OpenAI เปิดตัว ‘Canvas’ ฟีเจอร์กระดานทำงานแยกจากตัวแชทของ ChatGPT | Techsauce

OpenAI เปิดตัว ‘Canvas’ ฟีเจอร์กระดานทำงานแยกจากตัวแชทของ ChatGPT

OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า “Canvas” หรืออินเทอร์เฟซสำหรับการใช้งาน ChatGPT  ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้การทำงานด้านการเขียนและการเขียนโค้ดง่ายขึ้น โดย Canvas จะเปิดหน้าต่างแยกข้างหน้าต่างแชทปกติ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเขียนหรือโค้ดได้โดยตรง นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถไฮไลต์ส่วนต่างๆ ของงานเพื่อให้ ChatGPT ช่วยแก้ไข

Canvas คืออะไร ?

Canvas คือพื้นที่ทำงานที่แยกออกจากหน้าต่างแชทใน ChatGPT ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดของผลลัพธ์จาก AI ได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ให้ ChatGPT เขียนบทความมาแล้ว แต่ต้องการแก้ไขแค่บางจุด Canvas จะช่วยให้สามารถแก้ไขเฉพาะส่วนที่ต้องการได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาป้อนคำสั่ง (Prompt) ซ้ำหลายครั้ง

วิธีใช้ Canvas ใน ChatGPT

ด้าน OpenAI เผยว่า การเปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่นี้ทำได้ 2 วิธี ได้แก่

  1. เลือก "GPT-4o with canvas" จากเมนู เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ Canvas
  2. สามารถพิมพ์คำว่า "use canvas" เพื่อเปิดหน้าต่างโปรเจกต์ได้ทันที

นอกจากนี้ Canvas ก็สามารถเปิดขึ้นได้เองโดยอัตโนมัติ เมื่อ ChatGPT ประเมิณว่าโปรเจคที่ทำอยู่อาจต้องการใช้งานฟีเจอร์นี้

โหมดการทำงานของ Canvas

ทาง OpenAI ชี้ว่าฟีเจอร์นี้มีมาเพื่อช่วยให้การทำงานด้านการเขียนและการเขียนโค้ดง่ายขึ้น โดยจะแบ่งออกเป็น 2 โหมดในการทำงาน อาทิ

  1. โหมดการเขียน (Writing): ฟีเจอร์ทางลัดในโหมดการเขียนมีหลายอย่างที่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น เช่น การเสนอการแก้ไขแก้ไขเฉพาะส่วนของข้อความ, ปรับความยาวเอกสารให้สั้นหรือยาวตามต้องการ, ปรับระดับภาษาและความซับซ้อนของเนื้อหา, ตรวจสอบความถูกต้องทางไวยากรณ์และความชัดเจนของข้อความ, รวมถึงการเพิ่มอีโมจิเพื่อทำให้เนื้อหาดูมีสีสันและน่าสนใจมากขึ้นด้วย
  2. โหมดการเขียนโค้ด (Coding): ฟีเจอร์ทางลัดในโหมดการเขียนโค้ดประกอบด้วย ตรวจสอบโค้ดเฉพาะจุด, การเพิ่ม log โดยการแทรกคำสั่ง print เพื่อช่วยในการดีบั๊กและทำความเข้าใจโค้ด, การเพิ่ม Comment, การแก้ไขบั๊กโดยการตรวจจับและเขียนโค้ดใหม่, และการแปลงโค้ดไปยังภาษาอื่นๆ เช่น JavaScript, TypeScript, Python, Java, C++ หรือ PHP ได้อีกด้วย

Canvas จะเปิดตัวในเวอร์ชันเบต้าสำหรับผู้ใช้ ChatGPT Plus และ Teams ตั้งแต่วันนี้ และสำหรับผู้ใช้ Enterprise และ Edu จะสามารถใช้งานในเวอร์ชั่นเบต้าได้ในสัปดาห์หน้า

อ้างอิง: openai, techcrunch

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำไมคนสหรัฐฯ เดือดร้อนกับการแบน TikTok ? 3 เหตุผลที่ TikTok สำคัญกับชาวสหรัฐฯ มากกว่าที่คิด

เจาะลึก 3 เหตุผลที่การแบน TikTok อาจส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันมากกว่าที่คิด ทั้งด้านเศรษฐกิจ อาชีพ และการเชื่อมโยงในยุคดิจิทัล...

Responsive image

รู้จัก Physical AI เอไอยุคใหม่ที่ Jensen Huang กล่าวถึงคืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ?

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงาน CES 2025 คือการที่ Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ได้มีการพูดถึงยุคต่อไปของ AI นั่นก็คือ ‘Physical AI’ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญยิ่งที่ AI กำลังจะเข...

Responsive image

4 เทรนด์เทคโนโลยีสุดล้ำที่อาจเปลี่ยนโลกจาก CES 2025

สำรวจเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุดจาก CES 2025 ตั้งแต่ AI อัจฉริยะ ยานยนต์ล้ำสมัย ไปจนถึงการพัฒนาชิปกราฟิกและเทคโนโลยีหน้าจอแห่งอนาคตที่เปลี่ยนโฉมการใช้ชีวิตประจำวัน!...