เปิดโลก Quantum Technologies โอกาส ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อพร้อมรับมือกับความท้าทาย

Quantum Technologies คือการประยุกต์ใช้คุณสมบัติพื้นฐานของแสงและสสารเพื่อสร้างระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีควอนตัมในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ควอนตัม เครือข่ายการสื่อสารควอนตัมและเซ็นเซอร์ควอนตัม ล้วนอาศัยการควบคุมอะตอมเดี่ยวหรืออนุภาคของแสงด้วยความแม่นยำสูง ส่งผลให้เกิดขีดความสามารถทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เหนือชั้น พร้อมทั้งข้อได้เปรียบและความเสี่ยงที่สำคัญต่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ความมั่นคงแห่งชาติและความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ

เปิดโลก Quantum Technologies โอกาส ความสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อพร้อมรับมือกับความท้าทาย

ประเภทของเทคโนโลยีควอนตัม

1. Quantum Sensing

การตรวจจับควอนตัมเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันหลักที่ใช้เทคโนโลยีควอนตัมในการวัดค่าต่างๆ เช่น สนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า เวลา แรงโน้มถ่วง อุณหภูมิ ความดัน การหมุน ความเร่ง และความถี่ ได้อย่างแม่นยำ เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการปฏิวัติวงการต่างๆ เช่น การทำเหมือง การถ่ายภาพทางการแพทย์ และการป้องกันประเทศ ในด้านการทหาร เทคโนโลยีนี้ช่วยยกระดับการนำทาง การตรวจจับภัยคุกคาม และการรับรู้สถานการณ์ โดยคาดว่าการตรวจจับควอนตัมจะถูกนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

2. Quantum Communication

การสื่อสารควอนตัมมุ่งเน้นการสร้างช่องทางการสื่อสารที่มีความปลอดภัยสูง ด้วยการเข้ารหัส ข้อความที่สำคัญรวมถึงการกระจายกุญแจควอนตัม (QKD) สำหรับการส่งข้อความที่ปลอดภัย การเคลื่อนย้ายสถานะควอนตัม และเครือข่ายควอนตัมสำหรับการสื่อสารที่ปลอดภัย

3. Quantum Computing

การคำนวณควอนตัมใช้ qubit ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของข้อมูลควอนตัม ในการประมวลผลข้อมูลเร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปในบางประเภท เทคโนโลยีนี้ช่วยเร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในหลายด้าน เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์และซัพพลายเชน การพัฒนาโครงข่ายประสาทเทียม การจำลองระบบควอนตัมที่ซับซ้อน และการถอดรหัส

สถานการณ์ปัจจุบันของ Quantum Technologies 

ด้านการใช้งาน

การนำเทคโนโลยีควอนตัมมาใช้งานจริงยังคงเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาดใหญ่ที่ต้องรักษาสถานะควอนตัมให้ได้นาน ปัจจุบัน qubit สามารถ 'จำ' ข้อมูลได้เพียงไมโครวินาทีหรือมิลลิวินาที อย่างไรก็ตาม มีความก้าวหน้าในการแก้ปัญหา เช่น การเปลี่ยนจากการใช้ฮาร์ดแวร์ไปเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยซอฟต์แวร์และสถาปัตยกรรม 

การสื่อสารควอนตัมก็มีความก้าวหน้าเช่นกัน จีนและรัสเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมควอนตัมเป็นระยะทาง 3,800 กิโลเมตร และการวิจัยเรื่อง quantum repeater ก็ช่วยเพิ่มระยะทางการสื่อสาร ขณะที่เซ็นเซอร์ควอนตัมถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เพื่อตรวจหาแร่และเพิ่มประสิทธิภาพการสำรวจ

ด้านการลงทุน

ตามรายงานของ McKinsey ณ ปี 2023 มีการลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมทั่วโลกประมาณ 42,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น IBM, Google, Microsoft และ Tencent ต่างทุ่มทุนมหาศาลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากการลงทุนสูงสุดในปี 2022 เงินทุนเริ่มไหลไปยังสตาร์ทอัพที่มั่นคง ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพระดมทุนยากขึ้น ในออสเตรเลีย นักลงทุนยังไม่มั่นใจในระยะเวลาพัฒนาและเทคโนโลยีที่จะได้รับการสนับสนุน แต่รัฐบาลทั่วโลกยังคงแข่งขันกันลงทุน โดยจีนนำโด่งด้วยเงินลงทุนสะสม 15,300 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยเยอรมนี 5,200 ล้านดอลลาร์ และสหรัฐอเมริกา 4,300 ล้านดอลลาร์

ด้านบุคลากร

ปัญหาขาดแคลนบุคลากรเป็นอุปสรรคสำคัญ McKinsey พบว่ามีผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเพียง 1 คนต่อตำแหน่งงาน 3 ตำแหน่ง แม้ว่าหลายมหาวิทยาลัยจะเปิดสอนหลักสูตรเทคโนโลยีควอนตัม แต่ความต้องการบุคลากรยังคงสูง ในออสเตรเลียจำเป็นต้องเพิ่มหลักสูตรปริญญาเอกเป็น 3 เท่า ภายในปี 2040 เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ตามรายงานของ Standards Australia และ University of Technology Sydney

ทิศทางของ Quantum Technologies ในอนาคต

อย่างแรกทิศทางของเทคโนโลยีควอนตัมจะเน้นไปที่การก้าวข้ามอุปสรรคทางเทคนิคและการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยีควอนตัมในปัจจุบันยังต้องการการวิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขความท้าทายสำคัญ เช่น การขยายขนาด การแก้ไขข้อผิดพลาด และการควบคุม coherence ของ qubit อย่างแม่นยำ ด้วยความที่เป็นศาสตร์ใหม่ เทคโนโลยีควอนตัมจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายสาขา ทั้งด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี และวิศวกรรมไฟฟ้าเพื่อก้าวข้ามความท้าทายเหล่านี้ได้

นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีประสิทธิภาพสูงอาจทำให้ระบบเข้ารหัสในปัจจุบันล้าสมัย ความเสี่ยงนี้กระตุ้นให้หลายประเทศร่วมกันพัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสแบบ post-quantum เพื่อปกป้องข้อมูลในอนาคต โดย NIST กำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกและคาดว่าจะเสร็จสิ้นมาตรฐานใหม่ในปี 2024 อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบ post-quantum encryption อาจไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนอัลกอริทึม แต่ยังต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ที่รองรับการเข้ารหัสที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นนี้

กฎระเบียบและข้อกำหนดก็เป็นอีกส่วนสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัม โดยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ข้ามขอบเขตของแต่ละประเทศ ทำให้หลายประเทศต้องร่วมมือกันกำหนดมาตรฐานและแนวทางที่สอดคล้องกัน แม้แต่ละประเทศอาจให้ความสำคัญต่างกัน เช่น สหรัฐฯ เน้นที่นวัตกรรมและความปลอดภัย สหภาพยุโรปให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูล และออสเตรเลียเน้นเรื่องการค้าและจริยธรรม แต่การบูรณาการมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้การใช้เทคโนโลยีควอนตัมปลอดภัยและเป็นไปตามจริยธรรมในระดับสากล

ในส่วนของจริยธรรม นักวิชาการเรียกร้องให้มีการกำหนดแนวทางการใช้เทคโนโลยีควอนตัมอย่างมีความรับผิดชอบ โดยต้องคำนึงถึงความเท่าเทียมในการเข้าถึง ความเป็นส่วนตัว และผลกระทบที่เทคโนโลยีนี้อาจมีต่อแรงงานในอนาคต แนวทางนี้ได้รับบทเรียนจากการพัฒนา AI ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการป้องกันผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สรุป Insight จาก ‘Turn ThAI to Tech Tide’ ชี้ไทยผลิต AI Talent ได้ไม่ถึง 500 คนต่อปี ถอดรหัส 4 กลยุทธ์จาก ดร.เอ้ และ ดร.อ้อ กู้วิกฤต Talent พลิกอนาคต AI ไทย

เจาะลึกกลยุทธ์กู้วิกฤตระบบเทคไทยจากการศึกษาจนถึงนโยบายรัฐ จากเวที AI Innovation Summit 2025 แก้ปัญหาไทยโตช้าในสนาม Data Economy ระดับโลก...

Responsive image

ปรากฏการณ์ Tech Squad เมื่อตัวจริงวงการสตาร์ทอัพกระโดดสู่สนามเลือกตั้ง 69

วิเคราะห์เจาะลึกปรากฏการณ์ Tech Squad พรรคประชาชน แม็กซ์ StockRadars, ป้อม ภาวุธ, มาร์ค Blognone กับภารกิจเปลี่ยนภาครัฐด้วย Data และ Tech ในสนามเลือกตั้ง 69...

Responsive image

เจาะลึกวิกฤตหน่วยความจำ เบื้องหลังราคา RAM ดีดตัวสูง เมื่อ AI แย่งทรัพยากรโลก แล้วทำไม ‘ผู้ใช้งานทั่วไป’ ถึงต้องรับกรรม?

ราคา RAM พุ่งสูงเพราะอะไร? เจาะลึกวิกฤตหน่วยความจำปี 2025 เมื่อ AI ดูดทรัพยากรการผลิต HBM จนตลาด Consumer ปั่นป่วน Micron จ่อเลิกแบรนด์ Crucial ส่งผลกระทบ PC และสมาร์ทโฟนทั่วโลก เต...