อุตสาหกรรมอาหารกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารต่างออกมาเผยแนวโน้มสำคัญที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตของอาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนกันมากขึ้น จะเห็นได้กว่าเทรนด์คนรักสุขภาพ Health & Wellness กำลังมาแรง โดยเฉพาะเทรนด์การกินอาหารที่เน้นพืช ทั้ง Plant-based หรือ Plant-forward ก็กำลังเป็นกระแสนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลก
ภายในงาน LINE FOOD TECH 2019 ของ LINE ประเทศไทย ที่ผ่านมา คุณหนูดี วนิษา เรซ ได้ร่วมแชร์ความรู้และเผยประสบการณ์เรื่อง Plant-based diet ที่เธอลองแล้วได้ผล จริงๆ แล้วมันคืออะไร มีข้อดีอย่างไร ทำไมหลายคนจึงหันมาให้ความสำคัญกันมากขึ้น มาดูกัน
คุณหนูดีเล่าว่า Plant-based คืออาหารที่มาจากพืชเป็นหลัก อย่างน้อย 95% เป็นการกินอาหารที่เน้นพืช ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะผักหรือผลไม้ แต่ยังรวมไปถึงพืชตระกูลถั่ว, เมล็ดพืช, ธัญพืช อีกทั้งไม่ได้หมายความว่าคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบ Plant-based diet จะต้องเป็นมังสวิรัติ หรือกินเจ แต่คือการเลือกทานอาหารที่ทำจากพืชในอัตราที่มากกว่านั่นเอง
บริษัทที่ผลิตอาหารที่ทำจากพืชทดแทนเนื้อ อย่าง Impossible food และ Beyond Meat ต่างประสบความสำเร็จในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสร้างผลิตภัณฑ์ ให้กลายเป็นชิ้นเนื้อทดแทนที่แสนอร่อยเสียจนไม่ว่าใครที่ได้ชิมก็จะต้องลืมไปเลยว่ามันไม่ได้ทำจากเนื้อ
Beyond Meat ยังได้คนดังหลายคนร่วมลงทุนอย่าง Bill Gates, Leonardo DiCaprio และซีอีโอ McDonald คนก่อนอย่าง Don Thompson อีกด้วย
การบริโภคอาหารที่ทำจากพืชนั้นตอบโจทย์หลายด้านด้วยกัน เช่น ในด้านธุรกิจ เพราะไม่ว่าจะวัยไหน ก็สามารถเลือกรับประทานอาหารที่เน้นพืชได้ รวมทั้งยังช่วยในด้านการฟื้นฟูสุขภาพ เพราะมีหลายโรคที่อันตรายสามารถป้องกันและรักษาได้ด้วยการกิน Plant based ป้องกันตั้งแต่โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ อัลไซเมอร์ส เบาหวานประเภทสอง คอเลสเตอรอลสูง และโรคอ้วน อีกทั้งยังปลอดภัย สามารถทำให้เป็นไลฟ์สไตล์ ได้ การทานอาหารที่ทำจากพืชเป็นหลักยังเพิ่มสมรรถนะร่างกาย ช่วยให้การฟื้นฟูร่างกายรวดเร็วมากกว่าการกินเนื้อสัตว์ ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง เลือดไม่ข้นเกิน การสูบฉีดโลหิตดี การสร้างกล้ามทำได้ดี และสุดท้ายคือช่วยในด้านสิ่งแวดล้อมโลกและสัตว์
สิ่งที่สามารถช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้มากที่สุด คือการหยุดกินอาหารที่มาจากสัตว์ - James Cameron
สำหรับใครที่อยากศึกษาเรื่อง Plant based diet อย่างละเอียดมากขึ้น คุณหนูดียังได้แนะนำหนังสือที่น่าสนใจหลายเล่มด้วยกันดังนี้
คุณหนูดีกล่าวปิดท้ายการบรรยายว่า มนุษย์มาพร้อมกับทรัพยากรที่พร้อม แต่จะสูญสิ้นไปหากเราไม่บริหารจัดการทรัพยากรให้ดีพอ ภายใน 40 ปีข้างหน้าเราต้องผลิตอาหารให้มากกว่า 10,000 ปีทั้งหมดรวมกัน เพิ่มขึ้นอีก 70% จากปริมาณอาหารที่เราผลิตในขณะนี้ เพราะฉะนั้นคนขายอาหารคือคำตอบ ทุกครั้งที่เราใช้จ่ายเงินไปกับอาหาร เราคือคนกำหนดชะตาของโลกอนาคตที่เราจะอยู่ต่อไป มันจะอุดมสมบูรณ์เพียงพอหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราได้ตัดสินใจเลือกไปแล้วนั่นเอง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด