ทำไมแต่ละประเทศต้องมี AI ของตัวเอง ? ฟัง Jensen Huang คุย Emmanuel Macron ในงาน VivaTech 2025

“คุณไม่สามารถเอาความฉลาดของประเทศคุณไปให้คนอื่นทำแทนได้… AI ไม่ใช่แค่โค้ด แต่มันรวมถึงวัฒนธรรม ความรู้ และคุณค่าของประเทศ” 

ประโยคนี้เป็นคำกล่าวเปิดที่ Jensen Huang พูดกับ Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส บนเวที VivaTech 2025 งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งจัดขึ้นที่ปารีสทุกปี และกลายเป็นเวทีสำคัญที่ผู้นำระดับโลก นักธุรกิจ และสตาร์ทอัปจากทั่วโลกมาเปิดตัวความร่วมมือใหม่ ๆ

และไฮไลต์สุดร้อนแรงของปีนี้ คือการขึ้นเวทีของ Jensen Huang แห่ง NVIDIA พร้อม Arthur Mensch ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัป AI สัญชาติฝรั่งเศส Mistral AI โดยมีประธานาธิบดี Emmanuel Macron เข้าร่วมและให้การสนับสนุนอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การพูดคุยเรื่องเทคโนโลยี แต่คือการประกาศจุดยืนของฝรั่งเศส ว่าต้องการเป็นผู้นำด้าน AI ด้วยความสามารถของตนเอง และไม่ยอมเอาสมองของชาติไปฝากไว้กับใคร

ทำไมแต่ละประเทศต้องมี AI ของตัวเอง ?

Huang ชี้ว่า "คุณไม่จำเป็นต้องมี AI ที่ดีที่สุดในโลกและเป็นแบบทั่วไป แต่คุณต้องการ AI ที่ดีที่สุดสำหรับคุณเอง" นั่นเพราะ AI ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของอัลกอริทึมหรือข้อมูล แต่มันเกี่ยวพันกับความรู้ วัฒนธรรม ค่านิยม ประวัติศาสตร์ และสามัญสำนึกของผู้คนในประเทศนั้น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นความฉลาดของชาติ และเมื่อมันมีค่ามากขนาดนี้ ก็ไม่ควรถูกส่งออกให้ใครควบคุมหรือพึ่งพาคนอื่นในการพัฒนา

เขาเน้นว่าแม้การใช้ AI สาธารณะหรือคลาวด์จากต่างประเทศจะไม่ผิด แต่ประเทศควรมีเทคโนโลยีของตนเอง โดยเฉพาะเมื่อประเทศฝรั่งเศสมีทุนมนุษย์และทรัพย์สินทางปัญญามากมาย ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และวิศวกรรมล้ำลึก แต่สิ่งที่ขาดคือพลังสนับสนุนและความมุ่งมั่นทางการเมืองเพื่อเร่งให้เกิดการสร้างสรรค์ภายในประเทศ

Macron รับไม้ต่อและพูดอย่างหนักแน่นว่า ฝรั่งเศสจะไม่ยอมเป็นเพียงผู้บริโภคเทคโนโลยี แต่ต้องเป็นผู้สร้าง “นี่คือการต่อสู้เพื่ออธิปไตยของเรา เราต้องการคลาวด์ของเราเอง Data Center ของเราเอง ความสามารถในการประมวลผลของเราเอง และบริการพื้นฐานที่จะปกป้องปัญญาของประเทศไว้”

AI คือการต่อสู้เพื่ออธิปไตยทางเทคโนโลยี

จากการประชุมในครั้งนี้มีอยู่หนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ได้ถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของประธานาธิบดี Emmanuel Macron โดยตรง เขาเล่าย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อน ที่ Jensen Huang เดินทางไปเยือนทำเนียบเอลิเซ่ พร้อมข้อเสนอที่เฉียบคมแต่จริงจัง

Huang ได้ขอให้ฝรั่งเศสช่วยสนับสนุน Mistral AI สตาร์ทอัปฝรั่งเศสที่มีศักยภาพสูงในด้าน AI แต่ยังขาดพาร์ตเนอร์รายใหญ่ที่จะช่วยจุดระเบิดการเติบโตของบริษัท ด้าน Macron เล่าต่อว่า เมื่อเขาฟังคำถามจบ เขามีคำถามเดียวสั้นๆ ที่ผุดขึ้นมาก็คือ “แล้วต้องการใคร?”

ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น Macron ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเริ่มโทรหาผู้นำของบริษัทใหญ่ระดับประเทศทีละราย ไม่กี่วันหลังจากนั้น บริษัทระดับแนวหน้าของฝรั่งเศสหลายแห่งก็ตอบรับเข้ามาเป็นลูกค้ารายแรกของ Mistral AI ทำให้บริษัทเล็ก ๆ แห่งนี้มีจุดยืนทางธุรกิจชัดเจนขึ้น และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือครั้งใหญ่กับ NVIDIA ที่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการบนเวที VivaTech ท่ามกลางสายตาของทั้งยุโรปและโลก

นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ยังไม่มีหลายประเทศสามารถทำได้ นั่นคือการรวมพลังของรัฐบาล ภาคเอกชน และผู้พัฒนาเทคโนโลยี ให้ทำงานเป็นทีมเดียวกันและเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันได้

สำหรับ Macron นี่คือ การต่อสู้เพื่ออธิปไตยทางเทคโนโลยี

สำหรับ Jensen Huang นี่คือ การสร้างระบบหมุนเวียนใหม่ให้เศรษฐกิจฝรั่งเศส

สำหรับ Arthur Mensch นี่คือ ตัวเร่งที่ช่วยเปลี่ยนบริษัทเล็กให้เติบโตในระดับอุตสาหกรรม

Macron มองว่าการลงทุนใน AI ไม่ใช่เพียงเพื่อความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเพื่อปกป้องค่านิยม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของยุโรป เขายังระบุถึงความทะเยอทะยานที่จะก้าวไปต้นน้ำในการผลิตชิปในฝรั่งเศส ไม่ใช่แค่การนำชิปไปใช้เท่านั้น

Arthur Mensch และวิสัยทัศน์ของ Mistral AI ในการขับเคลื่อน AI ของยุโรป

ในฐานะ "ความหวังที่ดีที่สุดของยุโรป" ในสนามรบ AI, Arthur Mensch ซีอีโอของ Mistral AI ได้ประกาศก้าวต่อไปที่สำคัญของบริษัท

Arthur Mensch เปิดเผยว่า Mistral AI กำลังเปลี่ยนผ่านจากการเป็นเพียงผู้พัฒนาโมเดล ไปสู่การเป็น ผู้ให้บริการคลาวด์ AI แบบครบวงจร (Full-stack AI Cloud Provider) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรในยุโรปที่มองหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ

"เรายังคงทำงานในส่วนของโมเดลอยู่ แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราจะหันมาดำเนินการบนแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของเราให้มากขึ้น และที่สำคัญคือเป็นการปรับใช้ร่วมกัน"

ความร่วมมือกับ NVIDIA คือหัวใจสำคัญของแผนการนี้ โดย Mistral AI จะนำระบบ NVIDIA Grace Blackwell รุ่นล่าสุด ซึ่งประกอบด้วย GPU Blackwell และ Blackwell Ultra ถึง 18,000 ตัวในเฟสแรก มาใช้เพื่อสร้างแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์แบบครบวงจร

"เรากำลังร่วมกันสร้างอนาคต AI ของยุโรปผ่านความร่วมมือกับ NVIDIA โดยผสานความเป็นอิสระเชิงกลยุทธ์เข้ากับความเชี่ยวชาญด้าน AI ของเราและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดของ NVIDIA โครงสร้างพื้นฐานใหม่นี้จะมอบขุมพลังการประมวลผลที่ดีที่สุดสำหรับงาน AI ให้แก่องค์กรธุรกิจและภาครัฐ"

เขาเน้นย้ำว่าแนวทางของยุโรปต่อ AI จะต้อง "ลงมือปฏิบัติจริงมากขึ้น" (much more hands-on) โดยองค์กรต่างๆ ต้องนำข้อมูลจากการดำเนินงานของตนเองมาผนวกรวมกับระบบ AI เพื่อสร้าง "องค์ความรู้และระบบอัจฉริยะ" (intelligence) ของตนเองขึ้นมา ไม่ใช่แค่ในระดับชาติ แต่ลงลึกไปถึงระดับองค์กร

ความร่วมมือและอนาคตที่เชื่อมโยงกัน

ความร่วมมือระหว่าง Mistral AI และ NVIDIA ไม่ใช่แค่เรื่องของสองบริษัท แต่เป็นภาพสะท้อนของระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่งของฝรั่งเศส โดยรัฐบาลได้อัดฉีดงบประมาณกว่า 109 พันล้านยูโร ภายใต้แผนการลงทุน France 2030 เพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน AI

ด้วยความพร้อมด้านแหล่งพลังงานไฟฟ้าปราศจากคาร์บอน, เครือข่ายไฟฟ้าแรงสูงที่กำลังขยายตัว และศูนย์ข้อมูล AI คาร์บอนต่ำกว่า 30 แห่ง ทำให้ฝรั่งเศสมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน AI ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลก

นอกจาก Mistral AI แล้ว บริษัทและสถาบันชั้นนำอื่นๆ ในฝรั่งเศส เช่น Scaleway, Orange Business, L'Oréal Groupe, SNCF, Schneider Electric และ EDF ต่างก็กำลังสร้างนวัตกรรมบนโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ NVIDIA ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการเติบโตของระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่งและเชื่อมโยงกันทั้งระบบ

รับชม Leaders Talk AI: Macron, Mensch & Huang Unplugged ได้ที่: Youtube.com