เชื่อว่าทุกคนคงเคยเขียนไดอารี่กันในสมัยวัยเด็ก และยังคงมีอีกหลายคนไม่น้อยที่ยังนั่งเขียนไดอารี่อยู่ทุกวันในวัยที่โตแล้ว เพราะทุกเรื่องราวที่น่าจดจำสมควรที่จะได้รับการจดบันทึกไว้ที่ใดซักแห่ง Storylog ก็คือพื้นที่ “อ่าน-เขียน” ไว้สำหรับใครที่อยากจะจดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ เมื่อไม่นานมานี้ทีมงานได้เป็นเห็นคนเอาเรื่องราวของ Storylog แอปฯ มาแชร์กันบน Facebook เลยแอบสงสัยไม่ได้ว่ามีอะไรใหม่หรือ และก็ต้องพบว่าเป็น Growth Hacking Style ของ Startup ที่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครจริงๆ
วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์สั้นๆ จากคุณ เปรมวิชช์ สีห์ชาติวงษ์ หรือที่ใครหลายคนในวงการ Startup รู้จักกันดีในนาม.... ปิ๊ปโป้ ผู้ริเริ่ม แอปพลิเคชัน “Storylog” ถึงประเด็นที่พวกเขาใส่บทความสนทนาเอาไว้ในฟีเจอร์อัพเดทของตัวแอปฯ



เข้าไปอ่านปุ๊ป ก็อดขำไม่ได้ เอาไอเดียนี้มาจากไหน?
จริงๆแล้วพวกเราทำกันแบบเอาฮาเลยแหละครับ ฮ่าๆ แต่มันก็เป็นคาแรคเตอร์ของทีมและแบรนด์นิดหน่อยอยู่แล้ว ที่ปกติแล้วก็ไม่ได้จริงจังอะไรกันมาก มันจะเป็นฟิลที่ออกสนุกๆ มากกว่า และ Storylog ก็เป็นพื้นที่ อ่าน-เขียน อยู่แล้ว เลยนึกเขียนอะไรสนุกๆ ไปเลยดีกว่า สาระช่างมัน!
ตอนแรกพวกเราแค่ quote A - B ถามตอบกันแบบสั้นๆ
หลังจากนั้นก็เล่นมุกกันยาวขึ้นและแซวแรงไปถึง Single Gateway ล่าสุดเราก็มีพี่ปิงจากผู้กำกับซีรี่ย์ฮอร์โมนมาช่วยด้วย ฮ่าๆ
กลับมาจริงจังกันบ้าง :-) Feedback ของผู้ใช้เป็นอย่างไร มีจุดวัดผลอย่างไร หลังจากปล่อย Change log ที่บอกตรงๆ ปกติไม่มีใครเค้าอ่านกัน
จริงๆ ก็ไม่ได้วัดผลอะไรเลยครับ (ห๊า!...เสียงบรรณาธิการแอบตกใจ) อย่างที่บอกไปว่าทำเอาฮา ยอดโหลดก็ไม่ได้พุ่งอะไร แต่ Feedback ที่กลับมาเป็น Positive ซะเยอะครับ เห็นมีคนมาลองโหลดเล่นเพราะเห็น Change log นี่เหมือนกัน บางคนก็แคปหน้าจอไป Tweet ด้วย ฮ่าๆ ก็ดีครับ เห็นคนสนุกไปด้วยก็ดีใจ
เจ๋งดี แล้วปีหน้าคิดว่าเราจะได้เห็นอะไรใน Storylog บ้าง
ปีนี้เราพึ่งปล่อยเว็บเวอร์ชั่นใหม่ไป และมีแอปฯ ครบทั้ง iOS กับ Android ซะที คิดว่าคงจะมีการปรับปรุงและเพิ่มของเล่นนิดหน่อยในปีนี้ ปีหน้าวางแผนว่าจะมีการทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อสนับสนุนคนที่อยากเป็นนักเขียน นักเขียนสมัครเล่น และ รวมไปถึงนักเขียนอาชีพจริงๆ ด้วย
"อยากให้ Storylog ช่วยเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างสื่อหนังสือและนักเขียน เข้ากับยุค Digital Economy ครับผม...แต่จะไปท่าไหน เดี๋ยวคงต้องรอดู"