ถอดบทเรียนความรู้ด้านการลงทุนและ FinTech แบบละเอียดทุกช่วงจากงาน Faster Future SCB FinTech Forum | Techsauce

ถอดบทเรียนความรู้ด้านการลงทุนและ FinTech แบบละเอียดทุกช่วงจากงาน Faster Future SCB FinTech Forum

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทางธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ร่วมกับบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ (Digital Ventures) จัดงานสำคัญด้าน FinTech และการลงทุนครั้งแรกในไทย ภายใต้ชื่อ Faster Future SCB FinTech Forum โดยในงานมีไฮไลท์ และความรู้ต่างๆ มากมาย ที่เกิดจากการไปสร้างเครือข่ายธุรกิจในต่างประเทศเพื่อผลักดันระบบนิเวศด้านฟินเทคในประเทศไทย และ techsauce ไม่พลาดที่จะมาสรุปเนื้อหาทั้งหมดไว้ในบทความนี้แล้วตามสัญญา

[toc]

สถิติที่น่าสนใจและเทรนต์น่าจับตาในปี 2017

ในช่วงนี้ผู้ที่มาแบ่งปันความรู้คือ Jeffrey Paine, Managing Partner และ Co-Founder จาก Golden Gate Ventures ซึ่งเป็นกองทุนที่ทาง SCB เข้าร่วมลงทุนอยู่นั่นเอง โดยมีเนื้อหาหลายส่วนที่น่าสนใจ และเราสรุปประเด็นไว้ดังนี้

GoldenGate Ventures`

  • เมื่อเปรียบเทียบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับภูมิภาคอื่นที่ใหญ่กว่าในเอเชีย  Startup Ecosystem ของแถบนี้จะคล้ายๆ กับประเทศจีนในช่วงปี 2006 และอินเดียในปี 2011
  • ในขณะที่การแข่งขันในภูมิภาคนี้เมื่อเทียบกับจีนและอินเดียนั้นยังถือว่าน้อยกว่ามาก อย่างจีนเองก็มีไอเดียธุรกิจที่เหมือนๆ กันราวๆ  500 - 2,000 รายเลยทีเดียว ของธุรกิจแถบนี้อยู่ที่ราวๆ 20 รายเท่านั้น โดยที่ในช่วง 18 เดือนแรกของการเกิดธุรกิจกลุ่มนั้นๆ ยังคงมีแค่ 5-7 ราย
  • ขนาดของเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็น 1 ใน 4 ของจีน แม้ขนาดของประเทศจะเล็กกว่ามากๆ
  • ในขณะที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความแตกต่างในเชิงวัฒนธรรม แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็มีการผลักดันและใช้ภาษาอังกฤษกันแพร่หลายมากขึ้น
  • การเติบโตของสายการบินราคาถูกในแถบนี้ ทำให้การเดินทางนั้นสะดวกและคล่องตัวขึ้น คาดการณ์กันว่าจะดึงดูดนักลงทุนให้มาลงทุนมากขึ้นถึง 40 พันล้านเหรียญฯ ในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้
  • เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียมากถึง 650 ล้านคน
    • เวียดนาม - มีการค้นหาข้อมูลผ่านโมบายสูงถึง 3พันล้านครั้งต่อวัน
    • ฟิลิปปินส์ - มีการส่ง 5 พันล้านข้อความในหนึ่งวัน
    • มาเลเซียใช้เวลาต่อ Session ในการออนไลน์ประมาณ 5.3 นาที
    • อินโดนีเซียดู Mobile Pages ถึง 633 Pages ต่อเดือนต่อคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในโลก
  • หนึ่งในปัจจัยการเติบโตคือ ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต, การชำระเงินแบบ cashless การเติบโตของเศรษฐกิจกลุ่มฮาลาล (30-40% ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นมุสลิม), บริษัทต่างๆ เริ่มเห็นความสำคัญของซอฟแวร์และกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาเต็มใจที่จะซื้อ และที่สำคัญคือ ภาครัฐฯ ให้การสนับสนุนและผลักดันธุรกิจ Startup รวมถึงกิจกรรมขององค์กรต่างๆ ก็สะท้อนถึงการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด

ความท้าทายของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  • เนื่องด้วยตลาดมีความแตกต่างกันไม่น้อย เรื่องของกฎระเบียบในการดำเนินธุรกิจที่นี่ก็เช่นกัน แม้แต่คนละเมือง อาทิ โฮจิมินห์ กับฮานอยยังไม่เหมือนกันเลย นักลงทุนที่เข้าสู่ตลาดนี้ต้องทำความเข้าใจความแตกต่างและพยายามหาคนที่ทำงานในแต่ละประเทศที่เข้าใจแต่ละตลาดให้ได้ และช่วยพวกเขาในการประสานงาน/ทำงานร่วมกับภาครัฐฯ
  • มีผู้เล่นต่างประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี ที่วิ่งเข้ามาในตลาดนี้ ในขณะที่ตลาดอินเดียและจีนผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นในประเทศของตนเองเสียมากกว่า
  • การมาของ Trump เรื่องนี้คงยังต้องดูกันต่อว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับภูมิภาคนี้บ้างหลังจาก Trump เข้ารับตำแหน่ง

คาดการณ์ 8 ภาคธุรกิจที่มีศักยภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีก 3-5 ปีนี้

Jeffrey Paine Managing Partner และ Co-Founder จาก Golden Gate Ventures พูดต่อในหัวข้อนี้ได้อย่างน่าสนใจ และนี่คือสิ่งที่กำลังมาในแต่ละหมวด

B2B eCommerce

  • eCommerce ที่เจาะไปด้าน Supply Chain Procurement
  • B2B Marketplaces แบบเฉพาะทาง
  • eCommerce ที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีก แบรนด์ และผู้ผลิตสามารถยกขึ้นไปอยู่โลกออนไลน์ได้
  • Differentiated eCommerce ที่เน้นในการสร้างคอนเทนท์คุณภาพ สร้างการมีส่วนร่วม และคอมมูนิตี้ที่แข็งแรง มากกว่าเพียงแค่การขายของ

FinTech

  • เทคโนโลยีการพิจารณาเครดิตเพื่อปล่อยสินเชื่อ (Credit Scoring) กำลังบูม และเกิดขึ้นแล้วในอินโดนีเซีย
  • One-stop Financial Platform มีแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นคล้ายๆ กันหลายอัน แต่สุดท้ายแล้วจะมีผู้ชนะในภูมิภาคนี้
  • Bank ที่อยู่บนโมบายอย่างเดียว เกิดขึ้นที่ตลาดพัฒนาแล้ว แต่ก็มีรายที่น่าจับตาในตลาดเวียดนาม
  • ระบบที่ทำให้คนสามารถซื้อประกันได้ด้วยตนเองเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ
  • Blockchain Infrastructure

Entertainment

  • Video blogging และ Live streaming application
  • Mobile short video platform ที่สร้างการมีส่วนร่วมสูง
  • In-App multi-format advertisement
  • รูปแบบใหม่ๆ ของ AdTech

Automotive

  • ระบบการจัดการที่จอดรถ
  • B2B และ B2C car maintenance platform ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในเวียดนามและอินโดฯ

 Healthcare

  • Data Analytic จะถูกนำมาใช้มากขึ้นในโรงพยาบาลและสถาบันดูแลสุขภาพ
  • การนำ IoT และ sensor ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในโรงพยาบาล
  • แพลตฟอร์มการดูแลสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในตลาดที่มีผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะไทยและสิงคโปร์
  • Doctor-on-Demand และ Telemedicine Platforms ในพื้นที่ห่างไกล

 Enterprise SAAS

  • ซอฟแวร์ในองค์กรด้าน Cyber Security และ AI จะเติบโต อย่างระบบ Customer service และงานต่างๆ เกี่ยวกับทีมขายก็จะถูก Automated มากขึ้น

 Transport

  •  โมเดลแบบ Uber สำหรับรถบรรทุกการขนส่งระยะไกล
  • นวัตกรรมด้นา Transportation logistics supply chain อาทิเช่น การวางแผนเส้นทาง

AgriTech – finally moving forward in SEA

  • การนำข้อมูล Big Data มาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตรกรรม
  • แพลตฟอร์มการปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกร
  • Market Linkage model ที่เชื่อมโยงให้เกษตรกรได้มีโอกาสเชื่อมโยงกับผู้ซื้อ

จีนจะกลายเป็น Silicon Valley แห่งใหม่?

ในช่วงนี้มีนักลงทุนจากจีนมาร่วมให้ความรู้ถึง 3 ท่านได้แก่

  • Wei Hopeman, Managing Director แห่ง Arbor Ventures
  • Oscar Ramos, Program Director แห่ง Chinaccelerator
  • Grace Yun Xia, Senior Director, Corporate Strategy and Investment  แห่ง Tencent

ส่วน Moderator กิตติมศักดิ์ไม่ใช่ใครอื่นคุณพอล พลภัทร อัครปรีดี Managing Director ด้าน Corporate Venture Capital แห่ง Digital Ventures นั่นเอง

FFFF_China

  • เพียงแค่ 15 ปี ตลาดการลงทุนของจีนก็กลายเป็นใหญ่อันดับ 2 ของโลก ซึ่งเงินทุนนั้นไม่ได้มาจากแค่กลุ่มนักลงทุนกลุ่มเดิมๆ แต่มาจากบริษัทอย่าง Tencent, Baidu และ Alibaba ซึ่งเป็นบริษัทที่เติบโตมาจากโลกออนไลน์ทั้งสิ้น
  • สิ่งที่เกิดขึ้นในจีนกำลังจะเกิดขึ้นในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีก 5-7 ปีข้างหน้านี้ ประเทศในแถบนี้ยังไม่เห็นรายใหญ่ๆ อย่าง Tencent หรือ Alibaba แต่...ตลาดกำลังดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน และผู้ประกอบการในแถบนี้ที่เข้าใจว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในจีนเวลานี้ จะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขาในอนาคต
  • เทรนด์ใหญ่สุดของ Startup จีนคือพยายามนำเทคโนโลยีที่พวกเขามีเข้ามาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนรายอื่นๆ ในขณะที่นักลงทุนจีนก็มุ่งหน้าสู่ตลาดนี้เช่นกันและพยายามสร้างความหลากหลายใน portfolio การลงทุนของพวกเขา ไม่ใช่แค่บริษัทยักษ์ใหญ่ในจีนเท่านั้น แต่รวมถึงนักลงทุนจากจีนก็เช่นกัน
  • ภาครัฐฯ ของจีนกำลังพยายามทำงานร่วมกับ Startup และจับมือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อจะสร้าง Framework ที่ผลักดันไปสู่นวัตกรรม
  • ถ้าให้พูดถึงผู้ประกอบการจีน? ต้องบอกว่ามีการแข่งขันที่รุนแรงอย่างมาก และในที่สุดกลายเป็นการสร้างผู้ประกอบการที่มีคุณภาพระดับโลกนั่นเอง
  • Grace Yun Xia กล่าวว่า ความสามารถของทีมวิจัยและพัฒนา การเข้าถึงแหล่งทุนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจ Startup ต้องบอกว่าจีนนั้นแซงหน้า Silicon Valley ไปแล้ว
  • ชาวโลกอาจยังไม่รู้ว่ามีเทคโนโลยีหลากหลายอย่างที่จีนพัฒนาได้เอง ประชากรของจีนก็ปรับตัวและพร้อมใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดย Startup ได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่คนอายุเยอะที่นั่นก็ยังมีทักษะในการใช้สมาร์ทโฟนกันแล้ว
  • ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตลาดจีนหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ตามแต่ ถ้าคุณเป็นบริษัทต่างชาติแล้วหล่ะก็ การมี local partner เป็นสิ่งจำเป็น ให้มองหาพาร์ทเนอร์ที่เพิ่มคุณค่า (add value) ให้กับคุณได้ แต่บางทีตลาดจีนก็ใช่ว่าจะเหมาะกับชาวต่างชาติ Oscar Ramos กล่าวว่า บางทีบริษัทต่างชาติที่เข้าไปทำธุรกิจในจีน เมื่อทำธุรกิจไปสักระยะก็อาจตระหนักว่าจริงๆ แล้วตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจจะเหมาะกับพวกเขามากกว่า
  • Grace Yun Xia กล่าวว่า จีนมีลักษณะเฉพาะคือมีผู้เล่นรายใหญ่มากๆ อยู่อย่าง Alibaba, Tencent และ Baidu พวกเขามีความสำคัญในการขับเคลื่อน ecosystem ในจีน และบริษัทเหล่านี้กำลังก้าวจาก core product ecosystem ไปสู่ collaborative ecosystem โดยการสร้าง ecosystem นั้นต้องเข้าซื้อกิจการในธุรกิจที่แตกต่างออกไป รวมถึงการลงทุน และการทำพาร์ทเนอร์ด้วย ทุกแพลตฟอร์มดึงเอา Startup ที่มีนวัตกรรมเข้ามาเพื่อนำเสนอประสบการณ์ลูกค้าแบบ End-to-End
  • หนึ่งในปรากฎการณ์หนึ่งที่ทาง Chinaccelerator เล่าให้ฟังคือ มีหลายบริษัทที่มี traction ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่สามารถหารายได้หรือเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจแบบยั่งยืนได้ในตลาดจีน แต่พอพัฒนาผลิตภัณฑ์ในจีนก่อน แข็งแรงในตลาดจีน แล้วค่อยขยายมาตลาดนี้กลับสำเร็จก็เป็นได้

อัปเดตสถานการณ์ของ Corporate Venture Capital (CVC) landscape ในไทย

ในช่วงนี้ได้รับเกียรติจากคุณพอล พลภัทร อัครปรีดี Managing Director, Corporate Venture Capital, Digital Ventures มาอัพเดตเรื่องราวที่กำลังเป็นเทรนด์ร้อนแรงในองค์กรขนาดใหญ่เวลานี้นั่นคือ Corporate Venture Capital

Paul Ark

  • ยุคของ Corporate Venture Capital ในไทยนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วงด้วยกัน
    • Wave 1: Telecom – AIA, DTAC, True, Ascend ในช่วงเริ่มแรก เราเห็นว่ามีนักลงทุนต่างประเทศ และฟากของ Telco นั้นเข้ามา เพราะในช่วงเวลานั้นโฟกัสส่วนใหญ่อยู่ที่ฟากของโมบายแพลตฟอร์ม
    • Wave 2: SCB, KBank, Krungsri, Bangkok Bank 4 ปีผ่านมาเราได้เห็น FinTech และธนาคารตื่นตัว จริงๆ ไม่ใช่แค่ในแถบนี้แต่รวมถึงทั่วโลก ปี 2016 และ 2017 เราได้เห็นกิจกรรมเกิดขึ้นจากฟากของ CVC มากมาย นำโดยกลุ่มธนาคาร
    • Wave 3: SCG, PTT, Ananda, Sansiri มาถึงตอนนี้เราเริ่มเห็นองค์กรอื่นๆ เข้ามาด้วยโมเดลการสร้างนวัตกรรม โครงการ Startup Accelerator และการลงทุนต่างๆ
  • คุณพอลกล่าวว่าสำหรับธนาคารที่มีสินทรัพย์กว่า 80 พันล้านเหรียญฯ การลงทุนใน Accelerator และ Hackathons ถือเป็นเงินส่วนน้อยก็จริง แต่ก็หมายถึงความอยู่รอดของธุรกิจด้วยเหมือนกัน นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเรายอมลงทุน และเป็นหนทางในการที่จะหาดีลที่มีศักยภาพด้วย
  • ในแง่ของ Global Venture Capital Landscape เอเชียกลายเป็นตลาดที่สำคัญ มูลค่าการลงทุนทั่วโลกในปี 2016 คือ 127.4 พันล้านเหรียญฯ มีดีลเกิดขึ้น 13,665 ดีล โดยที่ 31%  เป็นเงินที่ลงทุนในเอเชีย เป็นมูลค่า 39 พันล้านเหรียญฯ โดยมีทั้งสิ้น 1,742 ดีล ซึ่งมากกว่าเท่าตัวของการลงทุนในยุโรป
  • Corporate Venture Capital มีแนวโน้มในการลงทุนใน Late Stages มากกว่าระยะ Early Stage ดังนั้นส่วนใหญ่เราจะได้เห็นเงินทุนจาก Corporate Venture Capital ที่ลงทุนในระดับ Series A หรือ Series B ใน Startup มากกว่า
  • ในต่างประเทศใครเป็น Corporate Venture Capital กันบ้าง? ต้องเรียกว่ามีหลากหลายสุดๆ ทั้งสาย Health Care, Finance, Automotive, FMCG, Energy, Media ต่างก็มี VC เพื่อค้นหานวัตกรรม จากบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Samsung, Rakuten ไปจนถึงบริษัทที่ไม่ได้มาจากโลกเทคโนโลยีด้านไอทีโดยตรงอย่าง American Express, BMW หรือแม้แต่ L’Oreal
  • Venture Capital ในเอเชียไม่ใช่สิ่งที่เพึ่งมาใหม่ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ต่างหาก คุณพอล กล่าวทิ้งท้าย

พูดคุยกับหัวเรือใหญ่ Digital Ventures

ในช่วงสุดท้ายทีมงานมีโอกาสได้สัมภาษณ์ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการบริหาร  Digital Ventures กล่าวกับ techsauce ว่า “หน่วยงาน Digital Ventures ถือว่าเป็นยูนิตที่มีความคล่องตัวสูง เราสนับสนุน Fintech Ecosystem ในแง่มุมต่างๆ

SCB FFFF - Thana pic

แง่การลงทุน - ตอนนี้เราลงทุนในต่างประเทศไปแล้ว 2 กองทุนคือ Golden Gate Ventures และ nyca เราได้เห็น Startup ต่างๆ ที่น่าสนใจจากทั่วโลก ซึ่งในอนาคตก็มีโอกาสได้ลงทุนเพิ่มหลังจากที่เห็นศักยภาพของ Startup กลุ่มนี้ และนอกจากนี้เรามีการลงทุนตรงใน Startup สาย Blockchain อย่าง Ripple เพื่อสร้างรากฐานและเครือข่ายธุรกิจ ในระบบนิเวศด้านฟินเทคในต่างประเทศ และความรู้ที่ได้กลับมาส่งต่อให้กับธนาคารไทยพาณิชย์ ตลอดจนลูกค้าองค์กรของธนาคารในภาคธุรกิจไทยให้พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลไปพร้อมกัน  

แง่การสนับสนุน Startup - เรามีการเปิด Accelerator เพื่อเป็นเสมือนโรงเรียนให้ความรู้กับ Startup ที่เข้าโครงการ เราช่วยดึงพาร์ทเนอร์องค์กรใหญ่ๆ เข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้พวกเขาได้เติบโต ซึ่งหลังจากจบ Batch นี้ เราก็จะเปิด Batch ใหม่อีกครั้งในปีนี้

แง่การให้กับคอมมูนิตี้ - เราสร้างสื่อออนไลน์เพื่อให้ความรู้กับผู้สนใจด้านเทคโนโลยี และ FinTech นำเสนอเนื้อหาต่างๆ ที่คนกำลังให้ความสนใจอย่าง Blockchain, Machine Learning จัดงานสัมมนา Faster Future SCB FinTech Forum ให้กับลูกค้า และพาร์ทเนอร์ของทางธนาคาร ทำ Business Matching สร้างให้เกิดเครือข่ายที่แข็งแรง”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

‘Yindee’ แชตบอตในแอป ttb Touch ใช้ Gen AI จับความรู้สึก ตอบเร็วและฉลาดกว่าที่เคย

Yindee แชตบอตที่อยู่บน Mobile Banking ของ ttb ทำงานผ่านแอป ttb Touch สามารถจับ Mood & Tone ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ว่าขณะแชตนั้น ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ด้วย Generative AI โดย Azur...

Responsive image

คนอยากใช้พลังงานเยอะ แต่โลกอยากได้ปล่อยคาร์บอนน้อย บริษัทพลังงานแก้ไขความย้อนแย้งนี้อย่างไรดีในยุค AI

The Energy/Prosperity Paradox หรือภาวะย้อนแย้งแห่งพลังงาน และความเจริญ ถือเป็นความท้าทายระดับโลกที่บริษัทด้านพลังงานกำลังพบเจอ เพราะในตอนนี้โลกกำลังต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่เ...

Responsive image

เศรษฐกิจไทย ‘ฟื้นตัว’ แล้วหรือยัง ? ฟังความเห็นจาก 3 ผู้นำธุรกิจยักษ์ใหญ่ไทย

ค้นพบศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา พร้อมโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในภาคอุตสาหกรรม การเงิน และเทคโนโลยี...