เทคโนโลยี RNA therapeutics กำลังปฏิวัติวงการรักษาโรค ด้วยศักยภาพในการรักษาโรคที่รักษาได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นโรคทางพันธุกรรม มะเร็ง หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด ความก้าวหน้าในด้านนี้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาล และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับบริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทเภสัชภัณฑ์ขนาดใหญ่ ซึ่งส่งผลให้คาดการณ์ว่าตลาด RNA therapeutics จะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ตลาด RNA therapeutics เติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2016 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในระดับสูง ด้วยการมุ่งเน้นการแก้ไขยีนที่ทำให้เกิดโรค หรือผลิตโปรตีนที่ต้องการ โดยเทคโนโลยี RNA therapeutics มุ่งเป้าไปที่โปรตีนที่ "รักษาได้ยาก" ซึ่งพบในหลากหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคทางพันธุกรรม มะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด และอื่นๆ อีกมากมาย โดย 3 แนวทางหลักในการพัฒนา RNA therapeutics ได้แก่:
Alnylam Pharma ถือเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำในด้าน RNAi therapeutics และได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นบริษัทแรกที่ได้รับการอนุมัติยา RNAi จาก FDA ปัจจุบัน Alnylam มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอนุมัติแล้วถึง 5 รายการ และยังขยายขอบเขตการพัฒนาไปสู่โรคทางระบบประสาทส่วนกลาง แต่การแข่งขันในตลาดนี้ก็ดุเดือด เพราะมีบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมากเข้ามามีบทบาท โดยแต่ละบริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน มีบริษัทสตาร์ทอัพมากกว่า 120 รายที่กำลังพัฒนา RNA therapeutics และได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวนมากได้แก่
แม้ว่าเทคโนโลยี RNA therapeutics จะมีศักยภาพสูงในการปฏิวัติวงการรักษาโรค แต่ก็ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ ทั้งในด้านกระบวนการนำยาไปยังเนื้อเยื่อเป้าหมายที่มีความซับซ้อน การพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความปลอดภัย การผลิตเชิงพาณิชย์ และการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงยา นอกจากนี้ ยังมีประเด็นด้านจริยธรรมที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
อย่างไรก็ตาม การวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การผสมผสานเทคโนโลยี RNA กับเทคโนโลยีอื่นๆ และการใส่ใจต่อประเด็นด้านจริยธรรม จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของ RNA therapeutics และนำไปสู่ยุคใหม่ของการแพทย์เฉพาะบุคคลและการรักษาที่ตรงจุด ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ป่วยและสังคมโดยรวมในอนาคต
ข้อมูลจากรายงาน CB Insights Tech Trends 2025
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด