จริงหรือที่แอปจำเป็นต้องสร้าง "แพลตฟอร์มที่มีทุกอย่าง" ให้กับผู้ใช้?

จริงหรือที่แอพจำเป็นต้องสร้าง 'แพลตฟอร์มที่เป็นทุกอย่าง' ให้กับผู้ใช้?

ในยุคนี้ผู้คนต่างพึ่งมือถือในการใช้ชีวิตประจำวันชนิดที่เรียกว่าขาดไม่ได้ การแข่งขันในวงการสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชันไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปอีกต่อไป จึงไม่น่าแปลกที่จะเห็นแอปพลิเคชันบนมือถือเปิดตัวทุกวัน แต่ด้วยความท้าทายที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคที่หลายอุตสาหกรรมต่างกระโดดเข้ามาแข่งขันการทำแพลตฟอร์ม แต่ละองค์กรจะทำการดึงผู้ใช้งานจำนวนมากในขณะที่ยังคงรักษาตำแหน่งในการเป็นแนวหน้าในตลาดได้อย่างไร เมื่อเกิดสถานการณ์เหล่านี้ขึ้น หลาย Startup ก็ได้เริ่มมีการใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วเพื่อทำการขยายแพลตฟอร์มของตน

ในวันแรกของงาน Techsauce Global Summit 2018 เราได้รับเกียรติจากคุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE Thailand, คุณอราคิน รักษ์จิตตาโภค ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานพัฒนาบริการ แอปพลิเคชันโทรคมนาคม และเครือข่าย, เอเจย์ กอร์ CTO ของ Go-Jek, และ เกรซ หยุน เซีย (Grace Yun Xia) ผู้อำนวยการ Jungle Ventures มาพูดในหัวข้อ “Race for Platformation in Asia” โดยคำถามสำคัญหลักๆ คือ การทำแพลตฟอร์มจะช่วยผู้ประกอบการในการเติบโตในตลาดเอเชียได้อย่างไร? โอกาสในการทำธุรกิจในการทำแพลตฟอร์มนั้นมีอะไรบ้าง? ความท้าทายต่างๆ ที่แต่ละองค์กรเจอและมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร?

แพลตฟอร์มแตกต่างจากแอพพลิเคชันบนมือถืออย่างไร

คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE Thailand

อริยะ: ในกรณีของไลน์นั้น เราเริ่มต้นจากการเป็นแอปแชทบนมือถือ หลัง 7 ปี ไลน์ได้ขยายจากการเป็นแอปมาสู่แพลตฟอร์มที่มี ecosystem ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น LINE TV, LINE Giftshop, LINE@, LINE Games, LINE Pay และอื่นๆ ซึ่งในขณะนี้ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ได้ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ก่อนเป็นอันแรก

เอเจย์: คล้ายกันกับกรณีของ Go-Jek เราเริ่มดำเนินการในตลาดที่มีโครงสร้าง unstructured ให้บริการ ride-sharing และ food-sharing ในระยะแรกได้มีผู้เข้าใช้แอปจำนวนมาก เนื่องจากมันได้ช่วยเข้าไปแก้ปัญหาให้ผู้คนได้ ไม่ว่าใครจะลืมของไว้ที่บ้านและต้องการให้คนนำมันไปส่ง บ้างต้องการอาหารไปส่งยังออฟฟิศ ทั้งหมดนี้ Go-Jek สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้ จากการที่เราได้ทำการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการคืออะไร ทำให้เราสามารถหาโอกาสในการเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ได้

ทำไม Startup จำนวนมากถึงผันตัวมาเป็นแพลตฟอร์ม

เกรซ หยุน เซีย (Grace Yun Xia) ผู้อำนวยการ Jungle Ventures

เกรซ: หลายกรณีที่เราเห็นหลายแอปพลิเคชันไม่สามารถอยู่เพียงลำพังได้อีกต่อไป ยกตัวอย่างในกรณี WeChat ที่ได้เปลี่ยนตัวเองจาก closed-loop ไปสู่ open-loop Startup โดยการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Startup อื่นๆ เพื่อมอบบริการในด้านการคมนาคม, ธุรกรรมทางการเงิน, ride-sharing และอีกมาก จริงอยู่ที่ว่า ธุรกิจมีมีความจำเป็นที่จะต้องเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงด้วยว่าในทุกๆ ธุรกิจไม่สามารถที่จะเป็นพาร์ทเนอร์กับทุกคนหรือกับใครก็ได้

เอเจย์: เราเพิ่งจะได้ทำการทดลองมันกับแผนธุรกิจของเราไปนี่เอง อีกทั้งยังให้ได้เล็งเห็นถึงโอกาสจากฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ของเรา ในเดือนมกราคม 2017 มีคนโหลดแอปเรามากว่า 30 ล้านครั้ง และในปี 2018 Go-Jek ได้มีเซอร์วิสที่พร้อมให้บริการบนแพลตฟอร์มของเรากว่า 18 เซอร์วิส และจะมีเพิ่มมาอีก 2 ในช่วงปลายปีนี้ Go-Jek วางแผนที่จะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราไม่ได้ต้องการที่จะไปแข่งขันกับใคร เพียงแค่ต้องการร่วมมือกับ Startup อื่นๆ และเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้คนในพื้นที่

อริยะ: เมื่อไม่นานมานี้ LINE ได้ทำการปล่อยบริการใหม่ที่เรียกว่า LINE JOBS ถูกพัฒนาโดย Startup ไทย ซึ่งเป็นตัวอย่างของการใช้แพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ จริงๆ แล้วการทำแพลตฟอร์มนั้นไม่ควรจะเป็นเป้าหมายไปสักทีเดียวหรือต้องคิดว่าจะเป็นแพลตฟอร์มให้ได้ แพลตฟอร์มนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบริษัทประสบความสำเร็จในการสร้าง ecosystem โดยมีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่รองรับ

อราคิน: ผมมาจากบริษัทโทรคมนาคม ซึ่งต้องทำการดีลกับแพลตฟอร์มในวงกว้าง ผมสามารถพูดได้ว่าการระบบธนาคารนั้นจะเป็น mobile-first ในเร็วๆ นี้ ซึ่งการทำ big data analytics นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ธนาคารจะต้องเริ่มเข้ามาทำแพลตฟอร์ม

ในอนาคตจะเป็นยุคของแพลตฟอร์มสำหรับทุกอย่างหรือเปล่า

เอเจย์ กอร์ CTO ของ Go-Jek

เกรซ: ในฐานะที่เป็น VC เรามีความคาดหวังว่า Startup จะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยตัวเองได้ ซึ่งถ้าหากว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการทำแพลตฟอร์มด้วยก็เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญเช่นกัน มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นเหล่า Startup ร่วมมือกับบริษัทใหญ่ อย่างไรก็ตาม Startup ไม่จำเป็นที่จะต้องกลายเป็นแพลตฟอร์มถ้าพวกเขาไม่มีตลาดที่จะเข้าถึง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม VC จึงไม่สามารถทำการลงทุนใน Startup และบริษัทใหญ่ทุกบริษัทอีกทั้งไม่สามารถเป็นพาร์ทเนอร์กับทุก Startup ได้ สิ่งสำคัญก็คือจะต้องทำการดูด้วยว่าแต่ละธุรกิจนั้นจะไปด้วยกันได้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นจะเป็นการเสียเวลาและทรัพยากรณ์ไปโดยเปล่าประโยชน์

เอเจย์: แพลตฟอร์มของ Go-Jek นั้นได้สร้างผลกระทบด้านสังคมขนาดใหญ่ในอินโดเซีย โดยมีเป้าหมายในการเชื่อมต่อผู้คนด้วยจุดประสงค์ที่มีร่วมกัน สำหรับเราแล้ว ความสะดวกสบายนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ในกรณีนี้แน่นอนว่าการทำแพลตฟอร์มนั้นให้ผลประโยชน์ทั้งกับ Go-Jek และกับลูกค้าของเราด้วย อย่างไรก็ตาม แอพพลิเคชั่นไม่จำเป็นว่าจะต้องผันตัวเองเป็นแพลตฟอร์มทั้งหมด ในบางกรณีการเปลี่ยนแปลงอาจจะนำไปสู่ความเสียหายด้วยซ้ำ ตลาดในแต่ละประเทศนั้นมี pain point และมีวิธีการแก้ปัญหาที่ต่างกันออกไป และ Startup จะต้องทำความเข้าใจและหาทางแก้ไข pain point นั้นให้ได้

ในกรณีของความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล แพลตฟอร์มจะทำอย่างไรกับข้อมูลที่ได้รับมา

อริยะ: เราใช้ข้อมูลที่เราได้มาทำการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อที่จะทำการพัฒนาบริการและประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับให้ดียิ่งขึ้น

เอเจย์: เห็นด้วยกับคุณอริยะ เราไม่ได้นำข้อมูลมาใช้ในจุดประสงค์อื่นนอกจากการพัฒนาธุรกิจของเราเพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีขึ้น

เอเชียจะขึ้นมาเป็นผู้นำเทรนด์นวัตกรรมต่อจาก Silicon Valley หรือเปล่า

คุณอราคิน รักษ์จิตตาโภค ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานพัฒนาบริการ แอปพลิเคชันโทรคมนาคม และเครือข่าย

อราคิน: จริงๆ แล้วมันไม่ได้สำคัญว่านวัตกรรมจะเกิดขึ้นที่ไหน นวัตกรรมจะเกิดขึ้นเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นมา และจะสร้างโซลูชั่นแก้ไขปัญหานั้นให้สำเร็จได้อย่างไร

อริยะ: ส่วนตัวแล้ว มองจีนในฐานะผู้นำในการขับเคลื่อนแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในจีน

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image
Responsive image

9 ทักษะดิจิทัล ปี 2024 สร้างมูลค่าให้บริษัทด้วย Tech Skills แห่งอนาคต

ทักษะดิจิทัล หรือทักษะด้านเทคโนโลยี (Tech Skills) ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด...

Responsive image

AI ล้ำหน้าหรือภัยอนาคต? แล้วมนุษย์จะเป็นผู้ล่าหรือเหยื่อ | Tech for Biz EP.17

ในยุคที่ AI เติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีการคาดการณ์ว่ากว่า 300 ล้านตำแหน่งจะหายไป คำถามคือ คุณจะยืนอยู่ฝ่ายไหนระหว่างเหยื่อที่ถูกแทนที่ หรือนักล่าที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ? แล้วต้องปรับต...