27 ปีที่แล้ว บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC ผู้ให้บริการด้านไอทีให้กับองค์กรขนาดใหญ่ ก่อตั้งขึ้นด้วยพนักงานที่มีไม่ถึง 10 คน นานวันเข้าก็มีลูกค้าองค์กรเพิ่มขึ้น บริษัทก็ขยับขยายด้วยการจัดตั้งแผนกใหม่ เกิดเป็น Silo ใหม่ที่แยกซัพพอร์ตลูกค้าตามเทคโนโลยีและความต้องการที่เปลี่ยนไป จนปัจจุบัน MFEC ขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน IT แบบครบวงจร หรือ End-to-End Infrastructure

ที่ผ่านมา MFEC มีคนทํางานด้านเทคนิคกระจายอยู่ทุกหัวระแหง และทักษะ (Skill) ของคนไอทีนั้นก็ทับซ้อนกันอยู่บ้าง คุณเล้ง - ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) MFEC เล็งเห็นความทับซ้อนดังกล่าว จึงให้ คุณดำรงศักดิ์ รีตานนท์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (CCSO) ในขณะนั้น วางแผนปฏิรูปธุรกิจองค์กร จัดทัพบุคลากรใหม่ให้สามารถสร้างผลลัพธ์ (Outcome) และส่งต่อบริการ เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
“เพราะต้นทุนเดียวที่มีอยู่คือเรื่องของ ‘คน’ เราจึงจัดกรุ๊ปคนทำงานด้านเทคโนโลยีต่างๆ ให้มาอยู่ในกรุ๊ปเดียวกัน เรียกว่า โดเมน (Domain) ส่วนเทคโนโลยีที่มันเกี่ยวเนื่องกันก็แบ่งเป็น 2 โดเมน คือ โดเมนที่คุณเล้งทําไปเมื่อปี 2024 เป็น Domain หลักที่เกี่ยวข้องกับ Data และ Data+ และโดเมนที่เป็น Infrastructure ซึ่งเริ่มทําแผนในช่วงปลายปี 2024 และปักธงตั้งกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Infrastructure ในปี 2025 โดยตั้งชื่อทีมใหม่ว่า ว่า IOS – Infra หรือ IT Offering Service - Infrastructure”
คุณดำรงศักดิ์อธิบายเพิ่มว่า ผู้ถือหุ้นหลักของ MFEC เป็นญี่ปุ่น และญี่ปุ่นเรียกผู้นำเสนอหรือให้บริการด้านไอทีว่า IOS : IT Offering Service ทาง MFEC จึงตั้งชื่อทีมว่า IOS ตามคำที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เรียก ขณะเดียวกัน ตำแหน่งของคุณดำรงศักดิ์ก็เปลี่ยนเป็น CIIO : Chief Infrastructure and Integration Officer หรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงสร้างพื้นฐานและการอินทิเกรต
“เราดึงทีมที่เกี่ยวข้องกับ Server Storage ทีมที่เกี่ยวข้องกับ Networking ทีมที่เกี่ยวข้องกับ Cyber Security ทีมที่เกี่ยวข้องกับ Cloud และทีมที่เป็นสาย Infrastructure ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ทั้งหมดมาอยู่ทีมเดียวกัน ภายใต้โดเมนเดียวกัน โดยเอาคนกลุ่มนี้มาเขย่าแล้วแบ่งกลุ่มซอยย่อยใหม่ออกเป็น 3 ทีมหลัก ได้แก่ Cloud Solution Services, Information Security และ Infrastructure Engineering”
สำหรับภาคกิจหลักของทีม IOS - Infrastructure คุณดำรงศักดิ์บอกว่า MFEC มุ่งให้บริการนวัตกรรม Cloud-native, AI-ready Infrastructure และ Holistic Cybersecurity ที่ตอบโจทย์องค์กรได้ทุกขนาด โดยมี 3 ทีมย่อยเป็นผู้ขับเคลื่อนภารกิจ ได้แก่

“วันนี้ MFEC มีทั้งคนสร้าง Data Center ได้ตั้งแต่ห้องเปล่า มีทีมคลาวด์ที่ทําคลาวด์ได้ 5 แบรนด์ เป็นคลาวด์ฝรั่ง 3 คลาวด์จีน 2 มีทีมทำ Security เรียกว่าเป็น Security Holistic เราให้บริการได้ตาม Compliance มาตรฐานโลก แค่คุณเตรียมแอปพลิเคชันให้พร้อมนำมา Deploy”
ยกตัวอย่างลูกค้าสถาบันการเงินที่ต้องการใช้โครงสร้างพื้นฐานและระบบความปลอดภัยซึ่งได้มาตรฐานโลก อย่าง PCI DSS (Payment Card Industry Data Security Standard) หรือ มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยข้อมูลสําหรับอุตสาหกรรมบัตรชําระเงิน ซึ่ง MFEC เป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการแบบ End-to-End และได้รับการยอมรับระดับโลก
“เราจึงเป็นผู้บริการโซลูชันที่ได้มาตรฐาน แตกต่างจากผู้ให้บริการเจ้าอื่น และยังมีความ Unique ในตลาดอีกด้วย”

คุณดำรงศักดิ์เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า การจัดทัพคนไอทีด้วยการแบ่งกลุ่มใหม่สามารถสร้างผลกระทบต่อองค์กรได้ทั้งเชิงบวกและลบ แต่อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่อดหวั่นไม่ได้ เพราะคนทำงานก็คือคนกลุ่มเดิม งานก็อาจออกมาเหมือนเดิม
“พอรวมเป็นทีม IOS - Infra ปรากฏว่ามันเกิดเป็นผลกระทบในเชิงบวก แทนที่จะเป็นลบอย่างที่เรากลัว เพราะเดิมทีแต่ละทีมทำงานเป็นไซโล (Silo) มันจะมีกําแพงหนา แล้วมักมองว่าอันนี้งานเธอ อันนี้งานฉัน แต่พอมารวมทีม ทุกคนคิดว่าเขาอยู่ทีมเดียวกัน อยู่โดเมนเดียวกันหมดเลย ฉะนั้นทิศทางงานต่างๆ ที่มันเคยทับซ้อน ตอนนี้มันถูกเคลียร์หมด ทุกคนรู้หน้าที่ชัดเจนว่า ใครจะต้องทําอะไร อยู่ส่วนไหน และพออยู่ใต้ร่มเดียวกัน มีความรับผิดชอบร่วมกัน มันไม่มีกําแพง ไม่มีแรงต้านที่จะมาบอกว่า อันนี้ไม่ใช่งานฉัน อย่างเช่นทีมที่ทํา Infrastructure จุดอ่อนคือ เขาไม่ถนัดงาน Cloud ถ้าเซลล์มาถามก็จะบอกว่า ให้ไปถามทีม Cloud แต่พอเป็นทีมเดียวแล้วทุกอย่างลงตัวดี น้องๆ ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือกัน แนะนำให้คุยกับคนนั้นคนนี้ได้เลย และทำงานกันราบรื่นกว่าเดิม ทำให้ทีมมีความสุขมาก” คุณดำรงศักดิ์ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ
หลังจากสลายทีมทำงานแบบ Silo มาเป็นทีม IOS Infrastructure ผลปรากฏชัดว่า ทีมงานทำงานประสานกันได้ดีและกลมกลืน (Harmony) เช่นเดียวกับการบรรเลงเพลงของวงออร์เคสตรา
วันนี้ทุกคนถือความรับผิดชอบร่วมกัน มุ่งผลลัพธ์เดียวกัน ซึ่งเมื่อมารวมกันแล้วมัน Blend ผสมกลมกลืนและทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นกว่าเดิม ตรงนี้จึงเป็นจุดต่างจากองค์กรอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะให้บริการด้านไอทีหรือ AI ได้ไม่ครบวงจร
“เปรียบว่าเราเป็นวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรีทุกชิ้น ถ้าลูกค้าบอกว่าอยากฟังเพลง เราเอากีต้าร์ตัวเดียวไปโซโล่ให้ลูกค้าฟังได้ ถ้าลูกค้าบอกว่าเบื่อแล้ว อยากฟังเพลงที่ใช้เครื่องดนตรีแบบ Trio หรือวันพรุ่งนี้อยากฟังเพลงออร์เคสตรา เรามีครบก็เล่นให้ฟังได้ แต่อยากให้ลองคิดดูว่า ถ้าอยู่ในองค์กรที่ไม่มีความครบเครื่อง ภาพนี้มันเกิดขึ้นไม่ได้แน่ๆ" คุณดำรงศักดิ์อธิบาย

เพื่อให้เห็นภาพเดียวกัน คุณดำรงศักดิ์เปรียบเทียบ ‘งานบริการไอทีโซลูชันให้ลูกค้าองค์กร’ กับ ‘ธุรกิจบริการสำหรับคนที่อยากสร้างบ้านแต่งบ้าน’ ว่าทุกคนสามารถไปร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างแล้วบอกว่า อยากได้วัสดุมาทำโต๊ะสักตัว พนักงานอาจแนะว่า ต้องซื้ออะไรไปสร้างโต๊ะบ้าง แล้วให้นำไปประกอบเอง ซึ่งงานบริการไอทีและโซลูชันก็ทำแบบเดียวกันได้ แนะนำได้ แต่ MFEC จะให้บริการแบบใส่ใจรายละเอียดมากกว่านั้น
“จินตนาการว่าเราเดินเข้าไปในอิเกีย พนักงานจะพาเราไปนั่งคุยว่า ห้องพี่เป็นยังไง โต๊ะ…ชอบแบบไหน สไตล์ไหน เอาแบบนี้ไหม เราจะถามต่อว่า พี่มีเก้าอี้หรือยัง ใช้เก้าอี้แบบไหนดี แล้วห้องพี่สีอะไร พี่มีโคมไฟไหม แต่ถ้ามาที่สายบริการ Infrasturcture ของ MFEC อย่าลืมนะครับ ทีมอยู่กันแบบไม่มีกําแพงแล้ว นั่นแปลว่า ได้ยินลูกค้าพูดอะไร จะบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องของฉันไม่ได้ นี่คือปรากฏการณ์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน MFEC รวมถึงตัวผมเอง และเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้า”
ต่อจากการทำงานร่วมกัน เข้าใจกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สิ่งดีๆ เหล่านี้ย่อมถูกส่งต่อไปยังงานบริการลูกค้าที่ทีมใส่ใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ภาพใหม่ของ MFEC
เราอยากเป็น One Stop Shopping ด้าน Infrastructure ที่เกี่ยวข้องกับ AI
เพราะรับรู้ Pain Point หรือ ปัญหาจากองค์กรที่เข้ามาขอคำปรึกษาจำนวนมาก เช่น ใช้ AI ตัวไหนดี อยากได้ฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ สักเครื่อง อยากเทรนโมเดล AI เพื่อใช้เฉพาะในองค์กรแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ฯลฯ
“ลูกค้าบอกว่า ฉันไม่อยากย้าย Data บริษัทออกไปไหนเลย แน่นอนว่า ลูกค้าต้องถามหา GPU ของ NVIDIA ผมอยากบอกว่า พี่ไม่ต้องไปตามหา MFEC มีให้ใช้ เพราะเราคุยกับ Dell ได้ คุยกับ HP ได้ คุยกับ CISCO ได้ พร้อมยกทั้งตู้ไปวางให้แบบพร้อมใช้งานเลย หรือถ้าพี่มีโจทย์มากกว่านั้น อยากได้เรื่อง Security ด้วย อยากได้ตัวสแกน Application ที่เป็น AI ด้วย เราทำให้ได้เพราะเราพร้อมด้าน AI-ready Infrastructure และให้บริการได้ครบวงจรแบบ End-to-end ดังนั้น ถ้าลูกค้าเดินมาบอกว่าต้องการอะไรที่เกี่ยวกับ IT หรือ AI ทาง MFEC พร้อมเป็น One Stop Shopping ที่มีโซลูชันมากมายให้เลือกใช้”
นี่คือภาพลักษณ์ใหม่ของ MFEC และบริการด้าน IT & AI แบบจัดครบจัดเต็ม ที่ทีม IOS Infrastructure กำลังปูทางเข้าไปซัพพอร์ตความต้องการขององค์กรต่างๆ นั่นเอง

ในฐานะผู้บริหารระดับสูงที่ผลักดันการปรับโครงสร้างองค์กร (Re-organization) นับตั้งแต่ขั้นพูดคุยกับ CEO แบบไม่เป็นทางการ จนบริษัทประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 และบริษัทมีภาพลักษณ์ใหม่เป็น MFEC’s IOS Infrastructure คุณดำรงศักดิ์เองก็เปลี่ยนตำแหน่งใหม่จาก CCSO เป็น CIIO : Chief Infrastructure and Integration Officer โดยตั้งขึ้นใหม่จากคำที่อยู่ใน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ร่วมกับเขียน Prompt ให้ ChatGPT ช่วย
“ใน พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของไทยมีคำว่า ‘CII : Critical Information Infrastructure’ เป็นหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ รู้สึกว่าชอบและเห็นว่าเป็นงานที่เราต้องให้บริการกลุ่มที่เป็นความสําคัญของประเทศไทยอยู่แล้ว ทั้งกลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มระบบสารสนเทศ จึงนำ CI มาให้ ChatGPT บรรยายบทบาทหน้าที่ไปและบอกให้ช่วยตั้งชื่อตำแหน่งใหม่ให้หน่อย มันก็ตั้งมาหลายชื่อ แล้วผมชอบ CIIO : Chief Infrastructure and Integration Officer มันสื่อความหมายดี เป็นหัวหน้าที่ดูแล Infrastructure ให้ลูกค้า และ Integration งานด้วย คือเป็นคนทําหน้าที่ประกอบจิ๊กซอว์ให้มันตอบโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้า”
จิ๊กซอว์ที่คุณดำรงศักดิ์กล่าวถึงนั้น คือทุกเทคโนโลยีของทุกพาร์ตเนอร์ที่หยิบมาต่อกัน ซึ่งมี AI เข้ามารวมด้วย เป็นบริการ AI-ready Infrastructure กล่าวคือ โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสําหรับโจทย์ของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการใช้งาน (Deploy) แอปพลิเคชัน การปิดกั้นและป้องกันการเข้าถึง Data ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานหรือลูกค้า ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ต้องการการดูแลระบบแบบ 24x7 ฯลฯ เรียกได้ว่าด้านเทคนิคทั้งหมดทั้งมวลที่ลูกค้าองค์กรต้องการ MFEC รับทำตั้งแต่การให้คำปรึกษา ดีไซน์ระบบ วางระบบ ดูแลระบบ แก้ปัญหา ตลอดจนการอัปเกรดและขยายระบบ
“ปี 2024 ทุกคนพูดถึงแต่ AI ตอนนี้มี AI มีขี่อยู่ข้างบน วันนี้เรายังมีอะไรใหม่ๆ ให้ตื่นเต้นกับโลก AI ได้ทุกวัน วันนึงบอกว่า OpenAI ทําโมเดลมาเก่งสุดยอดแล้ว ผ่านไปไม่กี่เดือน Google เปิดตัว Gemini เวอร์ชันใหม่ แล้วคนยอมรับว่าโมเดลนี้เก่งกว่า ChatGPT แต่อีกไม่นาน เดี๋ยว OpenAI ต้องมีอะไรออกใหม่ หรือ Agentic AI ที่มันสั่งได้ ก็จะมีคนทําให้ใช้หลายๆ ตัว ความท้าทายต่อไปคือ องค์กรจะใช้งาน AI ที่พัฒนาไปเรื่อยๆ อย่างไร โครงสร้างพื้นฐานต้องเป็นแบบไหน แล้วจะ Integrate สิ่งต่างๆ ให้ใช้งานร่วมกันอย่างราบรื่นได้อย่างไร”
“รอดูได้เลย มันจะเป็นความใส่ใจที่เพิ่มขึ้นของ MFEC และเป็นไอเดีย เป็นดีไซน์ที่เราทำให้แบบจัดเต็ม” คุณดำรงศักดิ์ย้ำในตอนท้าย
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด