พบกับ Pattie Maes ศาสตราจารย์ด้าน Media Arts และ Science จาก MIT Media Lab ผู้นำกลุ่มวิจัย Fluid Interfaces สาขาที่วิจัยด้านปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ ที่งาน Techsauce Global Summit 2024
กับหัวข้อการบรรยาย From AI to IA: Empowering Individuals Through Technology ร่วมหาคำตอบว่า เราจะใช้ประโยชน์จาก AI เพิ่มศักยภาพให้มนุษย์ได้อย่างไร สร้างความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร โดยดึงจุดแข็งของทั้งคู่มาผสานกัน
IA หรือ Intelligence Augmentation คืออะไร
ขณะที่เป้าหมายของการพัฒนา AI คือการทำให้ เครื่องจักรมีสมรรถนะทัดเทียมหรือเหนือกว่ามนุษย์ IA คือการ พัฒนาสมรรถนะของมนุษย์โดยใช้ AI ไม่ว่าจะเป็นทักษะความจำ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) สร้างแรงจูงใจ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และการเรียนรู้ และด้วยศักยภาพของ AI สามารถช่วยมนุษย์ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดได้
ในเซสชั่นนี้ Maes ได้ยกตัวอย่างการใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ชีวิตมนุษย์ดีขึ้น โดยเป็นผลงานวิจัยจาก MIT Media Lab ห้องปฏิบัติการวิจัยของ MIT (Massachusetts Institute of Technology) ซึ่งถือสถาบันวิจัยชั้นนำของโลกมาให้พวกเรารับชมกัน
ภาพจาก : CN, JD - MIT Media Labไม่ว่าจะเป็น วางของไว้ที่ไหน กินยาหรือยัง เปิดแก๊สทิ้งไว้หรือเปล่า ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้สูงอายุที่อาศัยคนเดียวแล้ว ครอบครัวยังอุ่นใจได้มากขึ้น และข้อมูลที่เก็บไว้นั้นก็ช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุได้ด้วย
คิดอย่างมีเหตุผล ตัดสินใจอย่างเฉียบคม
ในแต่ละวันมีข้อมูลมหาศาลที่เราต้องใช้สมองบันทึก จดจำ ประมวลผล และถ่ายทอด Maes เผยว่า MIT Media Lab ได้ทำการค้นคว้ามาสักระยะว่าจะใช้ AI ช่วยให้มนุษย์คิดอย่างลึกซึ้งและมีวิจารณญาณมากขึ้นได้อย่างไรจากข้อมูลที่พวกเขาได้รับ
โดยจากการทดลองพบว่า เมื่อผู้สวมใส่ได้รับคำแนะนำจาก AI แบบ Real-time พวกเขาเปลี่ยนความเห็นที่มีต่อข้อโต้แย้งได้ตามความเห็นที่ AI ให้ แต่ผู้สวมใส่ก็ไม่ได้เปลี่ยนจุดยืนของตัวเอง หากไม่ได้รับคำอธิบาย ว่าสิ่งที่ถูกหรือผิดนั้นมีเหตุผลอะไร
ในการทดลองครั้งที่สอง มีการตั้งสมมติฐานว่าจะเป็นอย่างไรหาก AI หลอกลวงและให้คำแนะนำไม่ดีกับผู้ใช้งาน แต่ให้เหตุผลที่ดูน่าเชื่อถือ ผู้คนจะเปลี่ยนความคิดของพวกเขารึเปล่า ? โดยการใช้พาดหัวข่าว 1,000 เรื่องให้ผู้ทดสอบอ่านและครึ่งหนึ่งเป็นข่าวปลอม พบว่าระบบที่พูดความจริงทำให้มนุษย์มีความแม่นยำมากขึ้นกว่ามนุษย์ที่ไม่ใช้ AI ขณะที่ระบบหลอกลวง ก็ให้เหตุผลที่น่าเชื่อถือเช่นกัน และลดความแม่นยำของมนุษย์ จึงสรุปได้ว่ามนุษย์พึ่งพา AI มากเกินไป หาก AI ให้ข้อมูลพวกเขาแบบ Real-time
มาสู่การทดลองครั้งที่ 3 เริ่มจากการสร้างระบบ AI ที่ทำให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการคิดก่อน เมื่อผู้ทดสอบเริ่มคิดเกี่ยวกับพาดหัวข่าวที่อ่านและคำถามที่ได้รับแล้ว จึงค่อยนำ AI มาช่วยให้คำอธิบายว่าพาดหัวข่าวไหนเป็นจริงหรือเท็จ ปรากฎว่ามันช่วยได้
ระบบดังกล่าวใช้วิธีตั้งคำถามแบบโสกราตีส ช่วยให้ผู้ทดสอบคิดวิเคราะห์มากขึ้น ไตร่ตรองก่อนจะใช้คำแนะนำจาก AI
สร้างแรงจูงใจให้อยากเรียนรู้
สมมติฐานอีกข้อหนึ่งคือ AI จะสามารถกระตุ้นให้เราอยากเรียนรู้มากขึ้นได้หรือไม่ MIT Media Lab ได้ทดลองโดยการสร้าง Virtual Character ของ Elon Musk ขึ้นมาแทนอาจารย์ที่สอนออนไลน์ พบว่านักเรียนที่ชื่นชอบ Elon Musk มีแรงกระตุ้นจูงใจอยากเรียนรู้มากกว่า แม้จะรู้ว่านั่นไม่ใช่ของจริง
เปลี่ยนทัศนคติ สร้างพฤติกรรมใหม่
Maes ยกตัวอย่าง Future You การวิจัยของ ‘พีพี’ พัทน์ ภัทรนุธาพร ที่ทำร่วม Hal Hirschfeld และธนาคารกสิกรไทย เพื่อค้นหาวิธีว่าจะช่วยเยาวชนเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างไร โดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจแต่การสร้างพฤติกรรมระยะสั้น แทนที่จะมุ่งเน้นในระยะยาว
สรุปจาก 'Innovation & Growth Drivers' หัวข้อเสวนาจากงาน BIMSTEC Young Gen Forum : Where the Future Meets ที่มีผู้นำรุ่นใหม่จาก 3 ประเทศ BIMSTEC มาเล่าวิสัยทัศน์ ความท้าทาย บนเวทีสั...
Dire Wolf คือชื่อของหมาป่าสายพันธุ์หนึ่งซึ่งสูญพันธุ์ไปเมื่อราว 12,500 ปีก่อน และในวันนี้ พวกมันได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งอย่างน่าทึ่ง ในฐานะที่บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Colossal Bioscie...