การเข้าซื้อกิจการมีหลากหลายรูปแบบ อย่างเช่น เข้าซื้อหุ้นจนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีสิทธิบริหารกิจการ หรือซื้อเฉพาะสินทรัพย์ หรือหน่วยธุรกิจบางหน่วยที่เห็นว่าทำกำไรได้ดี มีอนาคตสดใส หรือส่งเสริมกับธุรกิจของตัวเองก็เป็นไปได้เช่นกัน ซึ่งรูปแบบการควบรวมที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละดีลธุรกิจก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไป เพราะหลังจากปิดดีลได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการปรับปรุงการบริหาร Operation ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงและเป้าหมายใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะเห็นผลกระทบต่อพนักงานในธุรกิจที่มีการควบรวมอย่างชัดเจน จึงทำให้เจ้าของกิจการจำเป็นต้องรู้เสียก่อนว่า ก่อนตัดสินใจขายธุรกิจ Startup ต้องรู้อะไรบ้าง โดยบทความนี้จะพาไปดูแต่ละข้อที่จะบอกว่าต้องรู้อะไรก่อนตัดสินใจขายธุรกิจ
สิ่งที่เจ้าของกิจการควรรู้เป็นอันดับแรกคือการประเมินผู้เข้าซื้อกิจการเสียก่อน เพราะจะทำให้เกิดการเตรียมพร้อมทั้งตัวเองและพนักงานในบริษัท เพราะบางครั้งการเข้าซื้อกิจการอาจทำให้เกิดความบาดหมางทางความคิดและมีผลกระทบต่อวัฒนธรรมองค์กรได้เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือต้องทำให้พนักงานเข้าใจและเข้าสู่วัฒนธรรมองค์กรรูปแบบใหม่จากผู้ซื้อกิจการ มีการพูดคุยและตกลงกับผู้ซื้อกิจการว่าจะสร้างค่านิยมแบบใดเพื่อสะท้อนองค์กรออกมาโดยไม่เสียผลประโยชน์
การเข้าซื้อกิจการมี 5 ประเภทด้วยกัน ที่เจ้าของต้องรู้ก่อนว่าทำไมและแบบใด
ในระหว่างการเข้าซื้อกิจการที่มักจะมุ่งไปที่เรื่องของธุรกรรมทางการเงิน เช่น การประเมินมูลค่า การปรับเงินทุนหมุนเวียน การชดเชยค่าเสียหาย แต่ลิสต์ข้างล่างต่อไปนี้คือสิ่งที่เจ้าของกิจการควรทำก่อนที่จะตกลงพิจารณาการเข้าซื้อกิจการ
ค่าตอบแทนพนักงาน: องค์กรควรปรับค่าตอบแทนพนักงานก่อนการเข้าซื้อกิจการ ไม่เช่นนั้นพนักงานของคุณจะได้รับเงินเดือนเริ่มต้น ทั้งที่ควรจะสูงขึ้นเมื่อส่วนของผู้ถือหุ้นถูกลบออกไป ดังนั้นให้ทำการเปรียบเทียบค่าตอบแทนแล้วรอดำเนินการจนกว่าจะแน่ใจอย่างยิ่งว่าการทำธุรกรรมจะเสร็จสิ้น
ตำแหน่งพนักงาน: องค์กรจะต้องจับคู่พนักงานกับตำแหน่งและค่าตอบแทนของผู้ซื้อกิจการให้เหมาะสม แม้ในช่วงแรกผู้ซื้อจะเน้นไปที่การชดเชยเงินสดและผลประโยชน์อื่นๆ แต่ให้ดูความแตกต่างระหว่างเรื่องต่างๆ ก่อนทำแผน เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่มักจะอิงทุกอย่างตั้งแต่โบนัสและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ขององค์กร ดังนั้นควรสนับสนุนพนักงานของคุณอย่างเต็มที่
การเก็บรักษา: ต้องใช้อำนาจตัดสินใจว่าจะเก็บใครไว้ในองค์กร เพราะมันเป็นดาบสองคมที่ให้พนักงานอยู่เฉยๆและรับค่าตอบแทนไป พยายามอย่าให้เกิน 2 ปี ไม่เช่นนั้นอาจนานเกิน ซึ่งเจ้าของกิจการสามารถขอเจรจารักษากลุ่มพนักงานตามดุลยพินิจกับผู้เข้าซื้อกิจการได้ เพื่อรักษาพนักงานหลักที่อาจจะต้องการลาออกในไม่ช้าหลังการเข้าซื้อกิจการ
งบประมาณและแผนการจ้างงานที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า: การระดมเงินจากนักลงทุนเป็นเรื่องยาก แต่สามารถรอการจัดทำงบประมาณขององค์กรได้ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ใช้งบประมาณและจำนวนพนักงานเป็นกลไกในการควบคุม ดังนั้นควรเจรจาทั้งสองอย่าง และไม่จำเป็นที่จะต้องจ้างงานใหม่ทุกครั้ง เพราะส่วนใหญ่มักมาจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายใหม่
การกำกับดูแล: ไม่ว่าจะรายงานใครก็ตาม ความอาวุโสและอำนาจของผู้จัดการคนใหม่เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ให้เจรจาขอคณะกรรมการผู้นำระดับสูงจากผู้ซื้อกิจการ ให้เข้ามาเป็นโครงสร้างใหม่จะเป็นวิธีที่ชาญฉลาดสำหรับองค์กรในการจับคู่รูปแบบกับฟังก์ชันด้วย
Earnouts: ผู้ซื้อกิจการเข้าซื้อด้วยราคาที่เหมาะสมกับประสิทธิภาพ แต่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ขององค์กร ให้ทำงานร่วมกับทนายความด้านการควบรวมกิจการที่มีประสบการณ์ เพื่อรับเงินล่วงหน้าสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ อีกทั้งตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อตกลงระบุเป้าหมายการสร้างรายได้ที่จำเป็นทั้งหมดโดยละเอียด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีสัญญาจ้างงานของคุณเอง เพื่อไม่ให้เจ้าของใหม่ไล่คุณออกหรือลดระดับ
การเข้าซื้อกิจการส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ความสนใจในธุรกิจ ทำให้เจ้าของกิจการต้องแบ่งปันข้อมูลกับคณะกรรมการ ซึ่งทำให้คุณได้เห็นบุคลิกที่แท้จริงของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ภารกิจที่แท้จริงคือการหาผลลัพธ์ที่ปรับตามความเสี่ยงที่ดีที่สุดสำหรับบริษัท โดยพิจารณาจากผู้ก่อตั้ง พนักงาน และผู้ถือหุ้นร่วมกัน นี่คือที่ที่คุณจะสามารถเลือกพันธมิตรที่แท้จริงเป็นนักลงทุนในห้องประชุมคณะกรรมการของคุณ และสมาชิกคณะกรรมการอิสระสามารถให้เสียงที่มีคุณค่าเป็นพิเศษได้
หากคุณตัดสินใจที่จะมีส่วนร่วมกับผู้ซื้อสามารถทำได้ หากไม่ใช่ให้ขอความช่วยเหลือ โดยไม่จำเป็นต้องให้คณะกรรมการเข้ามาเกี่ยวข้อง และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ จนเมื่อมีสมาชิกคณะกรรมอย่างน้อยสองคนที่คุณเชื่อมั่นแล้วให้แสดงความต้องการต่อคณะกรรมการ
การขายบริษัทเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น และยิ่งได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตหลังการซื้อกิจการก่อนที่จะเริ่มเจรจา เจ้าของกิจการและพนักงานก็จะมีความสุขมากขึ้นไปอีก ถึงแม้ข้างหน้าจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่รออยู่ แต่ก็สามารถโน้มน้าวการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างได้โดยใช้แบบจำลองนี้เพื่อให้รู้ว่าควรเจรจาเมื่อใดและที่ไหนและอย่างไร
อ้างอิง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด