เมื่อเร็วๆ นี้ Techsauce ได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน SAP “Powering Customer Success in SEA” เจาะกลยุทธ์การใช้เทคโนโลยีขององค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่ความสำเร็จ ที่เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ภายในงานได้มีการอภิปรายระหว่าง ผู้บริหารขององค์กรชั้นนำต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลูกค้าของ SAP และผู้บริหาร SAP ถึงความท้าทายและการก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องเผชิญระหว่างการเปลี่ยนแปลง บทเรียนอะไรที่องค์กรไทยสามารถนำไปปรับใช้ได้บ้าง มาดูกัน

สิ่งสำคัญในการทำ Digital Transformation เพื่อก้าวสู่การเป็น Intelligent Enterprise

บริษัท เจจี ซัมมิท (JG Summit) เป็นกลุ่มบริษัทของชาวฟิลิปปินส์รายใหญ่และมีธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่การเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจดิจิทัลในฟิลิปปินส์ มีจุดมุ่งหมายที่ต้องการกระตุ้นให้องค์กรขยายการเติบโตจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วในเครือในประเทศและทั่วภูมิภาค องค์กรระดับคองโกลเมอเรตต้องประสบกับความท้าทายเมื่อถึงยุค Digital Disruption

Carlos Santos ประธานบริหารฝ่ายสารสนเทศ บริษัท JG Summit

Carlos Santos ประธานบริหารฝ่ายสารสนเทศ บริษัท JG Summit ได้ให้ความเห็นถึงวิธีที่เขาพยายามพัฒนาองค์กรให้ก้าวไปอีกขั้นภายใต้ความท้าทายในการบริหารงานบริษัทในเครือที่มีความหลากหลายทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจ Cebu Pacific Air สายการบินต้นทุนต่ำแห่งแรกของฟิลิปปินส์ อสังหาริมทรัพย์ หรือ Universal Robina Corporation (URC) ที่ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้นฯ

คาร์ลอส ได้ให้คำแนะนำในเรื่องสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่ดิจิทัลดังนี้

1. การสนับสนุนจากผู้นำองค์กร ซึ่งต้องมีวิสัยทัศน์ในการปรับเปลี่ยนองค์กรเป็นไปในทางเดียวกัน
2. การสร้างกรอบในการทำงาน โดยเข้าใจว่า คนที่ต้องการให้บริการคือใคร ลูกค้าคือใคร และสร้างระบบนิเวศน์ขององค์กรขึ้นมาใหม่ โดยวิธีที่ทาง JG Summit ใช้ในการสร้างกรอบการทำงาน คือ การกำหนดใช้ ระบบอนาลิติกส์ เป็นจุดศูนย์กลาง เพื่อช่วยผู้นำองค์กรให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น นอกจากนี้ระบบอนาลิติกส์ยังสามารถช่วยเรื่องการคาดการณ์ในอนาคตได้ด้วย ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการทำ Digital Transformation
3. การของการหาผู้ให้บริการโซลูชั่นที่เชื่อถือได้ในแบบพาร์ทเนอร์

สร้างแกนหลักดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เพื่อพลิกโฉมการเกษตรสู่ Digital Farming

CrowdFarmX (คราวด์ฟาร์มเอ็กซ์) สตาร์ทอัพในประเทศสิงคโปร์ ที่ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Blockchain คาดทำการเพิ่มเกษตรกรกว่า 10 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเข้าไปบนแพลตฟอร์มในอีก 22 ปีข้างหน้า

ปัจจุบัน 80% ของแหล่งอาหารทั่วโลกมาจากเกษตรกรรายย่อย ในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าถึง 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่เกษตรกรเหล่านี้ได้รับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจต่ำ แม้ว่าความต้องการของผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ด้วยการทำสัญญาแบบ Smart Contract ทาง CrowdFarmX ทำการเชื่อมโยงโดยตรงกับผู้ค้าปลีกช่วยให้เกษตรกรสามารถได้ราคาขายที่ดีขึ้น เกษตรกรยังสามารถใช้ประโยชน์จากการตลาดแบรนด์และแหล่งเงินทุนรวมถึงโอกาสในการเป็นพันธมิตรกับผู้ค้าปลีกเพื่อเพิ่มยอดขายผ่าน CrowdFarmX ที่จะเปิดตัวทั่วภูมิภาคนี้

David Tan ผู้ก่อตั้งและ CEO บริษัท CrowdFarmX กล่าวว่า "เป้าหมายสูงสุดของเราคือการยกระดับเกษตรกรให้พ้นจากความยากจน ทำเกษตรกรรมให้กลายเป็นอาชีพที่ทำรายได้ดี และรักษาความปลอดภัยของอาหารในอนาคตของโลกได้ สำหรับในประเทศไทย เบื้องต้นเราได้ร่วมมือกับมูลนิธิ Life Impact จากแม่สอด และมูลนิธิในเชียงใหม่ เพื่อช่วยเทรนเด็กสองคนจากมูลนิธิในการเป็นผู้นำที่จะช่วยสร้าง Food Cradle และศูนย์เทรนนิ่ง ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อช่วยจัดเทรนนิ่งให้กับเยาวชนในจังหวัดเกี่ยวกับการทำ Eco farming” เดวิดกล่าวเสริม

เพิ่มประสิทธิภาพ “การบริหารคน” แบบดิจิทัล

“คน” เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้เป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ บริษัท บอดี้ ช็อป อินโดนีเซีย 

Mira F. Soetjipto ผู้อำนวยการด้านการบริหารงานบุคคล เทคโนโลยี และการจัดการด้านกลยุทธ์ บริษัท The Body Shop Indonesia กล่าวว่า “เราได้ริเริ่มการปฏิรูประบบดิจิทัลซึ่งครอบคลุมถึง ผู้คน ผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการทำงาน และแพลตฟอร์ม เมื่อเราเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของพนักงาน เราใช้ SAP Success Factors เพื่อปรับกระบวนการทรัพยากรบุคคลของเราให้เป็นแบบดิจิทัลและมั่นใจได้ว่ากลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กรของเราจะสอดคล้องกับประสิทธิภาพของพนักงาน

Mira F. Soetjipto ผู้อำนวยการด้านการบริหารงานบุคคล เทคโนโลยี และการจัดการด้านกลยุทธ์ บริษัท The Body Shop Indonesia

ปัจจุบันองค์กรธุรกิจมีความคาดหวังให้แผนก HR สามารถวิเคราะห์และแชร์ข้อมูลในเชิงลึกได้มากขึ้น เช่น ความหลากหลายของบุคลากร อัตราการจ้างงาน ดังนั้นเอชอาร์ในยุคนี้ต้อง data savvy สามารถคิดวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีจึงมีบทบาทสำคัญ ที่องค์กรของเรายังได้จัดการเทรนนิ่งบุคลากรเอชอาร์ในหลายๆ ด้าน เช่น การเทรนนิ่งให้สามารถเข้าใจระบบดาต้า อนาลิติกส์ เพื่อสามารถอ่านข้อมูลและรายงานได้ เทรนนิ่งด้านธุรกิจเพื่อให้พวกเขาสามารถอ่านรายงานการเงิน เข้าใจโมเดลธุรกิจ และเทรนนิ่งด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เทคโนโลยี SAP SuccessFactors ช่วยให้เรากลายเป็นอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์และรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน"

พัฒนาระบบการจัดการการเดินทางและค่าใช้จ่ายในองค์กร

บริษัท มิตซุยแอนด์โค (Mitsui & Co. , Ltd.) เป็นบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจใน 9 ส่วน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า แร่และโลหะ โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน โมบิลิตี้ เคมีภัณฑ์พลังงาน อาหารและค้าปลีก การบริการลูกค้า และการพัฒนานวัตกรรมและองค์กร โดยกำลังสร้างมาตรฐานขององค์กรในการจัดการการเดินทางและค่าใช้จ่ายขององค์กรผ่านทาง SAP Concur

อิคูโอะ ฮายาชิ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายระบบสารสนเทศแผนกวางแผน บริษัท Mitsui & Co. ASIA PACIFIC

อิคูโอะ ฮายาชิ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายระบบสารสนเทศแผนกวางแผน บริษัท Mitsui & Co. ASIA PACIFIC กล่าวว่า " Mitsui ต้องการขยายธุรกิจในเอเชียอย่างต่อเนื่อง เรามีสำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 28 แห่งใน 15 ประเทศ ซึ่งเราต้องการปรับปรุงมาตรฐานเกี่ยวกับการจัดการค่าเดินทางหรือค่าใช้จ่ายในองค์กร เพราะในองค์กรของเรายังใช้เอกสารเป็นหลักและพนักงานอาจเสียเวลาทำงานทุกสัปดาห์ในการกรอกคำขอเดินทางหรือเรียกร้องค่าเสียหายและแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ประโยชน์ที่เราได้รับคือ ช่วยลดเวลาในการเรียกร้องค่าใช้จ่ายได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์โดยใช้ความสามารถของโทรศัพท์มือถือ เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการด้านการเงินเนื่องจากกระบวนการอนุมัติมีความง่ายขึ้น และลดภาระงานให้กับพนักงานเพราะสามารถให้บริการผ่านคลาวด์"

เกี่ยวกับ เอสเอพี (SAP)

ในฐานะบริษัทด้านคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย SAP HANA® เอสเอพี เป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นระดับองค์กร ที่ได้ช่วยเหลือองค์กรขนาดต่างๆในทุกอุตสาหกรรมให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น โดย 77% ของรายได้ที่เกิดจากการทำธุรกรรมของโลกนั้นทำบนระบบของเอสเอพี นอกจากนี้เทคโนโลยี Machine Learning, IoT และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูงของเอสเอพี ช่วยเปลี่ยนธุรกิจของลูกค้าให้เป็นอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพีช่วยให้ผู้คนและองค์กรเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง รวมถึงส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ เราลดความซับซ้อนของเทคโนโลยีเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ของเราได้อย่างที่ต้องการและต่อเนื่อง ชุดแอพพลิเคชั่นและบริการครบวงจรของเอสเอพี ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและภาครัฐกว่า 413,000 ราย สามารถทำกำไร ปรับตัว และสร้างความแตกต่างได้ ด้วยเครือข่ายลูกค้าพาร์เนอร์ พนักงาน และผู้นำทางความคิดที่มีอยู่ทั่วโลก เอสเอพีช่วยให้โลกดำเนินงานได้ดีขึ้นและปรับปรุงชีวิตของผู้คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sap.com