเข้าสู่ตลาด

Lau กล่าวว่า ในระยะเริ่มต้น SuperWood จะถูกนำมาใช้กับส่วนโครงสร้างภายนอกของอาคาร เช่น ผนังด้านนอกของบ้านและอาคารพาณิชย์ โดยเป้าหมายต่อไปคือการขยายการใช้งานไปยังโครงสร้างหลัก เช่น คานและเสา เพื่อลดการพึ่งพาวัสดุอย่างเหล็กและคอนกรีต เนื่องจาก 90% ของการปล่อยคาร์บอนจากอาคารมาจากวัสดุทั้งสองชนิดนี้ที่ใช้ในงานก่อสร้าง

ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง

การนำ SuperWood มาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งปัจจุบันเหล็กและคอนกรีตถือเป็นแหล่งการปล่อยคาร์บอนหลักในวงการก่อสร้าง (คิดเป็น 90% ของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมด) ทำให้ SuperWood เป็นวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

อ้างอิง: Techcrunch 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำไมองค์กรทุ่มงบให้ AI แต่ยังไม่เห็นผลจริง ? เปิดมุมมองกับ ABeam Consulting ผู้คลุกคลีกับ Data & AI ขององค์กรไทย

ทำไมทุ่มงบ AI แต่ไม่เห็นผล? เจาะลึกมุมมองจาก ABeam Consulting ถึงสาเหตุที่แท้จริง ตั้งแต่ปัญหาข้อมูลใช้ไม่ได้ จนถึงวัฒนธรรมองค์กร พร้อมแนวทางปรับตัวให้ AI ใช้งานได้จริงในปี 2025...

Responsive image

ส่องเทรนด์ AI ปี 2026 เมื่อเทคโนโลยีเป็น 'คู่คิด' แต่ความเร็วอาจเป็น 'กับดัก'

ปี 2025 AI ได้กลายเป็นเครื่องมือของคนทำงานไปแล้ว และในปี 2026 กำลังจะเป็นอีกก้าวสำคัญ เพราะ AI จะไม่ได้แค่ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น แต่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจมากขึ้นเรื่อย ๆ...

Responsive image

Nvidia ทุ่ม 2 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าซื้อเทคและทีม Groq สตาร์ทอัพชิป LPU หวังตัดคู่แข่งและเดินเกมคุมโครงสร้างพื้นฐานโลก AI

Nvidia เดินหมากใหญ่ด้วยดีลมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ กับ Groq สตาร์ทอัพชิป LPU โดยไม่ซื้อกิจการ แต่เลือกถือสิทธิเทคโนโลยีและดึงทีมแกนหลักเข้าร่วมทัพ เพื่อเร่งครองเกม AI Inference แล...