ทุกวันนี้ ไม่ว่าใครต่างก็นำพาธุรกิจของตนเอง เข้ามาสู่การขายออนไลน์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะผ่านแพลตฟอร์ม E-commerce หรือขายผ่าน Social Commerce ก็ตาม โดยในปี 2020 ที่ผ่านธุรกิจ E-commerce ทั่วโลกมีมูลค่าตลาดรวมกันกว่า 7.75 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับประเทศไทย การซื้อของออนไลน์ของคนไทยล่าสุดอยู่ที่ 83.65 % ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก อินโดนีเซียและอังกฤษ เท่านั้น แน่นอนว่าแนวโน้มการเติบโตยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาส ให้ผู้ประกอบการไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อช่องทางการขายออนไลน์ของผู้ประกอบการหลายราย กำลังเติบโตไปได้ดี แต่อาจจะพบอุปสรรคจากการที่กระบวนการก่อนที่สินค้าจะสามารถส่งถึงมือลูกค้าได้ ซึ่งต้องบอกว่าการขายสินค้าออนไลน์ ไม่ใช่แค่รับออเดอร์เท่านั้น แต่ต้องมีการบริหารจัดการคลังสินค้าด้วย บริการ Fulfillment ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ที่มีบทบาทในอุตสาหกรรม E-commerce เป็นอย่างมาก โดยเข้ามาตอบโจทย์ทั้งเจ้าของธุรกิจ และสร้าง Value ให้กับลูกค้า ในการ จัดเก็บสินค้า แพ็คสินค้า และจัดส่งถึงมือผู้รับปลายทาง โดยในปี 2028 มีการคาดการณ์ว่าตลาด Fulfillment ทั่วโลกจะเติบโตอีกอย่างน้อย 10% ต่อปี หรือจะมีมูลค่าตลาดประมาณ 168.72 พันล้านเหรียญสหรัฐ
PACKHAI (แพ็คให้) แพลตฟอร์ม Fulfillment ครบวงจร ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพไทย ที่ก่อตั้งขึ้นโดย คุณธวัชชัย แก้วใส ผู้ซึ่งเป็น CEO และคุณพงศ์ธร เลาหะวิไลย ผู้ร่วมก่อตั้ง โดยจุดเริ่มต้นของแนวคิดในการทำ PACKHAI นั้น เริ่มมาจากเดิมผู้บริหารทั้งสอง ต่างมีประสบการณ์นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมากกว่า 10 ปี รวมถึงได้บริหารคลังสินค้าให้กับบริษัทขนาดใหญ่มาก่อน และได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาว่า เริ่มมีลูกค้าที่เป็นกลุ่ม SME เพิ่มมากขึ้น โดยผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้ปรับตัวเข้ามาสู่การขายผ่านช่องทางออนไลน์ และในอนาคตมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีอุปสรรคที่ทำให้ SME ไทยมักจะ Scale ยาก ซึ่ง Pain Point ที่เป็นกับดักตรงนี้มาจากการที่พวกเขาไม่ถนัดในการจัดวางระบบต่าง ๆ รวมถึงมีความรู้ในการบริหารจัดการคลังสินค้าไม่มากพอ ทำให้เสียโอกาสในการขายสินค้าไปไม่น้อย และที่สำคัญ SME ไทย ไม่ได้กระจุกอยู่แค่ในกรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียว แต่ในต่างจังหวัด ก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ปรับตัวมาขายผ่านช่องทางออนไลน์
ซึ่งบริการ Fulfillment ส่วนใหญ่นั้นอยู่ที่บริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมด โดยยังมีธุรกิจ SME ในไทยที่พร้อมจะขยายธุรกิจให้เติบโตอีกมาก แต่ยังไม่สามารถเข้าไม่ถึงบริการเช่นนี้ได้ ดังนั้น PACKHAI จึงเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ทุก Pain Point ที่ทำให้ธุรกิจไปต่อได้อย่างยากลำบากของผู้ประกอบการ SME
PACKHAI บริการ Fulfillment ที่ถือเป็น One Stop Service สำหรับผู้ค้าออนไลน์ ที่เข้ามาแก้ทุก Pain Point ที่นอกเหนือจากบริการแพ็ค และส่งสินค้า ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเพิ่มแล้ว ยังเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง Lazada และ Shopee เพื่อให้บริการได้แบบไร้รอยต่อ
โดยเชื่อมต่อเข้ากับระบบคลังสินค้า (WMS) ที่ทางบริษัทได้พัฒนาขึ้นมา และสามารถ Customize ตามลูกค้าแต่ละคนได้ พร้อมมีระบบ Order Management ที่สามารถทำได้ถึงขั้นวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าได้ด้วย
พร้อมกันนี้ยังมีการร่วมมือกับ ผู้ให้บริการ AI Chatbot และ บริการ Live Commerce เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยเก็บออเดอร์จากช่องทางการขายผ่าน Social Commerce อย่าง Line Facebook และ Instagram ด้วย
เราอยากให้ลูกค้าของเราได้โฟกัสในสิ่งที่เขามีอยู่ สิ่งที่เขาเก่งอยู่แล้ว นั่นคือ การขาย ส่วนระบบหลังบ้านต่าง ๆ PACKHAI จะช่วยดูแลทั้งหมด ทำให้เขาขายสินค้าได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลกับการบริหารจัดการระบบหลังบ้าน ซึ่งสิ่งที่ PACKHAI ให้กับลูกค้า คือ ความเชื่อมั่นว่าสินค้าทุกชิ้นที่ถูกจัดส่งออกไป จะต้องครบถ้วน ถูกต้อง และตรงเวลา
นอกจากนี้ PACKHAI ยังใช้กลยุทธ์ขยายธุรกิจ เป็นเจ้าแรกในไทยด้วยการเดินหน้าหาคู่ค้าในต่างจังหวัดที่มีโกดังที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ สามารถเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร โดยคู่ค้าสามารถนำระบบของ PACKHAI ไปใช้ในการบริหารคลังสินค้าได้เลย ซึ่งปัจจุบันบริการครอบคลุมหลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ระยอง, ลำปาง, เชียงราย, ร้อยเอ็ด, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, ชลบุรี, สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, นครราชสีมา, นครปฐม รวมทั้งหมด 20 คลัง และภายใน 3 ปี จะขยายให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศไทย เพื่อเชื่อมต่อ Ecosystem ของธุรกิจ Fulfillment ที่มีทั้งหมด โดยสามารถที่จะส่งเสริมและต่อยอดตลาด E-Commerce ได้
นอกเหนือจากนี้แล้ว PACKHAI ยังมีบริการ Cross Border E-Commerce ที่จะส่งสินค้าของคนไทยไปขายต่างประเทศ อย่าง จีน ลาว และมาเลเซีย ได้อีกด้วย
จากการที่ PACKHAI ถือเป็นธุรกิจหนึ่งที่อาศัยการเติบโตตามแนวโน้มของ E-commerce เพราะธุรกิจ Fulfillment เป็นส่วนหนึ่งของ Ecosystem นี้ ซึ่งโอกาสการเติบโตของ E-commerce ในไทยยังมีอีกมาก ถ้าเทียบกับจีน ตอนนี้ไทยเหมือนจีนเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ E-commerce ที่จีนกำลังเริ่มโต ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้กับผู้ค้ารายย่อย โดยเฉพาะ SME สามารถที่จะขยายธุรกิจได้อีกมหาศาล ซึ่ง PACKHAI เองต้องการที่จะช่วยลูกค้าให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ผ่านการมีระบบที่แข็งแร็งควบคู่ไปพร้อมกับการขาย
และ ในอนาคต PACKHAI จะนำ Big Data มาผนวกกับเครือข่ายคลังสินค้าที่มีอยู่ พัฒนาต่อยอด เพื่อให้สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคู่ค้า และ ผู้บริโภค ด้วย ไม่แน่ว่าต่อไป หากผู้ซื้ออยู่กรุงเทพ ซื้อของจากร้านค้าที่อยู่เชียงใหม่ ไม่จำเป็นต้องรอวันถัดไป ผู้ซื้อจะได้รับของภายในวันที่สั่งสินค้าเลยก็เป็นไปได้
สำหรับ PACKHAI ทำธุรกิจด้วยการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ต่อจิ๊กซอว์ Ecosystem ของเราให้ครบ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการช่วย SME ไทยให้เติบโตสามารถขยายธุรกิจ ด้วยการไปสู่ในระดับ Global เพราะสินค้าท้องถิ่นของ SME ไทย มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ พวกเขาสามารถที่จะขยายธุรกิจไปได้ไกลกว่านี้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีข้อจำกัดใด ๆ มาขวางกั้น ดังนั้น PACKHAI จะเข้ามาช่วยเติมเต็มจุดนี้ในอนาคต
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด