ในโลกของ Startups ที่ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยไอเดียแปลกใหม่ ใครจะคิดว่าแอปพลิเคชันแชร์รูปภาพธรรมดาๆ อย่าง Instagram จะมีมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้ ดูเหมือนว่าแค่คุณมีไอเดียกับทีมงานที่สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ คุณก็ประสบความสำเร็จแล้ว หากแต่ว่าปัญหาหนึ่งที่ Startups หลายๆคนประสบก็คือเรื่องของเงินทุน วันนี้เราจะมาแนะนำแนวทางให้คุณได้ลองเอาไปใช้เวลาต้อง Pitch งานให้กับผู้ลงทุน
มีคนเคยบอกว่า "รู้อะไร ไม่สู้รู้จัก" สิ่งสำคัญที่จะทำให้ Startups ประสบความสำเร็จได้ก็คือเครือข่ายและการสร้างสายสัมพันธ์กับคนอื่น เวลาเราต้องการความช่วยเหลือด้านการเงิน เราจะคำนึงถึงพวก VC เป็นหลัก แต่นั่นก็เพราะว่า VC รู้จักคนมากมาย และโดยส่วนมากล้วนแต่มี connection สามารถทำอะไรได้อย่างรวดเร็ว เช่น แค่พวกเขายกโทรศัพท์โทรหาเพื่อนไม่กี่คนก็สามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้
ตัวเราเองก็สามารถจะรู้จักผู้คนและมีเครือข่ายเป็นของเราได้เหมือนกัน ถ้าเราอยากรู้จักและมีความสัมพันธ์กับกลุ่มนักลงทุน เราก็ต้องออกไปทำความรู้จักกับพวกเขา ลองเจอผู้คนในงานอีเวนท์ต่างๆ หรือพยายามเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่เราหมายปองไว้ รวมไปถึงแลกนามบัตรกับนักลงทุนเมื่อมีโอกาส ซึ่งภายหลังเราจะสามารถติดต่อเขาได้ ของพวกนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืนแต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ เราก็จะเริ่มรู้จักนักลงทุนมากขึ้นและเพิ่มโอกาสให้เราได้ไป pitch งานกับพวกเขา
ถึงแม้เราจะรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับงานหรือโครงการที่เราทำอยู่ แต่มันสำคัญมากที่เราสามารถถ่ายทอดข้อมูลให้เข้าใจง่ายด้วยเวลาอันสั้น เราต้องอธิบายไอเดียให้เหล่า VC เข้าใจภายในครั้งแรกที่พวกเขาได้ยิน คนส่วนใหญ่จะปฏิเสธเพียงเพราะพวกเขาไม่เข้าใจ บางทีคุณอาจจะได้ขึ้นลิฟท์กับนักลงทุนและคุณต้องบอกเขาให้ได้ว่างานที่คุณทำอยู่มันเกี่ยวกับอะไรภายในเวลาก่อนที่นักลงทุนจะเดินออกจากลิฟท์ เพราะนั้นอาจจะเป็นเพียงโอกาสเดียวที่คุณจะได้เสนองานให้กับนักลงทุนที่คุณเฝ้ารอ
ลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ The Perfect Elevator Pitch พูดอย่างไรให้โดนใจในไม่กี่วินาที [infographic]
พยายามสร้างความแตกต่างให้ตัวเองเวลาเราไป pitch งานกับนักลงทุน เพราะพวกนักลงทุนย่อมเจอกับ Startups หลายต่อหลายคน อย่าทำให้พวกเขาคิดว่าเราเป็นแค่ Startups อีกรายที่เข้ามา ต้องทำอย่างไรเพื่อจะให้เขาจดจำเราได้ เราอาจจะทำการบ้านและศึกษาเหล่านักลงทุนมาเรียบร้อยว่าพวกเขาชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร บางทีสิ่งนี้จะทำให้นักลงทุนประทับใจและนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดถึง
แน่นอนว่ามันต้องมีเหตุการณ์เวลาเราไป pitch งานให้นักลงทุนฟังและพวกเขาปฏิเสธที่จะร่วมงานด้วย เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเราควรจะทบทวนตัวเองและเอาผลตอบรับที่ได้ไปแก้ไขให้ดีขึ้น เราอาจจะลองพูดคุยหรืออีเมลไปถาม VC ถึงเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงปฏิเสธงานของเรา และมีอะไรที่เราสามารถจะทำให้พวกเขาลองพิจารณาถึงงานของเราอีกรอบ
เมื่อเราต้องมานั่งตกลงเรื่องสัญญา แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่ต้องคุยกันก็คือเรื่องของตัวเลข เช่น เมื่อคุณมาลงทุนกับเราด้วยจำนวนเงินเท่านี้ จะทำให้คุณได้รับการเป็นหุ้นส่วนกี่เปอร์เซ็นก็ว่ากันไป หากแต่ว่าโดยส่วนตัวของ Startups เราจะมีตัวเลขที่อยากได้ไว้ในใจอยู่แล้ว ซึ่งตัวเลขนั้นจะสื่อได้ถึงราคาที่เราจะยอมตกลง อย่าไปมองถึงจุดที่ไม่สามารถเป็นไปได้ บางทีมันอาจจะมีนักลงทุนที่เข้ามาแสวงผลประโยชน์โดยการเอาเปรียบเรา แต่ถ้าเราสามารถหาจุดกึ่งกลางที่ไม่ทำให้ใครเสียผลประโยชน์ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงข้อเบื้องต้นที่เราอาจจะดึงความสนใจให้เหล่านักลงทุนได้ อย่างไรก็ดี เราต้องระลึกถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเราว่าอยู่ในระดับไหน มีดีเพียงพอที่จะนำเอาไปเสนอให้กับเหล่านักลงทุนได้ครับ
ที่มา: entrepreneur
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด