ในวงการตลาดหุ้น ถ้าพูดถึงวิธีการแบ่งประเภทของหุ้นแล้ว วิธีของ Peter Lynch มักจะถูกยกขึ้นมาบ่อยๆ ตามสไตล์ของ Lynch เขาได้แบ่งหุ้นออกเป็น 6 ประเภท คือ หุ้นโตช้า หุ้นแข็งแกร่ง หุ้นโตเร็ว หุ้นวัฏจักร หุ้นฟื้นตัว และหุ้นทรัพย์สินมาก แล้วเราจะแบ่งประเภทของหุ้นเพื่ออะไรกันล่ะ ก็เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ว่าหุ้นแต่ละกลุ่มควรจะรับมือกับมันอย่างไรน่ะสิ
ในยุคที่ธุรกิจ Startup ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด Steve Blank บิดาแห่ง Startup ก็คิดว่าเราควรจะแบ่ง Startup ออกเป็นกลุ่มๆ เช่นกัน เขาเห็นว่า Startup แต่ละกลุ่มมีเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน และเมื่อเป้าหมายต่างกัน ก็ต้องใช้กลยุทธ์ แผนการ วิธีการสนับสนุนที่ต่างกันออกไปด้วย
Blank อาศัยอยู่แถวๆ ชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ที่นั่นเขาเห็นพวกนักโต้คลื่นและคนพวกนี้แแหละก็ถือว่าเป็น Lifestyle entrepreneur
พวกนักโต้คลื่นรักการโต้คลื่นเป็นชีวิตจิตใจ อะไรที่ทำให้พวกเขาได้โต้คลื่นพวกเขาก็พร้อมทำงานเพื่อแลกกับมันมา ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่ตัวเองรัก พวกเขาไม่ได้ทำงานเพื่อใครนอกจากตัวพวกเขาเอง พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการไล่ล่าหา passion
พวกนักโต้คลื่นรับสอนโต้คลื่นก็เพราะว่ามันเป็นงานที่ตรงกับ passion ของพวกเขา เมื่อพวกเขาทำงาน พวกเขาก็มีเงินมาโต้คลื่นกันอีก ที่ซิลิคอนวัลเลย์ เราอาจจะเห็นผู้ประกอบการกลุ่มนี้ในรูปแบบของนักเขียนโปรแกรมที่รักการท่องเที่ยว หรือนักออกแบบเว็บไซต์ที่รักเทคโนโลยีและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเขียนโปรแกรม ออกแบบ U/I พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องการทำเงินเป็นพันล้านเพราะนั่นอาจจะทำลายไลฟ์สไตล์ของพวกเขาไป
ในอเมริกาก็เหมือนประเทศไทยที่
ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ก็ทำงานหนั
เงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกิจส่
คิดว่าน่าจะเป็นประเภทที่ Blank ชอบมากที่สุด ธุรกิจประเภทนี้คือสิ่งที่ผู้ประกอบการในซิลิคอนวัลเลย์และนักลงทุนปรารถนาที่จะสร้างขึ้นมา ตัวอย่างธุรกิจประเภทนี้ก็เช่น Google, Skype, Facebook และ Twitter
เหล่าผู้ก่อตั้งเชื่อว่าซักวันหนึ่งวิสัยทัศน์ของพวกเขาจะสามารถเปลี่ยนโลกได้ ความคิดของคนกลุ่มนี้ไม่เหมือนกับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก ความสนใจของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่การทำเงินไปวันๆ แต่เป็นการสร้างบริษัทให้สามารถเข้าไปอยู่ในตลาดหุ้นหรือถูกซื้อกิจการและทำเงินเป็นจำนวนหลายๆล้าน
Scalable Startup ต้องใช้เวลาในการลองผิดลองถูกจนกว่าจะหาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม ในการนี้จำเป็นต้องอาศัยเงินทุนที่พร้อมรับความเสี่ยงไปด้วยกัน และกลุ่มคนที่พร้อมจะรับความเสี่ยงนี้ก็คงหนีไม่พ้นพวก Venture Capitalist
ผู้ประกอบการกลุ่มนี้จะเล็งเอาคนที่เก่งที่สุดและฉลาดที่สุดมาร่วมงานกับพวกเขา งานของพวกเขาก็คือการหาโมเดลธุรกิจที่จะสามารถทำซ้ำและขยายตัวได้ และเมื่อพวกเขาพบ พวกเขาก็จะต้องทุ่มสมาธิไปกับการขยายกิจการซึ่งเงินทุนที่ได้จาก Venture Capital สามารถกระตุ้นให้เกิดการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
Startup ที่เข้าข่ายกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะทำพวกแอปพลิเคชั่นบนมือถือหรือเว็บไซต์ เพราะตั้งแต่สมัยก่อนแล้วที่ธุรกิจพวกนี้ตกเป็นเป้าการซื้อกิจการของบริษัทขนาดใหญ่
ยิ่งยุคนี้ที่ต้นทุนในการสร้างผลิตภัณฑ์ก็ลดลงอย่างมาก อีกทั้งการส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดก็ทำได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นักลงทุนก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากมายในการช่วยเหลือธุรกิจประเภทนี้ ทำให้ Startup ที่ทำแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์มีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ และนักลงทุนก็ทำกำไรกันได้มากขึ้น
เป้าหมายของธุรกิจกลุ่มนี้ไม่ใช่การสร้างธุรกิจพันล้าน แต่เป็นการขายกิจการให้กับบริษัทขนาดใหญ่ โดยส่วนใหญ่มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ประมาณ 5-50 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ผู้ก่อตั้งสามารถทำเงินล้านจากธุรกิจประเภทนี้ได้ แต่คงไม่ใช่ระดับพันล้าน
เหล่านักธุรกิจเพื่อสังคมก็ไม่
พวกบริษัทขนาดใหญ่ก็ถือว่าเป็น Startup ได้ถ้าลงมือสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยปกติธุรกิจประเภทนี้ใช้เวลาหลายปีไปกับการมุ่งหน้าลดต้นทุน แต่ตอนนี้การโฟกัสอยู่แค่โมเดลธุรกิจที่เป็นอยู่นั้นไม่พออีกต่อไป เพราะพวกเขาจะต้องเผชิญกับอุปสรรคจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีใหม่ๆ กฎเกณฑ์ใหม่ๆ คู่แข่งหน้าใหม่ เหล่านี้ล้วนสร้างความกดดันแก่บริษัทขนาดใหญ่
บริษัทขนาดใหญ่ก็จำเป็นจะต้องสร้างนวัตกรรมเพื่อความอยู่รอด โดยปกตินวัตกรรมที่เกิดในบริษัทขนาดใหญ่จะเป็น Sustaining Innovation หรือมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าหรือบริการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นภายใต้กรอบแนวคิดเดิม แต่ถ้าอยากจะอยู่รอดจริงๆ พวกเขาก็จำเป็นจะต้องสร้างนวัตกรรมแบบก้าวกระโดดหรือ Disruptive Innovation บ้าง
วิธีการสร้างนวัตกรรมแบบก้าวกระโดดที่บริษัทขนาดใหญ่ใช้ก็คือซื้อกิจการหรือพยายามสร้างนวัตกรรมก้าวกระโดดขึ้นมาโดยอาศัยความสามารถของบุคลากรของตน แต่ก็ใช่ว่าทุกบริษัทจะทำได้ เพราะสิ่งที่คอยขัดขวางไม่ให้มีการเกิดนวัตกรรมก้าวกระโดดในบริษัทขนาดใหญ่ก็คือขนาดของตัวบริษัทและวัฒนธรรมองค์กร
Steve Blank ทิ้งท้ายไว้ว่า Startup ทั้ง 6 ประเภทมีความต้องการที่แตกต่
บทความนี้เป็น Guest Post โดย ชาญณรงค์ จันทร์โส
อ้างอิงข้อมูลจาก: steveblank.com, declara.com
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด