ปฏิวัติการบริหารธุรกิจด้วย SAP on Cloud: ง่ายกว่า คุ้มค่ากว่า ปลอดภัยกว่า | Techsauce

ปฏิวัติการบริหารธุรกิจด้วย SAP on Cloud: ง่ายกว่า คุ้มค่ากว่า ปลอดภัยกว่า

ปัจจุบันระบบการทำงานขององค์กรมีการใช้ข้อมูลจำนวนมากเป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ มีการใช้แพลตฟอร์มอัจฉริยะหลากหลายมาสนันสนุนการทำงานให้มีความสะดวกรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่ง SAP เป็นหนึ่งในระบบที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการข้อมูลเหล่านั้นเพราะเป็นซอฟต์แวร์ประเภท Enterprise Resource Planning หรือ ERP ที่ช่วยรวบรวม จัดการ และนำส่งข้อมูลจากกระบวนการทางธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การจัดซื้อ การผลิต และการบริหารทรัพยากรบุคคล ทำให้ผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและถูกต้อง สนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ทว่าความท้าทายของโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีโดยเฉพาะระบบแบบ on-premise ในการปรับใช้งาน SAP สำหรับองค์กรคือ การต้องลงทุนอย่างมากในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้สามารถรองรับการทำงานของระบบ SAP ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังต้องการการดูแลรักษาและการจัดการที่ซับซ้อน รวมถึงต้องมีทีมไอทีที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ในการปรับแต่งและบำรุงรักษาระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาความไม่เสถียรและให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างไม่สะดุด

เทคโนโลยีคลาวด์ จึงเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขความท้าทาย โดยการลดความจำเป็นในการลงทุนที่มีต้นทุนสูง หากองค์กรต้องการเพิ่มการใช้งานก็สามารถเลือกใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่เพิ่มขนาดทรัพยากรได้ทันที นอกจากนี้เทคโนโลยีคลาวด์ยังตอบโจทย์เรื่องการปรับแต่งระบบ การบำรุงรักษา และการอัปเดตระบบได้ง่ายขึ้น ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การจัดเก็บข้อมูลมีความปลอดภัยสูง เป็นไปตามการกำกับดูแลข้อมูลที่ดี โดยผู้ให้บริการคลาวด์จะรับผิดชอบการจัดการด้านความปลอดภัยและการบำรุงรักษาแทน ทำให้องค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่การดำเนินงานหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในระบบคลาวด์ที่รองรับการทำงานของ SAP และ ERP ได้เป็นอย่างดี คือ Huawei Cloud ที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure as a Service: IaaS ครอบคลุม 33 ภูมิภาคทั่วโลก แบ่งโซนการให้บริการ (Availability Zone) ออกเป็นโซนต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง หากแห่งใดแห่งหนึ่งเกิดปัญหาโซนที่เหลือสามารถรันต่อและให้บริการลูกค้าได้โดยไม่หยุดชะงักกลางคัน โดยในประเทศไทยเองก็มีโซนการให้บริการมากถึง 3 แห่ง เพื่อให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและพร้อมรองรับการเก็บข้อมูลภายในประเทศ

Huawei Cloud

คุณชวัลสิทธิ์ รงค์ทอง ผู้เชี่ยวชาญจาก Huawei Cloud เผยว่า “Huawei Cloud มีฐานลูกค้าองค์กรอยู่ในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการเงิน อุตสาหกรรมค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ โดยอุตสาหกรรมที่ใช้บริการของ SAP on Cloud มากที่สุดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มค้าปลีก และอีกหนึ่งกลุ่มที่หลายคนมองข้ามไปคือกลุ่ม Healthcare หรือ โรงพยาบาล ที่มีการใช้ระบบ SAP เยอะมาก”

Source: www.huaweicloud.com

ด้านการให้บริการ SAP on Cloud คุณชวัลสิทธิ์อธิบายเพิ่มเติมว่า มีทั้งลูกค้าที่รันระบบ SAP ทั้งหมดบนคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ และลูกค้าที่เลือกใช้บางส่วนแบบไฮบริด เช่น นำโซลูชัน SAP HANA และ SAP B1 มาอยู่บน Huawei Cloud ส่วนระบบที่เหลือสามารถใช้งานใน Data Center ของตัวเองเช่นเดิม ในส่วนของแรงจูงใจที่หลายองค์กรมาใช้ Huawei Cloud คือ เรื่องประสิทธิภาพที่มอบให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่อง Performance ที่เร็วกว่าคลาวด์รายอื่น ๆ เฉลี่ย 15-25% เรื่องการไม่ต้องเสียเวลาในการสั่งซื้อฮาร์ดแวร์มาติดตั้งระบบ SAP ทำให้การลงทุนด้านเทคโนโลยีมีความคุ้มค่าอย่างมาก เพราะไม่ต้องมีการคำนวณสเปกเครื่องหรือจ่ายล่วงหน้าเพื่อใช้งานนาน 5 ปีอย่างแต่ก่อน แค่คลิกคำสั่งบนระบบคลาวด์ก็สามารถเริ่มรันระบบและปรับให้รองรับปริมาณข้อมูลที่มากขึ้นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และยังมีบริการ Security Service ดูแลด้านความปลอดภัยให้ใช้ฟรีอีกด้วย

Use Case: ลูกค้าที่อยู่ในเกษตรอุตสาหกรรม (Agroindustry)

กรณีศึกษาของอุตสาหกรรมการผลิตอาหารที่มีออศฟิศกระจายอยู่ทั่วประเทศไทยและอีกหลายประเทศทั่วโลก เลือกใช้บริการ SAP บน Huawei Cloud เต็มรูปแบบ เพื่อจัดการธุรกิจตลอดซัพพลายเชน ตั้งแต่การผลิตอาหาร การบริหารสินค้าคงคลัง การขนส่งออร์เดอร์ และจากการใช้งานโซลูชัน SAP on Cloud ช่วยให้บริษัทมีประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งมอบสินค้าได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีและการบำรุงรักษาระบบได้เป็นอย่างดี

Use Case: ลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมการแพทย์ (Healthcare)

กรณีศึกษาของโรงพยาบาลขนาดใหญ่เลือกใช้ระบบ SAP on Cloud เพื่อบริหารจัดการข้อมูลด้านต่าง ๆ ในการดำเนินงาน เช่น การจัดการทรัพยากรบุคคล การจัดการซัพพลาย การจัดซื้อจัดจ้าง การจัดการคลังยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การจัดการระบบเวชระเบียน เพราะ Huawei Cloud สามารถ Comply ทั้งในเรื่องของ Data Privacy ต่าง ๆ และได้มาตรฐาน ISO 27799 ที่โรงพยาบาลต้องการ ซึ่งมีผู้ให้บริการคลาวด์ไม่กี่รายในโลกที่ให้บริการได้

True IDC แนะวิธีการเลือกใช้บริการคลาวด์อย่างตรงโจทย์

ในยุคที่การนำเทคโนโลยีคลาวด์เข้ามาใช้กลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับองค์กรที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน True IDC ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ได้รวบรวมข้อแนะนำที่สำคัญเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจใช้คลาวด์ได้อย่างมั่นใจ ราบรื่นและตอบโจทย์ธุรกิจ คุณณัฐพัชญ์ นราพิมพ์สกุล Head of Solution & Cloud Consulting, True IDC เปิดเผยว่า เวลาลูกค้าจะเลือกใช้บริการคลาวด์จะเปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ ในหลายแง่มุม ดังนี้

SAP on Cloud

1)* บริการคลาวด์นั้น มี Professional Services ที่ซัพพอร์ตและตอบโจทย์ธุรกิจได้มากน้อยแค่ไหน ตั้งแต่การออกแบบโซลูชันโครงสร้างพื้นฐาน การเตรียมโครงสร้างพื้นฐานของระบบคลาวด์ในการรองรับการตั้งค่าการใช้งานในองค์กรได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ (Landing Zone Best Practice) มีบริการหรือแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อใช้งานบนระบบคลาวด์โดยเฉพาะ (Cloud Native Services) 

2) บริการคลาวด์นั้นรองรับ Infrastructure as Code (IaC) มากแค่ไหน ทำได้ทุกบริการหรือไม่ เนื่องจากมีลูกค้าหลายรายต้องการทำระบบอัตโนมัติ (Automate Deployment) บริการแบบ IaC จึงมีส่วนในการตัดสินใจใช้บริการมากขึ้น 

3) บริการคลาวด์นั้น สามารถขยายการเติบโตได้มากน้อยแค่ไหน (Scalability)

4) บริการคลาวด์นั้น สามารถอินทิเกรตกับ Third Party หรือ Open Source ได้หรือไม่ เพราะลูกค้าบางรายอาจใช้บริการจาก Third Party ดังนั้น Core หลักของบริการคลาวด์ที่จะเลือกจึงต้องอินทิเกรตกันได้

5)* บริการคลาวด์นั้น มีราคาแพงไหม เป็นอีกเรื่องที่ลูกค้าให้ความสำคัญ (Price Concern) ถ้าใช้งานไประยะหนึ่งจะลดต้นทุนได้มากน้อยแค่ไหน และหลายครั้งที่ลูกค้าให้เปรียบเทียบบริการคลาวด์กับราคาของผู้ให้บริการแต่ละราย

6)* บริการคลาวด์นั้น มี Security & Compliance แบบไหน โดยลูกค้าจะมองตั้งแต่ความปลอดภัยระดับ Host ขึ้นไป เช่นที่ Huawei Cloud มี Host Security Service (HSS) ระดับ Network มี Cloud Native Service Firewall และมี Access Control list ป้องกันหรือไม่ รวมถึงในระดับ Application มีบริการ Web Application Firewall (WAF) หรือไม่ และมีใบรับรองในด้านต่าง ๆ ครบถ้วนหรือไม่ เช่น การรองรับ PDPA, PCI/DSS, CSA-STAR, SOC2 และ ISO ต่าง ๆ

7)* บริการคลาวด์นั้น มีความหน่วงและการตอบสนองเร็วแค่ไหน (Latency & Response Time) แค่ไหน แบรนด์ไหนตอบสนองได้ดีที่สุด ซึ่งสัมพันธ์กับคลาวด์ด้วยว่า มีการตั้งระบบอยู่ใน Data Center ประเทศใด ใกล้กับผู้ใช้งานหรือไม่

8) บริการคลาวด์นั้น มี Public Document ให้ผู้ใช้งานไปเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองหรือไม่

9) บริการคลาวด์นั้น มี Support Plan เป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่ มี Scope และ SLA อย่างไร 

หมายเหตุ : ข้อที่มี * คือ Pain Point ของลูกค้าที่พบได้บ่อย

True IDC ให้บริการคลาวด์แก่ลูกค้าองค์กรแบบครบลูป (End-to-End) โดยมีบริการหลัก ดังนี้

  • Consulting Service - บริการให้คำปรึกษา ประเมินระบบปัจจุบัน ข้อจำกัดต่าง ๆ ช่วยวางกลยุทธ์การย้ายข้อมูล (Migration Strategy) ให้ลูกค้า การดูแลด้านต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) โดยเหล่าบริการนี้ซัพพอร์ตองค์กรขนาดใหญ่จำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมการผลิต การศึกษา โทรคมนาคม การเงิน ค้าปลีก 

  • Professional Service – บริการออกแบบระบบคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยโดยยึดแนวทาง Well-architected มีการกำหนด Landing Zone ในการรันแอปพลิชัน การทำ Application Modernization ด้วยเทคนิค CI/CD DevOps เพื่ออัปเดตแอปพลิเคชันเป็นเวอร์ชันล่าสุดโดยอัตโนมัติ (Automation Deployment) การติดตั้งและย้ายระบบสู่คลาวด์โดยทีมผู้ชำนาญและมีกระบวนการทำงานตามแผนงานที่วางไว้ตามมาตรฐานสากล พร้อมด้วยบริการด้านการรักษาความปลอดภัยทางไอทีเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกโจมตีและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและระบบ (Implement Security Best Practices) และการทำ Cost Optimization ให้มีค่าใช้จ่ายตรงกับความต้องการใช้งานจริง

  • Managed Services – ช่วยแนะนำและตอบคำถามด้านเทคนิค (Technical Advisory) และช่วยดูแลการใช้งาน บริหารจัดการหรือปรับเปลี่ยนตามความต้องการเช่น ช่วยลบ config รวมถึงมอนิเตอร์ให้ว่า หากเกิดสิ่งผิดปกติจะมีการแจ้งเตือน (Monitoring) ช่วยเหลือตามคำร้องขอ (Service Request) และการแก้ไขปัญหา incident ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนคลาวด์ รวมถึงการทำรายงานสรุปและวิเคราะห์ข้อมูล (Reporting) ในแต่ละเดือนว่า ประสิทธิภาพการใช้งานเป็นอย่างไร ควรเพิ่มระบบอัตโนมัติเข้ามาหรือไม่ ไปจนถึงช่วยวางแผนการลดค่าใช้จ่ายให้ลูกค้า

  • Billing Service - บริการที่ช่วยวางแผนการชำระค่าบริการ โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบแต่ละกระบวนการได้ด้วยตนเองรวมถึงจัดทำรายงาน ควบคุมการใช้งาน และแจ้งเตือนค่าใช้จ่ายกรณีที่มีการใช้งานเกิน ทำให้คุณสามารถบริหารการเงินได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญสามารถออกใบกำกับภาษีได้

การนำระบบ SAP ขึ้นคลาวด์นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ การเข้าถึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและการรวมกระบวนการธุรกิจเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนไปใช้ SAP on Cloud ไม่เพียงแค่ลดต้นทุน แต่ยังช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ดียิ่งขึ้น นี่จึงเป็นโอกาสที่องค์กรควรใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัล

สนใจสอบถามการใช้งาน SAP on Cloud สามารถติดต่อ True IDC ได้ที่ https://www.trueidc.com/th/contact 

บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Gartner เผย! 10 เทรนด์เทคโนโลยี 2025 ที่ผู้นำต้องปรับตัวรับตามให้ทัน

โลกเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว องค์กรธุรกิจและผู้นำด้านไอทีจึงต้องปรับตัวให้ทัน Gartner บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก ได้เผย 10 เทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ (Strategic Technology T...

Responsive image

เจาะลึกอนาคต Data Center - Cloud Service ไทย อัพเดท ปี 2024 Big Tech ลงทุนในไทยแล้วกี่เจ้า ?

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกบริษัทที่เข้ามาลงทุนในไทย พร้อมศักยภาพ แนวโน้ม และโอกาสในการลงทุน Data Center และ Cloud Service ในประเทศไทย ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมต่อยอดให้ไทยกลา...

Responsive image

ขาดทุน 4 ปีซ้อน! ทำไม 'ธนาคารไร้สาขา' ในฮ่องกง ยังคงดำเนินธุรกิจ แม้ไม่มีกำไร

การเปิดตัวของธนาคารไร้สาขาหรือ Virtual Banks ในฮ่องกงเมื่อสี่ปีที่แล้วถูกมองว่าเป็นอนาคตของการบริการทางการเงินในยุคดิจิทัล โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้นและล...