Shipify แพลตฟอร์มที่มาแรงส่วนกระแสโควิด เติบโตรับเทรนด์ e-commerce ที่กำลังร้อนแรง Shipify เป็นแพลตฟอร์มด้านสั่งซื้อและนำเข้าสินค้าจากจีน โดยเชื่อมต่อกับผู้ผลิตในจีน ให้ผู้ใช้ที่เป็นแม่ค้า หรือธุรกิจต่างๆ สามารถสั่งซื้อสินค้าและนำเข้าจากผู้ผลิตจีนได้โดยตรง รวมถึงช่วยจัดการในเรื่องขั้นตอนการนำเข้าต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานทำงานผ่านแพลตฟอร์มได้สะดวกทันต่อการแข่งขันในปัจจุบัน

ฟังแนวคิดการบริหารองค์กรในยุคที่การแข่งขันไม่เหมือนเดิม กับ คุณศรัณย์ เตียวรุ่งเรืองกิจ

คุณ ศรัณย์ เตียวรุ่งเรืองกิจ CEO & Co-founder ของ Shipify กล่าวว่า "สองปีที่ผ่านมานอกจากเรื่องพัฒนาแพลตฟอร์ม เรายังมีการลงทุน Infrastructure ด้าน warehouse ที่ประเทศจีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน Logistics ให้การนำเข้าสินค้าเร็วช่วยเสริมจุดแข็งให้แก่ผู้ใช้งานที่เป็นคนซื้อสินค้าเข้ามาขายประหยัดต้นทุนมากขึ้น เพื่อสามารถแข่งกับพ่อค้าคนกลางจีนที่มาลงขายแข่งได้"

คุณศรัณย์กล่าวเสริมว่า "การตัดสินใจลงทุนเรื่อง warehouse เพราะเรามองว่าตอนนี้ platform ที่ดีใช้ง่ายอย่างเดียวไม่เพียงพอ เราต้องทำเรื่อง process ที่เร็วและดีด้วย เพื่อผู้ใช้ได้ประโยชน์ในแง่ประหยัด ต้นทุนและค้าขายได้ดีขึ้น เร็วขึ้น"  ปัจจุบันเรามีผู้ขายมาใช้งานกว่า 3,000 ราย

หานักลงทุนและ Partner ช่วยเสริมจุดแข็ง

Shipify มีแผนจะระดมรอบ Series A เพื่อหานักลทุนที่มีศักยภาพมาช่วยต่อยอด เพื่อมาเสริมบริการด้านต่างๆ บน Ecosystem เช่น การทำเรื่องสินเชื่อให้ผู้ขายที่เขามีศักยภาพเติบโตได้ พัฒนาระบบขนส่งและ warehouse ให้ดียิ่งขึ้น พัฒนาเครื่องมือการขายต่างๆ ที่สามารถมาช่วยเติมเต็มผู้ใช้เราที่ขายของได้ รวมไปถึงด้าน Data และ AI

เร่งต่อยอดโมเดลขยายสู่ SEA

ในอนาคตมองว่าเทรนด์คนขายของออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะทำเป็นอาชีพหลักหรือเสริม เพราะฉะนั้นโมเดลของ Shipify ยังมีศักยภาพสามารถขยายไปได้อีกเยอะ ตั้งเป้าใน 2 ปีใช้โมเดลนี้รุกตลาดประเทศในแถบ South east asia เช่น กลุ่ม CLMV อินโดนีเซีย เป็นต้น อีกเป้าหมายหนึ่งคืออยากพาองค์กรเป็นหนึ่งใน Unicorn ของไทยภายใน 5 ปี  

สามารถติดตามเพิ่มเติมที่ www.shipify.co.th