2025 เป็นปีที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจะฮอตและดีดตัวแรงยิ่งกว่าช่วงเวลาไหน ๆ ถือเป็นจังหวะเวลาอันดีที่ คุณธนวัต สุตันติวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า จำกัด หรือ Bitazza Thailand แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย มาเผยมุมมองเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและโอกาสการลงทุนแห่งอนาคต ผ่านเทคซอส ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตามองนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาชุดใหม่ซึ่งจะจัดตั้งในเดือนมกราคมนี้
ในฐานะบริษัทผู้บุกเบิกธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและกำลังก้าวสู่ปีที่ 6 ให้รายละเอียดก่อนว่า Bitazza Thailand เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจแบบนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (โบรกเกอร์) จากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และที่หลายคนอาจไม่รู้ คือ Bitazza Thailand มาถึงจุดที่เป็นผู้นำตลาดในไทยได้แบบที่ใช้ทุนจากผู้ถือหุ้นภายในเท่านั้น โดยมีแผนระดมทุนในอนาคตเมื่อพร้อม ซึ่งนั่นแปลว่ามาครองตำแหน่งโบรกเกอร์ที่อยู่กับคนไทยมาโดยตลอดเพราะผู้บริหารผู้มีการดำเนินงานแบบใกล้ชิด ใช้ความรู้และประสบการณ์รอบด้าน โดยเฉพาะซีอีโอคนนี้ ผู้ผันเส้นทางชีวิตจากการเงินแบบดั้งเดิม มาสู่โลกบล็อกเชนแบบไร้รอยต่อ
ทำให้ Bitazza Thailand ยิ่งมีจุดเด่นต่างจากแพลตฟอร์มอื่นในตลาด ไม่ว่าจะเป็นการที่มีสภาพคล่องสูงและราคาตามตลาดโลก มีการนำเหรียญมาเปิดให้ซื้อขายเพิ่มบนแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็ว ให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกที่หลากหลาย และให้บริการ OTC (Over The Counter) เป็นรายแรก ๆ ของประเทศไทย และมีทีมงานที่มีประสบการณ์ดูแลนักลงทุน High Networth
หากย้อนดูประสบการณ์การทำงานของคุณธนวัต พบว่าสวมหมวกบริหารในหลากหลายบทบาท ทั้งงานบริหารสินทรัพย์ในสำนักงานครอบครัวมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ งานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน การจัดโครงสร้างองค์กร การพัฒนาธุรกิจที่ซับซ้อน รวมแล้วนานกว่า 7 ปีที่ทำงานใต้ปีก ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โดย Vice President - Multi-corporate banking เป็นตำแหน่งที่ปฏิบัติภารกิจหลังสุด ก่อนเข้ามาสานต่องานบริหารองค์กรที่ Bitazza Thailand ไปพร้อมกับการดำรงตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวที่แสนอบอุ่น เป็นสามีและคุณพ่อลูกสองอีกด้วย
ด้วยความรอบรู้และเชี่ยวชาญในแวดวงการเงิน ประกอบกับประสบการณ์ด้านการบริหารองค์กร คุณธนวัตก้าวเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ให้ Bitazza Thailand โดยเริ่มงานในตำแหน่ง หัวหน้ากลุ่มบริษัทด้านกิจการองค์กร ในช่วงกลางปี 2023 แล้วขยับขึ้นสู่ตำแหน่ง ซีอีโอ Bitazza Thailand ในปี 2024 โดยมีพันธกิจหลัก คือ ปรับโครงสร้างองค์กรและขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กรเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในปีที่ผ่านมานั้น คุณธนวัตได้ร่วมเป็นผู้บรรยายและผู้เข้าร่วมการเสวนาบนเวทีระดับนานาชาติหลายเวที อาทิ Blockchain Thailand Genesis, Money2020, Mauritius Cryptoverse Summit, Thailand Blockchain Week 2024, Token2049, GeckoCon 2024 และ Devcon Side Event โดยเวทีที่กล่าวถึงนี้ ซีอีโอธนวัตขึ้นกล่าวในฐานะผู้นำทางความคิดและผู้บริหารในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งยังได้เผยวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อน Bitazza Thailand ไปสู่แพลตฟอร์มการเงินและการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งอนาคต พร้อมชี้เป้าโอกาสใหม่จากการเข้าถึงการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้
หากสังเกตประสบการณ์การทำงาน จะเห็นว่าคุณธนวัตพลิกขั้วจากการทำงานในระบบการเงินดั้งเดิมภายใต้สถาบันการเงิน มาสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งมีช่องว่างที่สามารถเข้าไปเติมเต็มและค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ได้
“หลังจากสั่งสมประสบการณ์มาถึงจุดหนึ่ง ผมเริ่มเห็นข้อจำกัดของระบบการเงินแบบดั้งเดิมที่มีโครงสร้างแบบรวมศูนย์ ว่าถูกควบคุมหรือแทรกแซงจากผู้มีอำนาจได้โดยง่าย ในทางกลับกัน เทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล กลับเปิดโอกาสให้ระบบการเงินสามารถทำงานได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Decentralization) ซึ่งยังคงรักษาความปลอดภัยได้ในระดับที่เหมาะสม จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเบนเข็มมาศึกษาเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง จนได้รับบทบาทและความไว้วางใจให้เป็นหนึ่งในผู้บริหารของอุตสาหกรรมนี้”
นอกเหนือจากข้อจำกัดของระบบการเงินแบบดั้งเดิม คุณธนวัตกล่าวต่อว่า ยังมีอีกปัจจัยที่ต้องจับตา นั่นคือ โลกการเงินแบบดั้งเดิมต้องพึ่งพาประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจสูง ประเด็นนี้จึงสัมพันธ์กับปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์โดยตรง และส่งผลให้เกิดการแบ่งแยกทางการเมืองมากขึ้น หลายประเทศต้องเผชิญกับการถูกกีดกันทางการค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น เพื่อลดปัญหาหรืออุปสรรคด้านการค้าการลงทุนจากความไม่แน่นอนเชิงภูมิรัฐศาสตร์ คุณธนวัตบอกว่า หากประเทศต่าง ๆ เปลี่ยนผ่านจากการใช้เงินเฟียต (สกุลเงินที่ใช้กันในปัจจุบัน เช่น ดอลลาร์สหรัฐ, บาท) มาเป็นโทเคนดิจิทัลที่ผ่านกระบวนการ Tokenization การค้าข้ามแดนก็จะทำได้ง่ายขึ้น การลงทุนก็จะไม่ถูกจำกัดด้วยเขตแดนหรือติดอยู่ในระบบการเงินดั้งเดิมอีกต่อไป
สอบถามถึงความท้าทายเมื่อเข้ามาบริหาร Bitazza Thailand คุณธนวัตตอบว่า ความท้าทายอยู่ที่การทำความเข้าใจเทคโนโลยีเบื้องหลังสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง และเมื่อเข้าใจแบบกระจ่างชัดก็จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มความเชื่อมั่นในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลให้บุคลากรภายในองค์กร พันธมิตร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกองค์กรได้โดยรอบ
“ผมเชื่อว่าหากเราจะสร้างความเชื่อมั่นได้ เราจำเป็นต้องเข้าใจกลไกทุกอย่าง ตั้งแต่ Distributed Ledger Technology (DLT) หรือ เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์, Smart Contracts หรือ สัญญาอัจฉริยะที่มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดำเนินงานอัตโนมัติ ตามสัญญาหรือข้อกำหนดที่ระบุไว้ ไปจนถึงโครงสร้าง Unspent Transaction Output (UTXO) หรือ จำนวนเงินดิจิทัลที่เหลือจากการทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ไปจนถึงความเสี่ยงในทุกมิติที่สามารถเกิดขึ้นได้” คุณธนวัตกล่าว
โดยบทเรียนที่คุณธนวัตได้จากการทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย คือ การดำเนินงานภายใต้กฎระเบียบ เช่น การปฏิบัติตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ด้วยการให้ความสำคัญกับกระบวนการ Anti-Money Laundering (AML) และการรู้จักลูกค้า (KYC/KYB) ทำให้เห็นมาตรฐานและการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในอุตสาหกรรมบล็อกเชน ทั้งยังช่วยส่งเสริมการสร้างและใช้นวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบอีกด้วย
ส่วนบทเรียนที่ได้จากการบริหารสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คุณธนวัตกล่าวถึงกฎเหล็กที่เป็นแนวทางสนองตอบต่อความรวดเร็วและความพลิกผันของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งแตกต่างจากโลกการเงินแบบดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง
“ผมมีกฎเหล็กที่ยึดถือเสมอ คือ ไม่ให้ความเสี่ยงกระจุกตัวอยู่ในที่เดียว หรือที่เรียกว่า ‘อย่าใส่ไข่ทุกฟองไว้ในตะกร้าใบเดียว’ (Concentration Risks) โดยเฉพาะในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง แล้วก็ ติดตามข่าวสารทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับมหภาค (Macro Economy) หรือจุลภาค (Micro Economy) เพราะมีผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจในตลาด ดังตัวอย่างเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX, วิกฤตเครือข่ายบล็อกเชน Terra ที่นำไปสู่การเทขายเหรียญ Luna ซึ่งเป็นเหรียญประจำเครือข่ายนั่นเอง”
และแม้ว่าระบบการเงินแบบดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัลจะแตกต่างกันในหลายมิติ แต่ทั้งสองระบบนั้นสามารถเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนได้ ซึ่งถ้ามองในมุมของคนที่เคยทำงานสายการเงินแบบดั้งเดิม คุณธนวัตบอกว่า ได้มุมมองและประสบการณ์ในเรื่องของการจัดการความเสี่ยง ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ความเสี่ยงด้านเครดิต ความเสี่ยงจากการลงทุนที่กระจุกตัว ความผันผวนของตลาด ความเสี่ยงด้านการป้องกันความเสี่ยง (Hedging Risks) ไปจนถึงความเสี่ยงด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
“ผมเชื่อว่าการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและโอกาส เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีพลวัตสูง และการเข้าใจความเสี่ยงอย่างรอบด้านนี้ ช่วยให้ผมสร้างกรอบการทำงานที่มั่นคงและปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลได้ กอปรกับการปรับใช้แนวคิดที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม มาใช้ในโลกดิจิทัล ยังช่วยในการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ใช้งานได้อีกด้วย” คุณธนวัตกล่าว
คุณธนวัตเผยหนึ่งในเป้าหมายหลักในฐานะซีอีโอของ Bitazza Thailand ว่า ต้องการนำพาบริษัทจากสตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้นไปสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตและมีความเป็นมืออาชีพระดับสูง แต่ยังคงรักษาความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และความสามารถในการปรับตัวตามลักษณะของบริษัทสตาร์ทอัพเอาไว้ได้
สำหรับหลักในการบริหาร Bitazza Thailand ซีอีโอธนวัตเปิดเผยว่า 1) เน้นการใช้ทรัพยากรในสิ่งที่สำคัญ อย่างการมุ่งมั่นบริหารทีมที่มีประสิทธิภาพสูง มีความหลากหลาย และมีความกระชับ ทำได้หลากหลายหน้าที่ เพราะเชื่อว่าการใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพและความหลากหลาย จะนำไปสู่การทำกำไรได้สูงกว่าธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
2) เสริมสร้างศักยภาพให้กับองค์กรโดยนำกระบวนการและมาตรฐานการทำงาน SOPs (Standard Operation Procedures) มาใช้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกขั้นตอนการทำงานในองค์กรมีความชัดเจนและสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อบริษัทเติบโตจากการเป็นสตาร์ทอัพสู่องค์กรที่มีพนักงานราว 200 คน
และ 3) ปลูกฝังแนวคิดแบบองค์กรขนาดใหญ่ที่เน้นเรื่องธรรมาภิบาล (Governance) โดยทีมงานต้องยึดหลักความถูกต้อง โปร่งใส คำนึงถึงความปลอดภัยของสินทรัพย์ และปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเข้มงวด ปราศจากกิจกรรมผิดกฎหมาย เพื่อให้ Bitazza Thailand เป็นแพลตฟอร์มที่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถไว้วางใจได้
“การนำประสบการณ์ด้านการจัดการโครงสร้างองค์กรและพอร์ตการลงทุนมาประยุกต์ใช้ ทำให้ผมสามารถสร้างสมดุลระหว่างการรักษาความคล่องตัวของทีม และการเพิ่มระบบระเบียบที่เหมาะสมกับขนาดและศักยภาพที่เติบโตขึ้นของ Bitazza Thailand ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ เรายังเตรียมรองรับการเติบโตของลูกค้าและจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาโครงสร้างเทคโนโลยีให้รองรับการใช้งานแบบไม่สะดุด และยังคงความพึงพอใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” คุณธนวัตกล่าวเสริม
นอกจากนี้ คุณธนวัตยังบอกอีกว่า ต้องการให้ Bitazza Thailand ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดบล็อกเชน แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะตลาดนี้มีการแข่งขันสูง แต่ ณ ปัจจจุบัน Bitazza Thailand ก็ยังคงรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งยังมีความโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ไม่เหมือนใคร กล่าวคือ ให้บริการในลักษณะของโบรกเกอร์ ซึ่งใช้ความเชี่ยวชาญตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ต่างจากแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ที่มีลักษณะเป็นกระดานเทรดแบบ Exchange ซึ่งจะเกิดสภาพคล่องตามจำนวนเหรียญที่ลิสต์บนกระดาน
ท่ามกลางราคาเหรียญที่มีความผันผวนสูงในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ความโปร่งใสหรือไม่โปร่งใสในการดำเนินธุรทำให้ผู้คนเกิดภาพจำเกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไปต่าง ๆ นานา และบางมุมมองก็กลายเป็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและโทเคนดิจิทัล
Bitazza Thailand จึงเน้นการให้ความรู้ ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงผู้สนใจเรื่อยมา เพราะเข้าใจดีว่าผู้ที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องเรียนรู้เครื่องมือ ศึกษาความเปลี่ยนแปลง ตลอดจนยอมรับในความผันผวน ความไม่แน่นอน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ดังตัวอย่างที่ซีอีโอธนวัตใช้วิธีสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและตอกย้ำการส่งต่อข้อมูลเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ ในประเด็นที่เกิดความเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง นั่นคือ
หลังจากคุณธนวัตให้ข้อมูลอัปเดตแล้วก็กล่าวสรุปในฐานะผู้นำองค์กร Bitazza Thailand ที่เข้าใจระบบการเงินการลงทุนทั้งแบบดั้งเดิมและแบบดิจิทัลว่า การบริการและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเพิ่มโอกาสและสร้างประโยชน์ให้คนที่เข้าถึงสิ่งที่สินทรัพย์ดิจิทัลได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต แต่ ณ วันนี้ ท่ามกลางตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโต สอดรับไปกับการขยายตัวของโลกการเงิน และการทำธุรกรรมจำนวนมากในอนาคต การเข้าใจระบบการเงินที่มีความแตกต่าง ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน และกำหนดกรอบการทำงานที่โปร่งใส เป็นอาวุธชิ้นสำคัญของผู้บริหารที่จะนำพาธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้สามารถเติบโตและก้าวต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง
“ความสามารถในการเชื่อมโยงแนวคิดของการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมของบล็อกเชนช่วยให้ผมสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั้งสองโลกการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ Bitazza Thailand กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือสำหรับบุคคลและสถาบันที่ต้องการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัล
“โดยสิ่งสำคัญคือ ‘การรักษามาตรฐานการดำเนินงานในระดับสูงและการให้บริการที่มีคุณภาพ’ ที่เรายึดมั่นเพื่อสร้างความไว้วางใจ กับการให้ความสำคัญในเรื่อง ‘ความโปร่งใสและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ’ กุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างยั่งยืน” คุณธนวัตกล่าวปิดท้าย
*อ้างอิงมูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยตั้งแต่มกราคม 2024 - มิถุนายน 2024 จาก SEC Open Data โดยนำมาคำนวณเปรียบเทียบมูลค่าตลาดของบริษัทในช่วงเวลาเดียวกันจากฐานข้อมูลของบริษัท
**บุคคลในโฆษณาเป็นบุคลากรของบริษัท บิทาซซ่า จำกัด
***เนื้อหานี้จัดทำโดยบริษัท บิทาซซ่า จำกัด ร่วมกับ บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด
****สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด