NFT Use Cases การใช้งานจริง ที่เป็นได้มากกว่าของสะสม | Techsauce

NFT Use Cases การใช้งานจริง ที่เป็นได้มากกว่าของสะสม

บทความโดย :  คุณอุกฤษฏ์ ตุลยนิติกุล Business Development Manager บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด

หากลองคิดดู NFT ได้เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในช่วง 2 ปีหลังที่ผ่านมา โดยได้อานิสงส์มาจากการเสนอราคาการประมูลผลงานของศิลปิน Beeple ที่เป็นศิลปินชื่อดังด้าน “ดิจิทัลอาร์ท” ในผลงานที่ชื่อว่า Everydays: The First 5000 Days โดยที่ผลงานดังกล่าวสามารถปิดราคาขายจากการประมูลไปได้กว่า 69.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวกว่า 2,300 ล้านบาท ซึ่งได้สร้างปรากฎการณ์สะเทือนวงการศิลปะ และวงการ NFT เป็นอย่างมาก เพราะราคาดังกล่าวถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และยังทำให้คนนอกวงการ NFT หันมาสนใจใน NFT มากขึ้น แต่ก่อนที่จะลงลึกในรายละเอียดเรื่องรูปแบบของ NFT ที่มีการใช้งานในปัจจุบัน ขอเกริ่นก่อนว่า

NFT คืออะไร แล้วจะพาผู้อ่านไปพบกับลักษณะการใช้งานที่น่าสนใจเกี่ยวกับ NFT มากขึ้นในช่วงท้ายของบทความ


NFT Use Cases

NFT คือ Non-Fungible Token ซึ่งแปลตามตัว คือ เป็นโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ “มีเพียงหนึ่งดียว” การมี NFT 2 อันที่หน้าตาของรูปภาพเหมือนกัน แต่ก็สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาที่แตกต่างกันได้ แม้ว่าจะเป็นรูปเดียวกัน ซึ่งต่างกันกับ Fungible Token หรือเหรียญ Cryptocurrency เช่น Bitcoin หรือ Ethereum ที่ทุกเหรียญมีลักษณะเดียวกัน สามารถทดแทนกันได้ 

และด้วยความที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาที่แตกต่างกันได้ ทำให้ NFT เหมาะกับการใช้งานกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ มีจำกัด และต้องการตรวจสอบแหล่งที่มา ด้วยลักษณะดังกล่าวผู้อ่านอาจยังไม่เห็นภาพว่า NFT สามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ประเภทใดได้บ้าง วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า NFT สามารถนำไปใช้ในงาน หรือผลิตภัณฑ์แบบไหน แม้ว่าตัวอย่างที่ผู้เขียนยกมา อาจไม่ใช่ทั้งหมดที่ NFT สามารถทำได้ แต่อยากให้ผู้อ่านนำตัวอย่างดังกล่าวไปต่อยอดเพื่อสร้างไอเดีย หรือประยุกต์ใช้กับธุรกิจตนเองเพื่อเป็นก้าวแรกสู่โลกดิจิทัลได้มากขึ้น โดยตัวอย่างเป็นอะไรบ้างนั้น เรามาดูกัน

ผู้เขียนขอแบ่งลักษณะการใช้งานของ NFT กว้างๆ ออกเป็น 3 จุดประสงค์ด้วยกัน คือ NFT เพื่อการสะสม / NFT เพื่อการใช้งาน / NFT เพื่อการสะสมและใช้งาน (โดยการจัดจุดประสงค์นี้เป็นการจัดโดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง)

NFT เพื่อการสะสม

เกิดมาสำหรับการสะสมโดยเฉพาะ ซึ่งมาจากคุณลักษณะที่เฉพาะ มีจำกัด และสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของ NFT ได้ โดยจะพบ NFT ลักษณะนี้ได้กับงาน ศิลปะ การ์ดที่เก็บโมเมนท์ต่างๆ ในรูปแบบวีดีโอขนาดสั้น เช่น การแข่งขันบาสเก็ตบอล หรือมวย เป็นต้น โดยวันนี้เราขอหยิบตัวอย่างของ NFT เพื่อการสะสม มาให้ดู 3 ตัวอย่างด้วยกัน

  • Bored Ape Yacht Club และ Crypto Punk โปรเจค NFT เพื่อการสะสมที่มูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุด 2 อันดับแรกในตลาด NFT เพื่อการสะสม โดยในจุดเริ่มต้น ทั้งสองโปรเจคออก NFT มาเพื่อให้ผู้ลงทุนทำการเก็บสะสมเป็นหลัก และตัวละครแต่ละตัวมีลักษณะ (Traits) ที่ต่างกัน ทำให้มีความหายาก (Rarity) ที่ต่างกันด้วยเช่นกัน เช่น ตัวละครที่ใส่หมวก อาจมีเพียงไม่กี่ตัว เทียบกับตัวละครทั้งหมดที่สร้างออกมา ทำให้ลักษณะจำเพาะของแต่ละตัวมีจำกัด และแตกต่างกัน และส่งผลถึงราคาขายของแต่ละตัวเช่นกัน ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองโปรเจคได้ทำการออกคอลเลกชันออกมาเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เพิ่มลักษณะการใช้งานมากขึ้นตามมาภายหลัง ซึ่งเราจะลงรายละเอียดในรูปแบบที่สาม
  • NBA Top Shot โปรเจคที่เป็นที่นิยมอย่างมากช่วง 1 ปีก่อน โดยจะหยิบเอาเหตุการณ์ (Moment) ที่น่าจดจำของนักบาสชั้นนำ และทีมชั้นนำของ NBA มาให้คนที่รักในกีฬาดังกล่าวได้สะสมกัน โปรเจคดังกล่าวมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยในภายหลังที่โปรเจคเริ่มโด่งดังแล้ว ก็ดึงดูดนักลงทุนทั่วไปให้เข้าไปลงทุนในโปรเจคดังกล่าวเช่นกัน ทำให้มีหลายแบรนด์สินค้า และกีฬาหลากหลายประเภทที่ตามกันมาทำ NFT Project ในลักษณะเดียวกันนี้
  • Merge อีกไอเดีย NFT เพื่อการสะสมที่ศิลปิน Pak ทำออกมา ซึ่งมองภายนอกเป็นเพียงจุดสีขาวเล็กๆ โดยในครั้งแรกที่ทำการออก NFT ได้ทำการออกมาเป็นเพียงจุดสีขาวที่จำนวนจำกัด และความพิเศษของโปรเจคนี้ คือ คนที่ซื้อจุดไปมากกว่า 1 จุด สามารถนำจุดมารวมกันเป็นวงกลมที่ใหญ่ขึ้นได้ โดยที่เมื่อใหญ่ขึ้นแปลว่าจำนวนจุดโดยรวมในระบบจะลดลง ทำให้ยิ่งมีการรวมกันมากขึ้น ก็เป็นการทำให้งานศิลปะหายากมากขึ้น และส่งผลกับราคาอีกด้วย

NFT เพื่อการใช้งาน

เป็น NFT ที่ใส่การใช้งานหรือสิทธิ์ต่างๆ เพิ่มลงไปในตัว NFT ทำให้ผู้ถือสามารถใช้งานได้จริง โดยเป็นได้มากกว่าเพียงของสะสม เช่น NFT ที่เปิดโอกาสให้คนที่ถือ สามารถมีปฎิสัมพันธ์กับ Community ได้ โดยผู้ถือทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับทิศทางและการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของโปรเจค เช่น ผู้ถือ NFT ของโครงการมีสิทธิ์ในการโหวตลักษณะของโปรเจคถัดไปที่โครงการจะทำ โดยสิทธิ์ดังกล่าวจะจำกัดให้สามารถมีได้เฉพาะสำหรับที่ผู้ถือ NFT เท่านั้น เป็นต้น

  • Land and Object on Metaverse - Sandbox และ Decentraland อย่างที่ทราบกันว่า Concept Metaverse เป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการซื้อที่ดิน หรือสิ่งของที่อยู่ในโลกเสมือนและสามารถนำที่ดินดังกล่าวไปต่อยอดด้วยไอเดียตนเอง สามารถทำเกม หรือร้านค้าบนพื้นที่ดังกล่าวได้ สามารถซื้อขายกันด้วย Token ที่ใช้ภายใน เสมือนโลกแห่งความจริง ซึ่งปัจจุบันจะสังเกตได้ว่าเด็กหรือวัยรุ่น ก็เล่นเกมที่มีลักษณะโลกเสมือน เช่น Roblox, Minecraft และมีเพื่อนจากเกมต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ทำให้นักลงทุนหลายคนมองว่ามีโอกาสที่จะเกิดการใช้งานที่แพร่หลายได้ในอนาคต
  • Name Services - Ethereum Name Service, Terra Name Service ซึ่งเป็น NFT ที่เปิดโอกาสให้ผู้ครอบครอง ตั้งชื่อให้กับ Wallet Address ของตนเองได้ โดยบริการนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า เมื่อในอนาคตผู้ใช้งานบนโลก Digital Asset มากขึ้น และการที่ทุกคนถือ Wallet Address ที่ยาวถึง 20-30 หลัก คงไม่สะดวกที่จะจำเลข Wallet Address ที่เปรียบเสมือนเลขบัญชีธนาคารได้ จึงออกแบบให้มีระบบที่เป็นเสมือนชื่อบัญชี ที่สามารถให้ผู้ใช้ค้นหาชื่อบัญชีที่ตั้งไว้ และโอนได้ทันที เช่นหากเราต้องการโอนให้เพื่อนชื่อ John โดยที่ John จองชื่อ Name Service ไว้เป็นชื่อ John.eth (Address สมมติ) ก็สามารถโอนได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องทราบเลข Wallet address ที่ยาว 20-30 หลักของ John เป็นต้น

NFT เพื่อการสะสม แล้วพัฒนาเพื่อการใช้งาน

เมื่อ NFT มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ทำให้หลายแบรนด์ นักสะสม และนักพัฒนา NFT จำนวนมาก เริ่มหันมาเพิ่มลักษณะการใช้งาน ผสานกับรูป NFT ที่สวยงามน่าสะสม ทำให้คนที่ซื้อ NFT สามารถทำได้ทั้งการเก็บสะสม การเก็งกำไร หรือการมีส่วนร่วมกับการใช้งานที่หลากหลายของ NFT Project นั้นมากขึ้น โดยผู้เขียนจะขอยกตัวอย่าง “NFT เพื่อการสะสม แล้วพัฒนาเพื่อการใช้งาน” ดังนี้

  • Bored / Mutant Apes Yacht Club (BAYC/ MAYC) เมื่อทาง Yuga Labs ได้ Mint BAYC ออกมา 10,000 ตัว หลังจากนั้นได้ต่อยอด โดยการ Airdrop Serum หรือยาเพื่อทำให้ลิงตัวดังกล่าวกลายพันธุ์ โดย Serum ดังกล่าวมี 3 ขนาด คือ M1, M2 และ M3 ซึ่ง Serum ดังกล่าวสามารถนำมา Mint BAYC ตัวเดิมที่ถืออยู่ และเจ้าของจะได้รับลิงตัวใหม่ที่เป็นร่างกลายพันธุ์ของลิงตัวเดิม แบ่งระดับความรุนแรงของการกลายพันธุ์เป็น 3 ระดับตามขนาดยา ถือเป็นการต่อยอดของโปรเจคเดิมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง หลังจากนั้นก็ได้ทำการนำ MAYC อีก 10,000 ตัวมา Mint ขายเพิ่ม โดยมูลค่ารวม ณ เวลานั้นสูงกว่า 96,000,000 USD และทางโปรเจคก็ได้สร้าง Private Community Club ขึ้นมา โดนเป็น Body เพื่อร่วมกันตัดสินใจ แนวทางการพัฒนาลิงที่ทุกคนใน Community ถือต่อไป โดยแนวทางการพัฒนาในปัจจุบัน จะมีทั้งเกมส์ และ Metaverse ต่อไปในอนาคตอีกด้วย
  • แบรนด์ชั้นนำจำนวนมากเริ่มทดลองออก NFT เช่นกัน โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา Nike ที่ทำการซื้อ RTFKT เพื่อต่อยอดทำรองเท้าผ้าใบ NFT หรือแบรนด์เครื่องสำอางอย่าง Clinique ก็ออก NFT ที่ให้ผู้ถือ มีสิทธิทั้งได้รับผลิตภัณฑ์พิเศษ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีของแบรนด์ตนเองก่อนคนอื่น หรือในบางแบรนด์ที่อาจหันไปจับมือกับเกมที่มีฐานผู้เล่นจำนวนมาก เพื่อเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์กับคนรุ่นใหม่ เช่น Gucci ที่เริ่มทำ Digital Art กับ Roblox หรือ Adidas ที่เริ่ม ออกเสื้อบางรุ่นที่เป็น NFT ออกมาด้วย

สังเกตว่าในช่วงเวลานี้โปรเจค NFT จะเริ่มมีแบรนด์ดังๆ ทยอยกันเข้ามาจับตลาดนี้กันอย่างครึกครื้น บางแบรนด์ก็ทำเพื่อทดสอบตลาด บางแบรนด์ก็มีแผน (Roadmap) ที่วางไว้อย่างยาวไกลในอนาคต บางโปรเจคที่มาจากดีไซน์เนอร์ที่วาด Art Collection ขึ้นมา ก็ตั้งเป็น Decentralized Autonomous Organization (DAO) ที่ให้ผู้ที่ลงทุนมีส่วนร่วมกับทิศทางและอนาคตของโปรเจคอย่างแท้จริง 

โดยพัฒนาการของโปรเจค NFT ต่างๆ ดำเนินการกันอย่างรวดเร็วมาก และแต่ละโปรเจคก็มีอายุกันยังไม่ถึง 2 ปีเลยด้วยซ้ำ ซึ่งหากผู้อ่านเป็นผู้ลงทุน การศึกษาในตลาดดังกล่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญ การศึกษารูปแบบการใช้งานที่เกี่ยวข้อง  การศึกษามูลค่าตลาดเทียบกับโปรเจคลักษณะใกล้เคียงว่าเป็นอย่างไร 

และหากผู้อ่านเป็นแบรนด์ หรือเป็นศิลปินผู้ที่กำลังสนใจทำ NFT Collection หรือ NFT ที่เกี่ยวกับแบรนด์ อาจเริ่มจากการวิเคราะห์ก่อนว่า NFT สามารถพัฒนาปฎิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า และตัวศิลปะ/แบรนด์ ได้อย่างไร และมีรูปแบบการใช้งานอื่นนอกจากการสะสมหรือไม่? การใช้งานดังกล่าวจะเป็นเช่นไร? คอมมูนิตี้ที่ถือ NFT จะมีส่วนร่วมได้อย่างไรบ้าง? แล้วการมีส่วนร่วมดังกล่าวต้องการระบบซัพพอร์ทอย่างไร?

อย่างที่ผู้อ่านทราบดี เทคโนโลยีบล็อกเชน โลกสินทรัพย์ดิจิทัล และ NFT มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การอัพเดทข่าวสาร ศึกษาข้อมูลเป็นประจำ หรือมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำจะสามารถช่วยให้คุณเข้าสู่ตลาดดิจิทัลและอยู่ในตลาดนี้ได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดย Token X ในฐานะ ICO Portal ที่ให้บริการ Tokenization แบบครบวงจร ยินดีให้คำปรึกษาและพัฒนาโซลูชันให้กับองค์กรที่สนใจที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัล

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...

Responsive image

เตรียมพบกับงาน SEA Blockchain Week 2024 (SEABW) ยกขบวนกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน และ Web 3 ระดับโลกกว่า 100 คน มาร่วมพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่เมืองไทย

Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW งานด้านบล็อกเชนสุดยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาค ที่เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในวันที่ 24-25 เมษายน 2567 ซึ่งจะจัดขึ้น ณ True ICON HALL ช...